ลุยสุดตัวโดย
ไทยรัฐฉบับพิมพ์

ถ้าคิดจะสืบทอดอำนาจ คสช.ไประยะยาวๆ ต้องรีบลุยระยะสั้นๆให้ทันช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งใหญ่ปลายปี
ถ้าเงินไม่มีก็ต้องกู้เงินมาอัดฉีดเพื่อเนรมิตนโยบายในแผ่นกระดาษให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม
“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี (ต่อยอดโครงการอีสต์เทิร์นซีบอร์ดยุคป๋าเปรม ติณสูลานนท์)
เป็นโครงการโชว์ ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะใช้เป็นใบเสร็จยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยจะก้าวกระโดดครั้งใหญ่หลังจากถอยยาวๆมาเกือบ 10 ปี
ด้วยการทุ่มทุนกว่า 5 แสนล้านบาท สร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษอีอีซี ให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมไฮเทคครบวงจร เพื่อดึงดูดกลุ่มธุรกิจทั่วโลกให้แห่เข้ามาลงทุนในเมืองไทย
แถมยกเว้นภาษีระยะยาว พร้อมประเคนสิทธิพิเศษต่างๆให้อย่างจุใจ
เรียกว่าถ้าวัดกันปอนด์ต่อปอนด์ ไม่มีข้อเสนอประเทศไหนจะถึงอกถึงใจเท่าข้อเสนอของไทยแน่นอน!!
“แม่ลูกจันทร์” สนับสนุนโครงการ อีอีซี ของ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจรัฐบาล คสช.ด้วยเหตุผล 3 ประการ
1,โครงการอีอีซีจะพลิกเศรษฐกิจไทยให้แข็งโป๊กในระยะยาว
2, จะยกระดับการแข่งขันของไทยให้ทัดเทียมคู่แข่งในพิกัดเดียวกัน
3, แม้โครงการอีอีซีต้องใช้เม็ดเงินลงทุนมหาศาล แต่มีความคุ้มค่ากว่าโครง การกระตุ้นเศรษฐกิจอีลุ่ยฉุยแฉกวูบเดียวหมดไปไม่เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืน
ฉะนั้น ถ้าประเมินอย่างเป็นกลาง โครงการอีอีซี แม้ไม่เกิดผลสำเร็จรวดเร็วทันใจอย่างที่รัฐบาลฉายหนังโฆษณา
แต่จะเกิดผลดีอย่างชัดเจนตั้งแต่ 5 ปีจากนี้ไป
และจะเป็นน้ำซึมบ่อทรายให้ตักตวงผลประโยชน์ไปได้อีกไม่ต่ำกว่า 20 ปี 30 ปี!!
“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าล่าสุด ดร.สมคิด แม่ทัพเศรษฐกิจของรัฐบาลสั่งอัดฉีดงบลงทุนโครงการก่อสร้างพื้นฐาน 5 โครงการจากวงเงิน 5 แสนล้านบาท เป็น 6 แสนล้านบาทให้สุดๆไปเลย
เพื่อเร่งสปีดโครงสร้างพื้นฐานเขตเศรษฐกิจอีอีซีให้มีความพร้อมที่สุดในเวลา 5 ปีจากนี้ไป ได้แก่...
1,โครงการรถไฟความเร็วสูงระยอง–กรุงเทพฯ เชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิสนามบินดอนเมือง–สนามบินอู่ตะเภา
ขีดเส้นตาย ต้องเซ็นสัญญาเริ่มก่อสร้างกลางปีนี้ และต้องเสร็จใน 5 ปี!!
2,โครงการขยายสนามบินอู่-ตะเภา ให้รองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปี
ขีดเส้นตาย ต้องเซ็นสัญญาในเดือนกันยายนปีนี้ และต้องเปิดบริการใน 5 ปีจากนี้ไป
3,โครงการก่อสร้างศูนย์ซ่อมเครื่องบิน เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางซ่อมเครื่องบินพาณิชย์แห่งใหม่ของเอเชียขีดเส้นตาย...จะเร่งประมูลคัดเลือกบริษัทเอกชนในเดือนพฤษภาคมและต้องเสร็จเปิดบริการได้ภายใน 3 ปี
4,โครงการพัฒนาท่าเรือมาบ-ตาพุดระยะ 3 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางทะเล
ขีดเส้นตาย ต้องเริ่มสร้างสิ้นปีนี้ และต้องเสร็จภายใน 6 ปี
5,โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังเฟส 3 ให้รองรับตู้คอนเทน-เนอร์เพิ่มได้ถึง 15 ล้านบีทียูต่อปี
ขีดเส้นตาย ต้องเริ่มคิกออฟภายในปีนี้และต้องเสร็จภายใน 6 ปี
ทำให้ประเทศไทยมีท่าเรือใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 ของอาเซียน เท่ากับมาเลเซียและสิงคโปร์
ต้องขีดเส้นตายขู่ไว้...ไม่ให้เช้าชามเย็นชาม.
"แม่ลูกจันทร์"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น