PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Thailand’s Military – An Important Independent Institution

ทหารไทยอ่านตรงนี้หน่อย ภัยคุกคามประเทศ ขณะนี้เกิดจากต่างประเทศเข้ามาแทรกแซง และชักใยอยู่เบื้องหลังรัฐบาล เป็นหน้าที่ของทหารที่จะต้องป้องกัน อย่าหวั่นวิตกกับ การวิพากษ์วิจารณ์ หรือวาทกรรม ที่ปั้นแต่งขึ้นมา 

Global Research, December 08, 2013 เสนอบทความ สะกิดทหารไทย ชื่อ Thailand’s Military – An Important Independent Institution เขียนโดย Tony Cartalucci

มูลนิธิเอเชีย หรือ Asia Foundation จัดตั้งขึ้นโดย CIA มูลนิธินี้ละตัวดี เป็นแนวหน้าของ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และมีผลประโยชน์ กับบริษัทการเงินวอลล์สตรีท ลอนดอน องค์กรทั้งสอง พยายามโค่นล้ม สถาบันอธิปไตยของประเทศไทย ด้วยการหนุนหลัง รัฐบาลทักษิณ ซึ่งเรียกร้องให้ดำนินการ สำรวจความเห็นประชาชนไทย เพื่อหา จุดอ่อน จุดแข็ง ทั้งกลุ่มอำนาจเดิม หรือ Thai establishment และรัฐบาลตัวแทน ทักษิณ

จากการทำแบบสำรวจ “การสำรวจความคิดเห็น ของกลุ่มคนระดับชาติ ที่มีต่อการเลือกตั้งทั่วไป” แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้น สำหรับองค์กรทั้งสองและรัฐบาลตัวแทน ไม่น่าพอใจนัก ........ดู chart 7.3

จากร้อยละ 62 ของปี 2552 ความเห็นของคน ที่มีต่อฝ่ายทหาร ในฐานะการเป็นสถาบันอิสระที่สำคัญ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 63 ในจำนวนนี้ ในฐานคะแนนเสียง ของรัฐบาลในชนบท ประชาชนให้การสนับสนุน ถึงร้อยละ 61 ส่วนกลุ่มที่ไม่ให้การสนับสนุนทหาร เป็นกลุ่มส่วนน้อย “แดง” แต่ในกลุ่มเสื้อแดง ได้ให้การสนับสนุนทหารถึงร้อยละ 30

ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่า คนไทยที่แสดงตัวว่า เป็นเสื้อแดงสนับสนุนรัฐบาล ถือว่าเป็นตัวแทนของ ชนกลุ่มน้อยขนาดเล็ก ที่มีเพียงร้อยละ 14 ครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้ คิดว่าตนเองเป็นเพียง “เอียงข้างแดง” ทีสำคัญกว่านั้น คนไทยที่มี จำนวนมากกว่า (แดง) หรือคนไทยร้อยละ62 ยังเชื่อมั่นทหารไทย ซึ่งโค่นล้มรัฐบาลทักษิณออกจากอำนาจ ในปี 2549 ด้วยการทำรัฐประหาร ที่ไม่เสียเลือดเนื้อ และปราบปรามการก่อจลาจล ของทักษิณถึง 2 ครั้งในปี 2551 และ 2553 ทหารยังคงเป็นสถาบันอิสระที่สำคัญ ในการปกป้องและรักษาความมั่นคงของชาติ

#ขณะที่ตะวันตกและรัฐบาลชินวัตร พยายามสร้างภาพให้ #กองทัพเป็น “ผู้แทรกแซงที่ไม่เป็นประชาธิปไตย” แต่ประชาชนทั่วไปไม่เห็นเช่นนั้น ตะวันตกเองก็ไม่เชื่อว่ากองทัพ “ไม่เป็นประชาธิปไตย” แต่ตะวันตกเชื่อว่า เป็นสถาบันที่อิสระ ที่พวกเขาใช้อิทธิพลเพียงเล็กน้อย และเป็นสถาบันที่ตรวจสอบ และถ่วงดุลท้ายสุดที่ยืนอยู่ระหว่าง ราชอาณาจักรไทย กับวอลล์สตรีทที่ขายชาติ

แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตะวันตกได้รับประโยชน์ จากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด กับกองทัพไทย ผ่านการฝึกรบร่วมประจำปี “Cobra Gold” ดูเหมือนว่าไทย ได้เรียกร้อง ที่ตรงจุดในการให้เสรีภาพ มากกว่าคำสัญญา เงินทุน สิ่งล่อใจที่ตะวันตกให้ แล้วก็ไม่ปฏิบัติตาม เหมือนอย่างชาติอื่น เคยถูกระทำมาแล้ว กองทัพไทย เหมือนกับกองทัพอียิปต์ และปากีสถาน ที่เต็มใจรับเงินทุน การฝึกอบรมและอาวุธ แต่ก็ยังรักษาความเป็นอิสระต่อไป

กองทัพไทยได้ทำการรัฐประหาร โค่นล้มเผด็จการทักษิณ ชินวัตรเมื่อปี 2549 ที่วอลล์สตรีทหนุนหลัง ทักษิณได้ปรากฏตัวต่อ CFR เพื่อรายงานความก้าวหน้า ขณะที่ตะวันตก พยายามโจมตีกองทัพไทยว่า “ไม่เป็นประชาธิปไตย “ แต่ที่จริงแล้ว #กองทัพไทยปฏิบัติหน้าที่ ในการ #ป้องกันประเทศ จาก#ศัตรูทั้งภายในและภายนอกประเทศ

ความหวังของตะวันตก ที่จะให้มีการติดต่อสายตรง ”ทางโทรศัพท์” กับชนชั้นนำของไทย ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สำคัญ ที่เป็นประวัติศาสตร์ ของประเทศ อย่างไรก็ตาม การที่สหรัฐฯ #ยังคงกดดันฝ่ายทหาร ตั้งแต่ปี 2549 ที่โค่นล้มทักษิณ ที่สหรัฐฯ นับเป็นหลักฐาน เพียงพอที่จะทำให้ ทหารระดับสูงและระดับล่าง เข้าใจถึงลักษณะของตะวันตก เป้าหมายสุดท้ายของตะวันตก คือ #การลดบทบาทของทหาร ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา ของรัฐบาลตัวแทน ที่พวกเขาจะลดทอน การได้รับการนับถืออย่างแพร่หลาย และการมีบทบาทเป็นหนึ่งเดียวในสังคมไทย

ฝ่ายทหารไทยอาจจะยัง ไม่โดนครอบงำจาก อิทธิพลวอลล์สตรีท เหมือนในกัมพูชา ซึ่งหน่วยทั้งหมด ได้ขายผลประโยชน์ ให้กับต่างประเทศในฐานะ เป็นทหารรับจ้าง เพื่อป้องกันแผ่นดิน ที่ยึดมาจากประชาชนกัมพูชา

ในประเทศไทยทุกวันนี้ มหาอำนาจตะวันตกได้ต่อสู้ เพื่อให้รัฐบาลตัวแทน ได้ครองอำนาจ สื่อตะวันตก ได้กล่าวหาทหารไทยอีกครั้ง โดยพยายามกล่าวว่า เป็นความอัปยศที่ทหารไทย จะดำเนินการใดๆ ที่เป็นการนอกกรอบ แน่นอนว่าสื่อตะวันตก ได้สูญเสียความสำคัญในหลายปี ที่ผ่านมา และพยายามกล่าวหาทหารไทย ไม่ให้ปฏิบัติการใดๆที่เป็นเรื่องสำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทย ที่ควรจะได้รับรู้ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ 

หลังการรัฐประหาร ทักษิณ #ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากวอชิงตัน วอลล์สตรีท และเครื่องมือการโฆษณาชวนเชื่อ ที่จะทำให้เขากลับคืนสู่อำนาจ
โดย สภาความสัมพันธ์กับต่างประเทศ หรือ Council on Foreign Relations (CFR) ได้ประสานประโยชน์ กับกลุ่มการเงิน และให้การสนับสนุนชินวัตร มานานนับสิบปี ได้ตีพิมพ์บทความชื่อ “Can Thailand Break Its Coup Addiction?”

ถึงแม้ว่าประเทศไทย ถูกปกครองอย่างเปิดเผย โดยทักษิณ ซึ่งถูกตัดสินว่าเป็นอาชญากรคนสำคัญ คนสั่งการสังหารหมู่ นักโทษทักษิณ ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ไม่ได้อยู่ในการลงคะแนนเสียง และแม้กระทั่งไม่ได้ อยู่ในประเทศ CFR ได้แสดงให้เห็นว่าระบอบการปกครอง ในปัจจุบันเป็นถูกต้องตามกฎหมาย "ประชาธิปไตยรัฐสภา” การรัฐประหารเป็นเรื่องล้าสมัย ไม่จำเป็น และทำลายประเทศ ประชาธิปไตย ในเมื่อCFR มีวิธีการของตนเอง ทักษิณก็ไม่ควรบริหารประเทศ ผ่านน้องสาว ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ซึ่งได้แสดงบทบาท ที่งดงามตามแบบ banana republic-style corruptionไปแล้ว หรือแม้กระทั่งกลับสู่ประเทศไทย และครองอำนาจ เพื่อหาทางจ่ายคืน ให้ตะวันตกที่หนุนหลัง มานานนับสิบปี

แน่นอนว่า CFR ไม่มีทางที่จะพูด ถึงการกระทำ ของมหาอำนาจตะวันตก ที่ถูกต้องทำนองคลองธรรม และไร้จริยธรรม เพื่อสนับสนุน ทักษิณ ดังนั้นทหารไทย จึงไม่ควร ฟังเสียงนกเสียงกา ของพวกที่มาแสวงประโยชน์ ด้วยวิธีการโฆษณาชวนเชื่อ ทำให้บทบาท ที่ทหารควรจะต้องทำโดนบิดเบือนไป 

#ฝ่ายทหารไม่ว่าชาติใด เป็นผู้มีอำนาจ และมี #ภารกิจในการป้องกันศัตรู ทั้งหลาย ทั้งภายนอกประเทศ และภายในประเทศ ในกรณีของ #วอลล์สตรีท ที่หนุนหลังทักษิณนั้น #ถือว่ามีศักยภาพ ที่เป็น #ภัยคุกคามทั้งภายนอก และ #ภายในประเทศ ผ่านรัฐบาล #รัฐบาลจึงเป็นภัยคุกคาม ที่ประจักษ์แจ้ง หากเป็นไปได้ ฝ่าย #ทหารควรแทรกแซง เพียงเล็กน้อย แต่แทรกแซงเต็มรูปแบบได้ถ้าจำเป็น

ประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ดี ที่กองทัพชาติอื่น ควรศึกษา เส้นแบ่งระหว่าง การทุจริตที่เลวร้าย กับ โศกนาฏกรรมของชาติ #ฝ่ายทหารสามารถแทรกแซงได้ หาก #ทหารมีความกล้าหาญ และมี#ความมุ่งมั่นกับอนาคตของชาติ มากกว่าผลประโยชน์ ที่ทำให้กระเป๋าตุง ขึ้น แล้วลงมือทำ ก็สามารถข้ามเส้นนั้นได้ อย่างง่ายดาย ประเทศไทยยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่จะมันเป็นเรื่องน่าเศร้ามาก ถ้ากองทัพกังวลต่อข้อกล่าวหา หรือวาทกรรม ที่เขียนโดย CFR และในสื่ออื่นๆ จนทำให้ประเทศไทย ต้องผิดพลาดที่ดีในที่สุด

ที่มา : FB Siriwanna Jill 

ไม่มีความคิดเห็น: