ไพ่ใบสุดท้ายก็ทิ้งลงจากมือแล้ว
นอกจากเรื่องทุจริตจำนำข้าว ซึ่ง ป.ป.ช.เรียกตัว คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปรับทราบข้อหา ใน 27 กุมภาพันธ์ นี้แล้ว คุณยิ่งลักษณ์ ยังมีคดีติดตัวอีกมากมาย ที่ก่อขึ้นมาในช่วงที่ กปปส.จัดชุมนุม เช่น
(1) ชาวนาฟ้องทั้งแพ่ง และอาญา เรื่องข้าว ซ้ำรัฐบาลตั้งงบจำนำข้าวไว้ 5 แสนล้าน แต่ขายข้าวไม่ได้ กู้มาเพิ่มอีก 2 แสนล้าน หมดไปอีก โดยขายข้าวคืนมาได้เพียง 1.8 ล้าน ขาดทุนไป 5 แสนล้านกว่า เงินส่วนนี้หายไปไหน หมดเงิน ติดหนี้ชาวนามา ตั้งแต่ตุลาคม 2556 แต่ไม่เคยคิดจะหาเงินมาใช้ เพิ่งจะคิดหาเมื่อตอนชาวนาจะประกาศชุมนุม
(2) รัฐบาลรักษาการ ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยไม่ผ่านการเห็นชอบ ของ กกต.
(3) พยายามกู้เงินให้เกิดความผูกพันต่อรัฐบาลชุดใหม่
(4) จะออกพันธบัตร ในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการ
(5) ออกทีวีพูล ในลักษณะหาเสียง โดยเสนอเงื่อนไข ตอบแทนแก่ชาวนา ถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก
(6) จะตกเป็นจำเลย ในคดีฆ่าประชาชนโดยเจตนาหวังผล ร่วมกับ ศรส.
6 ข้อนี้ คุณยิ่งลักษณ์ ก็หนักหนาอยู่แล้ว ยังมีเรื่องเดิมจาการไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐบาล 2 เรื่องซ้อน
นักปรัชญาหลายคนมักจะพูดกันว่า บ้านเมืองหลายแห่งในอคีต ไม่ว่า สปาร์ต้า, โรม อาณาจักรเปอร์เซีย ล้วนแต่ล้มสลายลง โดยไม่ได้มีสาเหตุมาจากมีคนเลวมาก แต่มาจากการมีคนดีมากเกินไปนั้นเอง คนชั่วส่วนน้อยจึงร่าเริงและได้ใจ "บ้านเมืองที่มากไปด้วยคนดี" ที่วางตัวเป็นกลางด้วยการอยู่เฉยๆ นั้น จึงไม่ต่างอะไรกับการเปิดทางให้ประเทศเดินเข้าสู่ความหายนะ
ส่วนความสงบสุขที่เกิดขึ้นจากการเป็นคนดีนั้น หาได้ยั้งยืนไม่ แม้จะวางตัวเป็นกลาง อยู่อย่างสงบเสงี่ยม แต่ความเดือดร้อนก็ต้องมาเยือนแน่นอน เพราะเมื่อคนเลวครองเมือง สภาวะแวดล้อมของความเป็นอยู่ ก็เปลี่ยนไปสังคมเริ่มไม่ปลอดภัย ข้าวของแพงขึ้น อาชีพการงานจะชะงักงัน ในที่สุดคุณก็ต้องสู้ แต่จะเป็นการสู้ที่ไม่มีทางชนะ เพราะตอนนั้นอะไรๆ ก็สายเกินไปแล้ว
ผมเคยพูดไว้ว่า โอกาสที่นายกฯ รักษาการ จะแพ้จึงมีมากเกือบ 100% แม้แต่ตำรวจที่เคยสนิทสนมปานจะตายแทนกันได้ ก็เริ่มถอนตัวกันแล้ว เพราะรู้ว่า "นักการเมือง 2-3 คนที่แอบมาใช้พวกเขาอยู่นั้น ไม่ได้เข้ามารับผิดชอบด้วย" ดังนั้น วิธีเดียวที่รัฐบาลจะทำได้ คือต้องล้ม กปปส.ให้ได้ก่อน ภายใต้เวลาอันจำกัดไม่เกิน 3 สัปดาห์ ซึ่งองค์ประกอบการล้ม กปปส.มีอยู่ 5 วิธี ได้แก่
(1) การขอคืนพื้นที่การชุมนุม (2) การจับตัวแกนนำ หรือ การลอบสังหาร (3) การใช้ความรุนแรงจากอาวุธสงครามเพื่อข่มขู่ประชาชนไม่ให้เข้ามาชุมนุม (4) การข่มขู่การ์ดให้ถอนตัวออกไป (5) การส่งคนเข้ามาแทรกซึมบ่อนทำลายในพื้นที่การชุมนุม ด้วยความรุนแรง ซึ่งปัจจุบันเริ่มทำกันครบถ้วนทุกข้อแล้ว
ส่วนการจัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อแสดงพลังข่มขู่ "พวกป๊อปคอร์น" นั้น ในเชิงลึกต้องยอมรับความเป็นจริงว่า แนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดงก็เริ่มท้อถอยกับรัฐบาลแล้วเช่นกัน แต่แกนนำก็ปลุกระดมกันไปตามยุทธวิธี รูปแบบการชุมนุมก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่
หนังเรื่องนี้ใกล้ถึงจุดจบแล้ว ทุกคนคงจะรู้ว่าฉากสุดท้ายตอนจบมันจะรุนแรงมากที่สุด แต่จะให้จบแบบหนังจีน หรือหนังฮอลลีวู้ด ก็ยังไม่รู้ได้ ถ้าจบแบบหนังจีน กว่าผู้ร้ายจะตายได้ ฝ่ายพระเอก แม้จะชนะ แต่ก็อ่วมอรทัย ดังนั้น ขอให้จบแบบหนังฮอลลีวู้ดจะดีกว่า คือจบแบบแค่พอรู้ว่าพระเอกชนะ ก็พอ
นอกจากเรื่องทุจริตจำนำข้าว ซึ่ง ป.ป.ช.เรียกตัว คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปรับทราบข้อหา ใน 27 กุมภาพันธ์ นี้แล้ว คุณยิ่งลักษณ์ ยังมีคดีติดตัวอีกมากมาย ที่ก่อขึ้นมาในช่วงที่ กปปส.จัดชุมนุม เช่น
(1) ชาวนาฟ้องทั้งแพ่ง และอาญา เรื่องข้าว ซ้ำรัฐบาลตั้งงบจำนำข้าวไว้ 5 แสนล้าน แต่ขายข้าวไม่ได้ กู้มาเพิ่มอีก 2 แสนล้าน หมดไปอีก โดยขายข้าวคืนมาได้เพียง 1.8 ล้าน ขาดทุนไป 5 แสนล้านกว่า เงินส่วนนี้หายไปไหน หมดเงิน ติดหนี้ชาวนามา ตั้งแต่ตุลาคม 2556 แต่ไม่เคยคิดจะหาเงินมาใช้ เพิ่งจะคิดหาเมื่อตอนชาวนาจะประกาศชุมนุม
(2) รัฐบาลรักษาการ ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยไม่ผ่านการเห็นชอบ ของ กกต.
(3) พยายามกู้เงินให้เกิดความผูกพันต่อรัฐบาลชุดใหม่
(4) จะออกพันธบัตร ในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการ
(5) ออกทีวีพูล ในลักษณะหาเสียง โดยเสนอเงื่อนไข ตอบแทนแก่ชาวนา ถ้าได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีก
(6) จะตกเป็นจำเลย ในคดีฆ่าประชาชนโดยเจตนาหวังผล ร่วมกับ ศรส.
6 ข้อนี้ คุณยิ่งลักษณ์ ก็หนักหนาอยู่แล้ว ยังมีเรื่องเดิมจาการไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐบาล 2 เรื่องซ้อน
นักปรัชญาหลายคนมักจะพูดกันว่า บ้านเมืองหลายแห่งในอคีต ไม่ว่า สปาร์ต้า, โรม อาณาจักรเปอร์เซีย ล้วนแต่ล้มสลายลง โดยไม่ได้มีสาเหตุมาจากมีคนเลวมาก แต่มาจากการมีคนดีมากเกินไปนั้นเอง คนชั่วส่วนน้อยจึงร่าเริงและได้ใจ "บ้านเมืองที่มากไปด้วยคนดี" ที่วางตัวเป็นกลางด้วยการอยู่เฉยๆ นั้น จึงไม่ต่างอะไรกับการเปิดทางให้ประเทศเดินเข้าสู่ความหายนะ
ส่วนความสงบสุขที่เกิดขึ้นจากการเป็นคนดีนั้น หาได้ยั้งยืนไม่ แม้จะวางตัวเป็นกลาง อยู่อย่างสงบเสงี่ยม แต่ความเดือดร้อนก็ต้องมาเยือนแน่นอน เพราะเมื่อคนเลวครองเมือง สภาวะแวดล้อมของความเป็นอยู่ ก็เปลี่ยนไปสังคมเริ่มไม่ปลอดภัย ข้าวของแพงขึ้น อาชีพการงานจะชะงักงัน ในที่สุดคุณก็ต้องสู้ แต่จะเป็นการสู้ที่ไม่มีทางชนะ เพราะตอนนั้นอะไรๆ ก็สายเกินไปแล้ว
ผมเคยพูดไว้ว่า โอกาสที่นายกฯ รักษาการ จะแพ้จึงมีมากเกือบ 100% แม้แต่ตำรวจที่เคยสนิทสนมปานจะตายแทนกันได้ ก็เริ่มถอนตัวกันแล้ว เพราะรู้ว่า "นักการเมือง 2-3 คนที่แอบมาใช้พวกเขาอยู่นั้น ไม่ได้เข้ามารับผิดชอบด้วย" ดังนั้น วิธีเดียวที่รัฐบาลจะทำได้ คือต้องล้ม กปปส.ให้ได้ก่อน ภายใต้เวลาอันจำกัดไม่เกิน 3 สัปดาห์ ซึ่งองค์ประกอบการล้ม กปปส.มีอยู่ 5 วิธี ได้แก่
(1) การขอคืนพื้นที่การชุมนุม (2) การจับตัวแกนนำ หรือ การลอบสังหาร (3) การใช้ความรุนแรงจากอาวุธสงครามเพื่อข่มขู่ประชาชนไม่ให้เข้ามาชุมนุม (4) การข่มขู่การ์ดให้ถอนตัวออกไป (5) การส่งคนเข้ามาแทรกซึมบ่อนทำลายในพื้นที่การชุมนุม ด้วยความรุนแรง ซึ่งปัจจุบันเริ่มทำกันครบถ้วนทุกข้อแล้ว
ส่วนการจัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อแสดงพลังข่มขู่ "พวกป๊อปคอร์น" นั้น ในเชิงลึกต้องยอมรับความเป็นจริงว่า แนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดงก็เริ่มท้อถอยกับรัฐบาลแล้วเช่นกัน แต่แกนนำก็ปลุกระดมกันไปตามยุทธวิธี รูปแบบการชุมนุมก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่
หนังเรื่องนี้ใกล้ถึงจุดจบแล้ว ทุกคนคงจะรู้ว่าฉากสุดท้ายตอนจบมันจะรุนแรงมากที่สุด แต่จะให้จบแบบหนังจีน หรือหนังฮอลลีวู้ด ก็ยังไม่รู้ได้ ถ้าจบแบบหนังจีน กว่าผู้ร้ายจะตายได้ ฝ่ายพระเอก แม้จะชนะ แต่ก็อ่วมอรทัย ดังนั้น ขอให้จบแบบหนังฮอลลีวู้ดจะดีกว่า คือจบแบบแค่พอรู้ว่าพระเอกชนะ ก็พอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น