PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ปริศนา"เสธ.น้ำเงิน"แนวรบโลกไซเบอร์


ท่ามกลางความขัดแย้ง 4 เดือนที่ผ่านมา นอกจากสมรภูมิรบบนท้องถนน ระหว่าง กปปส.-รัฐบาลจะเข้มข้นแล้ว ในโลกเฟซบุ๊กเองก็คึกคักไม่แพ้กัน

โดยเฉพาะในวันที่ทุกคนรู้ดีว่า การต่อสู้กันระหว่าง “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการกปปส.และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งของความขัดแย้งทั้งหมด แต่ยังมีตัวละครลับที่อยู่เบื้องหลัง และมีมือที่ 3 มือที่ 4 และมือที่ 5 อีกมาก ซึ่งสื่อมวลชนกระแสหลักไม่สามารถเปิดเผยตัวตนคนเหล่านี้ได้ เฟซบุ๊กจึงมีส่วนสำคัญในการวิเคราะห์เบื้องลึก-เบื้องหลัง ให้คนเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น โดยเฉพาะในปริมณฑลที่ลี้ลับอย่าง ตัวละครใน “กองทัพ”

เพราะในสังคมการเมืองแบบไทยๆ การตัดสินใจของ “ทหารสับปะรด-ทหารแตงโม” โดยเฉพาะหน่วยที่คุมกำลัง ล้วนมีบทบาทหลังฉาก ต่างจากบุคลิกเงียบขรึม ไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง ชนิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ วิธีคิดเบื้องหลังของทหาร ทำให้หนังสือซีรีส์ “ลับลวงพราง” ของ “วาสนา นาน่วม” ขายดีติดเบสท์เซลเลอร์ทุกเล่ม ตลอดเวลาที่ออกใหม่

ฝ่าย กปปส. มีแนวรบสำคัญผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจชื่อว่า “แฉ..ความลับ” หรือ Top Secret Thailand มีตัวละครสำคัญ ชื่อ “เสธ น้ำเงิน” คอยวิเคราะห์สถานการณ์เป็นรายวัน แน่นอน เสธ น้ำเงิน ไม่เคยเปิดเผยตัวเองว่าเป็นใคร แต่ลักษณะการเข้าถึงข้อมูล ย่อมมีความใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอย่างแน่นอน จากข้อมูลเชิงลึกทั้งในเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทหารใช้

รวมถึงรู้ว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือชายแดนไทย-พม่า มีการวางกำลังทางการทหารอย่างไร

ชื่อของเสธ น้ำเงิน นั้นตีความได้หลายแบบ จะตีความว่าสีน้ำเงิน คือสัญลักษณ์ ของพระมหากษัตริย์ ก็ได้ จะตีความว่าเป็นการเล่นคำ ให้ตรงกันข้ามกับชื่อ เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ล่วงลับ ซึ่งเคยอยู่กับคนเสื้อแดงก็ได้ หรือจะตีความว่า “น้ำเงิน” เป็นเครื่องแบบของ “กองทัพอากาศ” ก็ได้เช่นกัน

จุดเด่นของเสธ น้ำเงิน คือการเกาะติดความเคลื่อนไหวของบุคคลสำคัญในรัฐบาล รวมถึงฝ่ายตรงข้ามกปปส. ขณะเดียวกัน กองกำลังลึกลับของกปปส.หรือ มือป๊อบคอร์น จะปฏิบัติการอย่างไรบ้าง มียุทธวิธีอย่างไร เสธ น้ำเงินรู้หมด ล่าสุด เสธ น้ำเงินให้ข้อมูลว่า “คนแดนไกล” ได้จ้างการ์ดพิเศษด้วยมูลค่าถึง 1,000 ล้านบาท เพื่อคุ้มกันน้องสาวที่กำลังถูกไล่ล่าขณะนี้

ส่วนเหตุการณ์ปะทะที่ผ่านฟ้าเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา เสธ น้ำเงินก็เล่าอย่างออกรสว่า “ชายชุดเขียว” เกาะติดการทำงานของศรส. และ “ชายชุดดำ” อย่างเต็มที่ และหาก ศรส.เลือกสลายการชุมนุมในจุดใดจุดหนึ่งนั้น “มือป๊อบคอร์น” จะออกปฏิบัติการแน่นอน

ทว่าหลายครั้ง เสธ น้ำเงินก็วิเคราะห์ผิดพลาด เช่น วิเคราะห์ว่า “บิ๊กสีเขียว” จะประกาศกฎอัยการศึก ในวันที่ 21 ก.พ. รวมถึงมีการปล่อยข่าวว่า “สีเขียว” จะสังหารแกนนำเสื้อแดงทีละคน รวมถึงจะเกิดสงครามย่อมๆ ในหลายพื้นที่ ก็เป็นการวิเคราะห์ที่เกินจริงพอสมควร แต่ที่แน่ๆ คือ เสธ น้ำเงิน สนับสนุนการใช้กำลังทหาร จัดการกับรัฐบาล

จุดเด่นอีกอย่างคือ เสธ น้ำเงิน จะสอดแทรกเกร็ดกลยุทธการทำศึกสงคราม โดยเฉพาะจากสามก๊ก "เช่น ลิโป้กล่าวว่า สังหารลิ่วล้อร้อยคนย่อมสนุกสนานกว่า สังหารจอมยุทธเพียงคนเดียว แต่ ขงเบ้งกล่าวว่า สังหารยอดยุทธเพียงคนเดียว..ย่อมดีกว่าสังหารลิ่วล้อนับร้อยคน วันนี้เชพกระทะเหล็กมือที่ 4 ตัดสินใจไม่ได้ จึงจะทำตามลิโป้ และขงเบ้งไป 2 แบบเลย..เตือนแล้วไม่ฟัง โดนซ้อนกลหลอกมาโดนข้าวโพดคั่วอีกแล้ว.." ทำให้เรื่องของเสธ น้ำเงิน มีสีสัน และได้รับความนิยม

มีการแชร์ข้อความของเสธ น้ำเงิน ผ่านไลน์ของกลุ่มผู้นิยมกปปส.กันแทบทุกเช้า ไม่ว่าไลน์ของแม่ค้าหรือไลน์ของนักธุรกิจ ไปจนถึงกลุ่มแพทย์ ล้วนจะต้องผ่านตาข้อความของเสธ น้ำเงิน

ย้ายมาที่มุมแดง มีหน่วยวิเคราะห์เบื้องหลังเชิงลึกเช่นเดียวกัน ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ที่ชื่อว่า “กูต้องได้ 10 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ”โดยใช้ไอคอนเป็นรูปหน้าของทักษิณตัดต่อใส่ชุดกัปตันเครื่องบิน น่าสนใจก็ตรงที่แอดมินของเพจนี้ มักเช็คอินสถานะจากนครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี

สถานะของแฟนเพจนี้ จะเปิดเฉพาะเวลาที่เจ้าของแฟนเพจต้องการแจ้งข้อมูลสำคัญเท่านั้น โดยล่าสุด เพจนี้กลับมาเปิดอีกครั้งในช่วงบ่ายวันที่23 ก.พ. โดยโพสต์ข้อความโจมตี พล.ร.ท.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หลังออกมาระบุว่ากองกำลังต่างชาติอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดที่ อ.เขาสมิง จ.ตราด เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา

แน่นอนเพจนี้มักใส่ข้อมูลเบื้องหลังความเคลื่อนไหวของแกนนำ กปปส. ศาล และกองทัพ โดยเมื่อวันที่ 18 ก.พ. แอดมินได้ใส่ข้อมูลระบุด้วยว่ากองพลที่ 1 รักษาพระองค์ มีมติการประชุมอย่างไร และก่อนหน้านั้น ก็ได้ให้ข้อมูลเครือข่ายที่อยู่รายล้อมสุเทพว่ามีเบื้องหลังอย่างไรบ้าง โดยขณะนี้มีแฟนเพจอยู่ประมาณ 3.6 หมื่นคน และได้รับความนิยมในหมู่คนเสื้อแดงอย่างสูง

ดูเหมือนว่าแนวรบหลังจากนี้จะเข้มข้นขึ้นทั้งบนท้องถนน และบนโลกไซเบอร์ ใครจะเลือกไลค์แฟนเพจไหนก็ขอให้คิดให้ดีว่า ข่าวสารจากเพจเหล่านี้ ไม่ใช่ข่าวจริง แต่จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณคิดซ้ำคิดซ้อนกันต่อไป!!

( @ Posttoday )


ไม่มีความคิดเห็น: