PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558

นายกฯ เผยโพลล์ ICTสำรวจวามเห็นประชาขน ให้คะแนน ผลงานรัฐบาลภาพรวมดีส่วนใหญ่

นายกฯ เผยโพลล์ ICTสำรวจวามเห็นประชาขน ให้คะแนน ผลงานรัฐบาลภาพรวมดีส่วนใหญ่ คะแนนพุ่ง 90-95 เปอร์เซ็น รับ ยังแย่เรื่อง เศรษฐกิจ. แจง ศก.ตกทุกประเทศ ขอให้เข้าใจัฐบาลพยายามแก้ปัญหา แจง แถลงผลงานรัฐบาล 1 ปี ต้องการสร้างความเข้าใจกับปชช.วางรากฐานอนาคตสานต่อ 20ปี บอกปท.พัฒนาล่าช้า เหตุติด “กฎหมาย-ประชาพิจารณ์-สิทธิมนุษยชน –เอ็นจีโอ” ที่ต้องร่วมมือ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการแถลงผลการดำเนินงาน 1 ปีรัฐบาลและการจัดนิทรรศการระหว่างวันที่ 23 -25 ธ.ค. ว่า ตนให้ความสำคัญในการแถลงผลงานในวันที่ 23 ธ.ค. และต้องการสร้างความเข้าใจ ในลักษณะที่มีความซับซ้อนพอสมควร เพราะต้องการให้คนที่มาดูและติดตามได้เห็นว่า รัฐบาลสร้างความเชื่อมโยงมาอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องก่อนวันที่ 22 พ.ค.57 มาเป็นคสช. และจนมาเป็นรัฐบาล มีครม. 2 คณะ วันนี้เหลือเวลาอีก 1 ปี 6 เดือน นับจากม.ค. 60 ฉะนั้นเวลาที่เหลืออยู่เราจะทำอะไรต่อจากที่เราทำมาแล้วบ้างในระยะแรก ตรงนี้เป็นการปฏิรูประยะที่หนึ่ง ซึ่งจะต้องเกิดความชัดเจน ถ้าทุกคนสงสัยในเรื่องของการใช้จ่ายงบประมาณ โครงการน้ำ โครงการรถไฟ ว่าทำไมตัวเลขต่างกัน ให้ถามรองนายกฯ หรือกระทรวงที่แถลงได้ในวันที่ 23 ธ.ค. ซึ่งตัวเลขมันต่างตรงที่เราเขียนแผนงานไว้ระยะยาว และคิดงบประมาณไว้ล่วงหน้า แต่ตนไม่ได้กู้เงินมาทั้งหมด ทำได้แค่ไหนทำแค่นั้น นั้นแหล่ะคือความแตกต่าง ไปดูสิว่าไส้ในเหมือนกันไหม เช่น เรื่องน้ำอุปโภค บริโภค การเกษตร รวมทั้งพื้นที่ในเขตชลประทาน และนอกเขตชลประทาน ดูสิว่าราบละเอียดแตกต่างกันไหม และทำได้แค่ไหนในรัฐบาลปัจจุบัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีหลายคนเอาตัวเลขของเราไปเปรียบเทียบกับโครงการที่ผ่านมา หลายคนพยายามที่จะทำอย่างนั้นอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ เรื่องรถไฟ และพยายามที่จะกู้ทั้งระบบทั้งหมดมา แล้วแน่ใจหรือไม่ว่า 4 ปีจะเป็นรัฐบาลตลอดไป นี่คือสิ่งที่สืบทอดอำนาจยิ่งกว่าตน อันนี้ตนไม่ได้สืบทอดอำนาจ เพียงแต่ร่างแผนอนาคตไว้ให้ ใน 20ปีข้างหน้า ในวันที่ 23 ธ.ค.ถามเขาดูสิว่า แต่ละกระทรวงทำอะไรบ้างเพื่อที่จะมองเห็นอนาคตในวันข้างหน้า เราจะมีรถไฟที่ไหนจะเชื่อมโยงกันอย่างไร ที่ทั้งคนมีเงินและมีรายได้น้อยขึ้นด้วยกันได้ แต่ตนทำให้เสร็จอยู่แล้ว ตนจะร่างไว้ให้ จะทำต่อหรือไม่ก็แล้วแต่ท่าน เพราะฉะนั้นวันหน้านโยบายการหาเสียง จะต้องเป็นอย่างนี้หรือเปล่าตนไม่แน่ใจ ก็ไปว่ากันมา ไม่ใช่เอาบรรทัดเดียวมานำ แล้วเลือกตั้งกันมาเป็นหางหมด จะต้องชี้แจงว่าจะมีการปฏิรูปกันอย่างไร แล้วปัญหาที่ผิดพลาดมาจะทำอย่างไรต่อไป อนาคตที่ท่านเป็นรัฐบาล 4 ปีเป็นอย่างไร นโยบายพรรคจะบรรทัดเดียวก็เรื่องของท่าน ฉะนั้นรัฐบาลจะต้องมีนโยบายยุทธศาสตร์ชาติ ทุกประเทศมียุทธศาสตร์ชาติหมด คือภาพโดยรวม คือความมั่นคง คือความเข้มแข็งจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคมก็ว่าไป แต่ในนั้นจะแตกออกมาเป็นยุทธศาสตร์เศรษฐกิจและจะเดินหน้าการต่างประเทศอย่างไรให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์อันใหญ่ จะต้องวาดภาพให้เกิดขึ้นและเดินไปอย่างนั้น งบประจำ รายประจำจะต้องเดินไปอย่างนั้น เอางบกลางเข้าไปเสริม ในส่วนที่เร่งด่วน วันนี้รัฐบาลทำทั้งบริหารราชการแผ่นดิน การบูรณาการคือการปฏิรูประยะที่ 1 และเตรียมส่งต่อรัฐบาลหน้า ตนจะอธิบายในเรื่องนี้แบบนี้ ตนจะพูดถึงเรื่องนโยบายและปัญหาของประเทศ ต่อจากนั้นจะเป็นเรื่องของรองนายกฯ นำสิ่งที่ตนพูดไปขับเคลื่อน ไปแปลงเป็นนโยบายและนำไปปฏิบัติ จะเป็นกลุ่มงานน้ำ ป่าไม้ รวมถึงรองนายกฯ จะพูดในเรื่องงานที่ร่วมกันทำ และงานที่คาบเกี่ยวกันในแต่ละกระทรวง ที่บูรณาการร่วมกัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนอยากให้คนไทยทุกคนรู้จะจักคิดวิเคราะห์ นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความซับซ้อนของกระบวนการความคิด ที่จะต้องมาจากการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ศึกษาด้วยการเรียนรู้ ตนให้แม่น้ำ 5 สายมีวิปประสานทุกอย่าง เพื่อเชื่อมโยงกัน ไม่ใช่เขาไม่ดี ไม่ใช่ว่าไม่ขยัน แต่เขาขยันกันมาก แต่เกรงว่าที่ผ่านมาแล้วจะทำไม่ได้ เพราะตนยังทำได้ไม่ครบเลย สมมุติว่าเริ่มทำ 20 อย่าง แต่ทำได้ 15 อย่าง เพราะติดกฎหมาย ติดประชาพิจารณ์ คือปัญหาของบ้านเรา รวมถึงสิทธิมนุษยชน เอ็นจีโอ ที่จะทำอย่างไรให้ร่วมมือกัน เขาจะเอาที่รองนายกฯ มาขับเคลื่อนในกลุ่มของเขา ที่เราไม่มีความก้าวหน้าทัดเทียม เพราะเราเป็นห่วงเรื่องมลภาวะ ก็ต้องไปถามว่าจะเกิดหรือไม่ ถ้าเกิดแล้วจะทำอย่างไร แต่โรงงานในวันนี้มีมาตรการพอสมควร ถ้าไม่ดีก็ปิดไป แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ทำแบบนี้ ผิดกันแต่แรกแล้ว มันไม่ผ่านมาตรฐาน ในบางโรงงาน เสร็จแล้วก็ปล่อยกันต่อ เป็นเรื่องของผลประโยชน์อีกวุ่นวาย ถ้าทุกคนทำตามหน้าที่มันจบแล้ว ไม่ต้องไปคิดอะไรตรงนี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลทำ 1 ปี 6 เดือนจนถึงก.ค. 60 ต่อไปจะมียุทธศาสตร์ห้วงละ 5 ปี ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 แผน ซึ่งจะจบในปี 79 ซึ่งในปี 79 จะใส่แผนพัฒนาน้ำ แผนพัฒนารถไฟ ในส่วนของการปฏิรูปให้สอดคล้องกับยุทธ์ศาสตร์ แต่ถ้าไม่ทำก็เรื่องรัฐบาลหน้า เพราะตนเริ่มให้แล้ว ฉะนั้นยอดทั้งหมดไม่ใช่ยอดที่ตนใช้เงิน มีคนมาบอกว่า ตนใช้เงินมากกว่าเขา วันหน้าจะเกิดอนาคตไหม เป็นหนี้สินที่เป็นมูลค่าหรือไม่ หรือเป็นหนี้ที่จ่ายให้หมดไป แต่ก็ต้องทำเพื่อการบรรเทาความเดือดร้อน แต่อีกส่วนจะต้องสร้างความเข้มแข็งไปกับการลงทุน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องของรายได้ รายจ่าย การใช้เงิน การเป็นหนี้เป็นสิ้น ตนถามว่าที่ผ่านมาใครทำแบบที่รัฐบาลนี้ทำหรือไม่ ถ้าคิดจะจ่ายเงินเรื่องรัฐสวัสดิการ จะต้องคิดว่าเอาจากที่ไหน ไม่ใช่เอางบประมาณตรงกลางมาโปะไปเรื่อย ๆ การศึกษาฟรี ใช่เป็นหน้าที่ของรัฐบาล แต่ต้องหาเงินให้ได้ด้วย มันไม่มีที่มา แล้วจะเอาเงินจากตรงไหน วันนี้รัฐบาลกำลังเดินหน้าว่าจะทำอย่างไรให้มีรายได้สูงขึ้น เพื่อที่จะมาดูแลข้าราชการให้มีเงินเดือนขึ้น เพราะจะต้องขึ้นตามกฎระเบียบของข้าราชการทุก 3 ปี แต่วันนี้รายได้ของประเทศผูกติดกับของเดิม ๆ เมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นวันนี้รายจ่ายก็มาก และต้องเพิ่มขีดความสามารถของประเทศให้เข้มแข็ง รายได้ของประเทศก็จะสูงขึ้น ในวันที่ 23ธ.ค.สื่อต้องช่วยตน เพราะมีคนมาดู แต่อาจจะไม่เข้าใจ เขาก็จะไปพูดอีกทาง ในฐานะที่ท่านเป็นฉันในเพลง “เพราะเธอคือ ... ประเทศไทย” ก็ต้องช่วยกันด้วยแล้วกัน สร้างความเข้าใจแบบนี้ ไม่ใช่ไปคล้อยตามไปจับผิด จับถูก เพราะตนไม่ได้ไปปิดกั้นท่านเลย เพียงแต่ว่าให้ความเป็นธรรมตนหน่อย
“วันนี้หลายคนออกมาพูดหลายช่อง มาบอกว่ารัฐบาลใช้เงินเปลือง ทุจริตคือทุจริต หากทุจริตเขาก็มีกลไก จะมาบอกว่าทุจริตปากเปล่าไม่ได้ จะต้องมีต้นเรื่อง มีคดีความ มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ เข้ากระบวนการทั้งหมด ทุกคดีของรัฐบาลทุกวันนี้ก็มีกระบวนการตรวจสอบกันเอง เพราะว่าเป็นข้าราชการ ฉะนั้นการตรวจสอบทางวินัยเขาก็เริ่มก่อน ถ้าตรวจสอบแล้วไม่ชัดเจน ประเด็นไหนที่มีความผิดก็ส่งต่อไปที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เขาทำกันอย่างนี้ อย่ามากล่าวอ้างกันเฉย ๆ ทำไม่ได้ มันก็ยุ่งกันไปหมด” นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงสำนักงานสถิติแห่งชาติ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เสนอผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับของขวัญปีใหม่ที่ต้องการจากรัฐบาล พ.ศ.2558 และผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาล เพื่อนำมาปรับปรุงการทำงาน“ ในที่ประชุมครม.ว่า ภาพรวมผลการรายงานก็ดูดี แต่ทีไม่ดีคือเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งต้องอธิบายว่าเศรษฐกิจจะดีได้ต้องดูภาพรวม ทั้งเศรษฐกิจมหาภาคด้วย แต่วันนี้เศรษฐกิจมหภาคยังตกอยู่ทุกวัน ซึ่งถ้าไปดูตัวเลขประจำเดือนที่สรุปมามีหลายประเทศในอาเซียนตกทั้งหมด 17 เปอร์เซ็น แต่ของเราตก 5 เปอร์เซน ซึ่งต้องดูว่าตกเพราะอะไร เมื่อตกแล้วเรามีแผนการเผชิญความเสี่ยงอย่างไร ประเทศเราอย่างไรก็ต้องตกเพราะฐานเศรษฐกิจมันกว้าง มีการลงทุนเยอะ และการลงทุนส่วนใหญ่เป็นการลงทุนขั้นพื้นฐาน ,เทคโนโลยีระดับสูง เครื่องจักรใหม่ ล้วนแต่เป็นการลิตที่เพิ่มมูลค่าน้อยมากมาในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
นายกฯ กล่าวอีกว่า ช่วงนี้จึงถือว่าเป็นช่วงการเริ่มต้นแล้วจึงต้องมาขับเคลื่อนกันให้ได้ แล้วขยายไปสู่ความเชื่อมโยงธุรกิจใหม่ ที่มีศักยภาพ สู่ห่วงโซ่การผลิต สร้างอาชีพรายได้ให้คนในประเทศ สร้างความเข้มแข้งให้เอสเอ็มอี ไม่ใช่ซื้อทุกเรื่อง เรื่องนี้ไม่ใช่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจอย่างเดียว เช่น การทำเขตเศรษฐกิจพิเศษ จะเห็นว่าเชื่อมโยงไปถึงกระทรวงศึกษา กระทรวงแรง มหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อเชื่อมโยงหลายกระทรวงการทำงานจึงช้า ซึ่งต้องสั่งงานลงไปแล้ว แล้วเมื่อดูแล้วว่าไม่ติดขัดเรื่องข้อกฎหมายก็เร่งอนุมัติลงไป วันนี้ต้องเอาตัวเลขจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒนฯ) มาดูเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจเพื่อนบ้านมาดูด้วยว่าตกไปเพราะอะไร
นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับผลงานรัฐบาลเรื่องชอบมากที่สุดคือ เรื่องความมั่นคง สร้างความสงบเรียบร้อยให้สังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี และเราได้ทำให้บ้านเมืองเรียบร้อยขึ้น ไม่ให้มีการประท้วง ทะเลาะเบาะแว้ง ไม่ใช้อาวุธ ซึ่งถ้าตนไม่เข้ามาจะมีการใช้อาวุธหรือเปล่าตนก็ไม่รู้ เพราะเรื่องอะไรที่ตนจะไปสร้างความขัดแย้งเอง ไปกล่าวโทษเขา
“ส่วนถ้าถามความพอใจผลงานรัฐบาลนั้น อย่างที่บอกถ้างานมันยังไม่เสร็จก็ยังไม่พอใจ ถ้าเสร็จแล้วจึงจะพอใจ แล้วถึงเวลาที่ผมจะส่งงานต่อให้เขา เมื่อแผนปฏิรูปทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน แม้รัฐธรรมนูญจะมีความแตกต่างอยู่บ้างในบางประเด็น ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง มีแผนปฏิรูปทำสออดคล้องกันเดินหน้าไปทุกๆ 5 ปี แบบนี้ทำได้ทั้งหมด แต่จะทำอย่างไร ซึ่งผมจะไม่ไปบังคับเขา จะไปบังคับไม่ได้ รัฐบาลมีอำนาจมาจากประชาชนก็เลือกที่จะทำก็ทำไป ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ ตรงนี้แระ ผมจึงบอกว่าอย่ามากังวลกับผม ไปกังวลมาตรการรัฐบาลหน้าที่เลือกกันเข้ามาแล้วกัน ว่าเขาจะทำแบบที่ผมพูดหรือไม่ ทำอย่างไรให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ให้ทุกจังหวัด ทุกภูมิภาคเท่ากัน ให้ไปตามความเดือดร้อนของประชาชน แล้วจึงไปดูเรื่องนโยบายพรรค คะแนนเสียงก็ว่ากันไป ผมไม่ได้ว่าอะไร แต่วันนี้ผมไม่มีคะแนนเสียง แต่บอกแล้วว่าต่อให้นิยมชมชอบผมเท่าไหร่ ผมก็อยู่ไม่ได้อยู่แล้ว ไปประเมินมาว่าความสุขของประชาชนเท่าไหร่ ไปถามมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอธิบายอีกว่า คะแนนผลโพลตัวเลขที่เห็นส่วนใหญ่กว่า 90 – 95 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องเศรษฐกิจคะแนนตกอยู่ที่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ อาจจะเพราะเขาไม่เข้าใจ ส่วนเรื่องของขวัญที่ประชาชนอยากจะได้จากรัฐบาล คือเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งตนก็กำลังแก้ไขอยู่ ทั้งเศรษฐกิจมหภาค เศรษฐกิจข้ามชาติ การลงทุนต่างๆต้องยึดโยงกันอย่างไร เศรษฐกิจอาเซียนจะรองรับอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยมีความพร้อมในเรื่องเหล่านี้มาก่อน วันนี้ตนเข้ามาแก้เท่าที่ทำได้เต็มที่แล้ว ซึ่งเดี๋ยวปีหน้าจะดีขึ้นเอง วันนี้ไปดูเรื่องคะแนนด้านความเชื่อมั่นก่อนที่มีคะแนนสูงสุดเพิ่มขึ้นนาในรอบ 14 เดือน

ไม่มีความคิดเห็น: