PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2563

เอาล่ะสิ! 30 พรรคการเมืองแห่ร้องกกต.ค้านรับรอง 'ไพบูลย์' เป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์


30 ม.ค.63  - ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายก้องภพ วังสุนทร หัวหน้าพรรคผึ้งหลวง ในฐานะรองประธานกลุ่มพรรคสหมิตร ซึ่งประกอบไปด้วย 30 พรรคการเมือง เดินทางมายื่นหนังสือต่อกกต.เพื่อคัดค้านการประกาศรับรองนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลังมีการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยอ้างว่า เนื่องจากนายไพบูลย์ ไม่มีสถานะเป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนปฏิรูป เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคดังกล่าวตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 56 (2) และตามประกาศผลการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อของกกต.เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ประกอบกับเห็นว่าการคำนวณของกกต.เมื่อวันที่ 28 ม.ค. น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 (5)  ซึ่งบัญญัติไว้ว่าให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ตามละดับหมายเลขในบัญชีรายชื่อส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองนั้นเป็นผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.แสดงว่าในวันที่กกต.คำนวณใหม่นายไพบูลย์ ไม่ได้เป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาชนปฏิรูปแล้ว เนื่องจากพรรคสิ้นสภาพ และนายไพบูลย์ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ซึ่งคุณสมบัติของผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องสังกัดพรรค การคำนวณใหม่นายไพบูลย์ต้องไม่ได้รับการจัดสรรเป็นส.ส. จึงอยากใหม่กกต.ส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการคำนวณคะแนนใหม่ของกกต.เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
 “การคำนวณของกกต.เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 ถูกต้องทุกอย่าง แต่ครั้งนี้กกต.ละเว้นรัฐธรรมนูญมาตรา 91 (5) อยากให้กกต. ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป เพื่อเป็นบรรทัดฐานที่ถูกต้อง นายก้องภพ กล่าว
 นายก้องภพ กล่าวอีกว่า การคำนวณครั้งนี้กกต.จะอ้างว่านายไพบูลย์ ได้ย้ายไปเป็นสมาชิกพรรคพปชร.แล้วไม่ได้ เพราะการคำนวณคะแนนใหม่ในวันที่ 28 ม.ค. นายไพบูลย์ ไม่ได้อยู่ในสถานะ ผู้สมัครส.สบัญชีรายชื่อพรรคประชาชนปฏิรูป ถ้ากกต.จะตอบว่านายไพบูลย์ ได้เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคพปชร.ก็ไม่ได้ เพราะนายไพบูลย์ไม่ได้เป็น 1 ใน150 ของผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพปชร. เพราะที่สำคัญคือการคำนวณใหม่จะต้องยึดตามมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญต้องทำใหม่ทั้งหมด เพราะ(5) ของมาตราดังกล่าว กำหนดให้ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อได้รับการเป็นส.ส.ตามลำดับ แม้ว่าในการคำนวณกกต.จะเอาคะแนนของพรรคประชาชนปฏิรูปมาร่วมคำนวณด้วย ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 91 ขาดเพียง(5) ที่นายไพบูลย์ ไม่ได้เป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนปฏิรูปแล้ว อย่างไรก็ตามนายก้องภพ เห็นว่าการจะย้ายพรรคของส.ส.บัญชีรายชื่อที่จะยังคงสภาพการเป็นส.ส. ควรย้ายหลังการเลือกตั้งครบ 1 ปี คือผ่านพ้นข้อกฎหมายที่กำหนดว่าให้มีการคำนวณบัญชีรายชื่อผ่านพ้นไปแล้วคือเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2563

วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2563

ไม่ใช่ ไม่มี”น้ำยา” แก้ปัญหา ฝุ่น

ไม่ใช่ ไม่มี”น้ำยา”
แก้ปัญหา ฝุ่น

“มีคนบอกว่า รัฐบาลไม่มีน้ำยา น้ำเยอ อะไร มันมี หมดล่ะน้ำยา ถ้าจะใช้ แต่มันเดือดร้อน ก็ต้องยอมรับกันสิ”

“นายกฯบิ๊กตู่”เผย ยก แก้ PM 2.5 เป็นวาระแห่งชาตินานแล้ว ย้ำควันดำจับทุกคัน ห้ามวิ่ง ชี้ไอเดียเครื่องฟอกอากาศต้องมีขั้นตอน ยัน รัฐบาลมีน้ำยาแต่ถ้าใช้จะเดือดร้อน-ต่อต้านถามรับได้มั้ย เช่น รถยนต์วิ่งวันคู่-คี่ใน กทม. จะซื้อรถ ต้องมีที่จอด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับสุขภาพประชาชนเป็นอันดับแรก

แต่มาตรการต่างๆ ที่ออกมาจะทำอย่างไรให้ได้รับการยอมรับ ไม่เช่นนั้นเมื่อออกมาตรการหรือบังคับใช้กฎหมายไปแล้วถูกต่อต้าน ก็มีผลทั้งสิ้น

นี่คือปัญหาใหญ่ของประเทศไทย เรามีกฎหมายทุกตัว แต่กฎหมายพื้นฐานบางอัน บังคับใช้ได้ยาก คนได้รับผลกระทบเยอะ

อย่างไรก็ตามหลายคนบอกว่ารัฐบาลไม่มีแผนแก้ปัญหา แต่ในความเป็นจริงมีตั้งนานแล้ว โดยแผนการรับมือฝุ่นพิษมีการกำหนดไว้ตั้งแต่ปี 2562-2567 เพราะปัญหาฝุ่นละอองเกิดขึ้นในประเทศมานานแล้ว เราต้องยอมรับ สมัยก่อนข้อมูลอาจไม่เพียงพอ เครื่องมือตรวจวัดก็ไม่มี ก็เลยไม่ได้ให้ความสำคัญกัน

วันนี้รัฐบาลเข้าไปจัดหาจัดซื้อและแจ้งประชาชนทราบเพื่อให้ระมัดระวัง เฝ้าระวังและให้ความร่วมมือ โดยได้สั่งการให้ตรวจโรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่งแล้ว ที่ไหนต้องปรับปรุงก็ปิดปรับปรุงให้เรียบร้อย เมื่อดีขึ้นค่อยเปิดทำงานต่อ

เท่าที่ได้รับรายกงานวันนี้ก็ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน ในส่วนของยานพาหนะก็ได้ย้ำไปอีกครั้ง ให้จับรถทุกคันที่มีความควันดำ ไม่ว่าจะรถกี่ปีก็ว่ากันไป ตอนนี้จับทุกคัน ห้ามวิ่ง หยุดวิ่ง

หลายอย่างที่เป็นยาแรง ๆ ท่านต้องยอมรับว่าเป็นนโยบายสาธารณะ กฎหมายเพื่อประชาชน เราต้องพยายามใช้กฎหมายนี้ ไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนมากที่สุด

วันนี้เราต้องทำความเข้าใจว่า PM 2.5 เกิดจากอะไร เกิดช่วงเวลาไหนมากน้อยเพียงใด พื้นที่ไหน

เพราะฉะนั้นเมื่อมาดูในส่วนนี้ก็มีมาตรการเฉพาะลงไปในแต่ละระดับ ตอนนี้อยู่ในขั้นระดับ 1-2 เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)

สื่อลองเปิดดูในกูเกิล จะได้สร้างการรับรู้ช่วยผมด้วย ว่าเป็นพิษเป็นภัยกับใคร จริงๆ ก็เป็นกับทุกคน ถ้ามีความแข็งแรงพอก็จะต้านทานได้มากหน่อย คนที่มีภูมิคุ้มกันต่างกัน ก็ต้องระมัดระวังตัวเอง

จึงตองแยกเป็น 2 ส่วน 1.กฎหมายและ 2.การเตรียมการของประชาชน รัฐบาลไม่สามารถสั่งใครได้ทั้งหมด เช่นสั่งให้ใส่หน้ากากทุกคน อะไรทำนองนี้มีผลกระทบทั้งสิ้น

เมื่อถามว่ากรีนพีซเรียกร้องรัฐบาลให้กำหนดการแก้ปัญหาฝุ่นเป็นวาระแห่งชาติ และควบคุมการปล่อยมลพิษนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องวาระแห่งชาติมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ไปแล้ว

โดยได้เห็นชอบในขั้นต้น มีแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองปี 2562-2567 เคยชี้แจงไปครั้งหนึ่งแล้ว

เมื่อถามว่าแนวคิดเรื่องการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ มีความเป็นได้หรือไม่อย่างไรนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ให้มีการตรวจสอบว่าจะได้ผลหรือไม่อย่างไร แต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน ถ้าเรามองประเทศสังคมนิยมก็สั่งหมดทุกอัน เขาสั่งได้หมดทุกอย่าง ไม่มีใครมาถามอย่างนี้ ต้องเห็นใจรัฐบาลบ้าง หลายคนมีความต้องการที่แตกต่างกัน มีความจำเป็นแต่ละเรื่องแต่ละราว จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดผลกระทบซึ่งกันและกัน แล้วผลก็ย้อนกลับไปที่รัฐบาล ออกอะไรที่เข้มงวดไป แล้วเกิดการต่อต้านไม่ปฏิบัติ เจ้าหน้าที่ก็ทำงานไม่ได้ คิดตรงนี้สิ ต้องสร้างความรับรู้ให้ครบทุกมิติ

สถานการณ์เช้าวันนี้ค่าฝุ่นอยู่ที่ 50-60 มคก./ลบ.ม. จะบอกว่าไม่มีอันตรายก็ไม่ใช่ เพราะมีอันตรายสำหรับคนบางกลุ่ม กรุณาเปิดดูในกูเกิลแล้วว่า PM 2.5 คืออะไร เกิดจากที่ไหนบ้าง

อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาของบางประเทศใช้เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่หรือใช้โดรน จะต้องดูว่าเราจะเดินหน้าไปสู่ตรงนั้นได้อย่างไร ต้องมีขั้นตอน ทำตามลำดับ

โดยบางพื้นที่เราก็มีเครื่องพ่นละอองน้ำอยู่แล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนักในภาพรวม เพราะปัญหาฝุ่นเมื่อโดมครอบไว้อยู่

นายกฯ กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องนี้ หาเครื่องมือมีแผนเตรียมการโดยตลอด สิ่งสำคัญคือต้องสร้างการรับรู้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ถ้าจะห้ามเผาไร่นา แล้วจะกำจัดตอซังอย่างไร รัฐบาลก็ต้องหามาตรการเสริมลงไป มีอย่างเดียวถ้าไม่เผาตอซังก็เอารถไปไถ่ไปขุดรากถอนโคนให้เขา แล้วเกษตรกรมีจำนวนเท่าไหร่

วันนี้ก็ทยอยจัดหาเครื่องมือให้ตามลำดับก็ทำไปเยอะแล้ว รัฐบาลช่วยเหลือได้ ถ้ามีการรวมกลุ่มขึ้นมา ส่วนเรื่องการเผาไร่อ้อย บางบริษัทก็ทำดีจัดเครื่องมือไปช่วยตัดอ้อยส่งโรงงานโดยไม่ต้องเผา และวันนี้ก็ลดการรับซื้ออ้อยที่เผาลงในระดับหนึ่ง จนสามารถแก้ปัญหาตรงนู้นได้

“หลายคนก็บอกว่ารัฐบาล ไม่มีน้ำยา น้ำเยอ อะไร มันมีหมดน้ำยา ถ้าจะใช้ แต่มันเดือดร้อน ท่านต้องยอมรับกันสิว่า ประเทศไทยมีคนหลายกลุ่มหลายฝ่าย คนรายได้มาก รายได้ปานกลาง รายได้น้อย กิจกรรมแต่ละอันมีผลกระทบซึ่งกันและกันทั้งสิ้น

รถบรรทุกก็มีเรื่องการขนสินค้าอุปโภค บริโภค เข้ามาในเขตกรุงเทพฯ รถควันดำก็ต้องหยุดวิ่งได้ไหม มันต้องยอมรับว่า ทำเข้มงวดมากขึ้นต่อไปจะตามด้วยค่าขนส่งที่แพงขึ้น สินค้าอุปโภคแพงขึ้น คิดให้เป็นอย่างนี้ อย่ามาคิดเป็นเสี้ยวๆ เศษๆ แล้วก็ตีกันไปตีกันมา ก็ทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง เข้าใจบ้าง

อย่างไรก็ตามรถยนต์มีกว่า 10 ล้านคันที่วิ่งในกรุงเทพฯ ถ้าเราไปแยกเป็นวันคู่ วันคี่ รับกันได้หรือไม่ ทุกคนซื้อรถต้องมีที่จอดรถในบ้านเอาไหมหล่ะ นี่เป็นนโยบายสาธารณะ ถ้าเอาทุกอย่างมาตีกันอยู่อย่างนี้ไม่ได้”

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2563

“กรณ์”หลั่งน้ำตาลาออกปชป.ตั้งพรรคใหม่ จ่อรับตำแหน่งรมต.รัฐบาล’บิ๊กตู่'

วันที่ 14 มกราคม 2563 - 21:11 น.

“กรณ์”หลั่งน้ำตาลาออกปชป.ตั้งพรรคใหม่ จ่อรับตำแหน่งรมต.รัฐบาล’บิ๊กตู่'


เมื่อเวลา18.00 น. วันที่ 14 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มส.ส.และอดีตส.ส. รวมถึงบรรดาแฟนคลับกลุ่มใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมจัดงานเลี้ยงปีใหม่ให้นายอภิสิทธิ์ โดยมีคนเข้าร่วมกว่า 50คน อาทิ นายกรณ์ จาติกวนิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตรมว.คลัง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ และเลขาธิการพรรค. นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุขและรองหัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค นายอัศวิน วิภูศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ส.ส.พังงา นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นต้น ซึ่งงานเลี้ยงดังกล่าวมีการแจ้งให้ส.ส.ทราบล่วงหน้าในไลน์กลุ่ม ส.ส. ว่าจะมีงานเลี้ยงปีใหม่ให้กับนายอภิสิทธิ์ หลังการประชุมพรรค ทั้งนี้นายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ในฐานะรองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ไม่ได้มาร่วมงานด้วย ในงานนาย กรณ์ได้คุยส่วนตัวกับส.ส.ที่มาร่วมงานถึงการตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และส.ส. โดยจะมีการยื่นหนังสือลาออกในวันที่ 15 ม.ค. ทำให้บรรดาส.ส.ต่างถ่ายรูปคู่กับนายกรณ์เพื่อเป็นที่ระลึก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานเลี้ยงครั้งนี้ นายกรณ์ ยังได้ขึ้นไปร้องเพลง รักเธอเสมอ โดยในบางช่วงถึงกับหลั่งน้ำตา ทำให้เพื่อนส.ส.หลายคนร้องไห้ตามไปด้วย อาทิ นางกันตวรรณ จนนายพนิต วิกิจเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถึงกับเอ่ยปากว่า พรรคเราเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เมื่อร้องจบเพลงนายอภิสิทธิ์ได้เดินเข้าไปสวมกอดเพื่อให้กำลังนายกรณ์ด้วย

สำหรับเหตุผลการลาออกครั้งนี้ คาดว่าเกิดจากความผิดหวังคณะผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบันที่ปิดกั้นบทบาทของนายกรณ์ทุกทาง ถึงขนาดดึงนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ มาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค อีกทั้งไม่เคยหารือเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและงานของพรรค ส่วนที่ยื่นใบลาในช่วงนี้เพราะร่างพ.ร.บ.งบฯปี63 ผ่านสภาเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้นายกรณ์ เป็นส.ส.ของพรรคตั้งแต่ปี 2548 เท่ากับอยู่กับพรรคมายาวนานถึง 15 ปี

ทั้งนี้มีรายงานว่านายกรณ์จะไปร่วมตั้งพรรคใหม่และเตรียมเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อรับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดปัจจุบันของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวให้กำลังใจส.ส.ทุกคนโดยขอให้รักษาจิตวิญญาณและอุดมการณ์อย่างมั่นคง จะช่วยให้แก้ปัญหาสถานการณ์ยากๆที่เกิดขึ้นได้ โดยตนยังยินดีรับใช้สมาชิกทุกคนบน 2 เงื่อนไขคือไม่เกินแรงของตนและ อย่าให้ทำในสิ่งที่ไม่เชื่อหรือขัดกับความคิดุ ความเชื่อ อุดมการณ์ของตน ตื่นก่อนคิดว่าความผูกพันของพวกเรายืนยาวกว่าสถานการณ์เฉพาะหน้า และขอให้ทุกคนทำงานหนักเพื่อประชาชน ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของทุกคนด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจและความดีที่มีจะเป็นพลังให้เดินหน้าไปได้

ต่อมาเวลา 21.10 น.นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯเดินทางมาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิดนายอภิสิทธิ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 15 มกราคม นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส. กทม.พรรค ปชป.จะยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรค และจะไปลานายชวน ที่รัฐสภาด้วย

วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2563

นายกฯขอเด็กไทยเป็นคนดีตามคำขวัญนายกฯ เชื่อฟังผู้ใหญ่ อย่าโต้เถียง




บิ๊กตู่แนะ วันเด็กปีนี้ ขอเด็กไทยเป็นคนดีตามคำขวัญนายกฯ เชื่อฟังผู้ใหญ่ อย่าโต้เถียง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 3 มกราคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในรายการ Government Weekly ถึงเรื่องการศึกษายุคใหม่พัฒนาเยาวชนไทย ตอนหนึ่งว่า ตนได้ไปเยี่ยมชมโรงเรียนบ้านภูดิน (มิตรผลอุปถัมภ์) อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ โรงเรียนร่วมพัฒนาต้นแบบ ศูนย์กลางบ่มเพาะการเรียนรู้ศตวรรษใหม่ด้วยตัวเองของชุมชน เป็นการศึกษาแบบประชารัฐ หรือโรงเรียนอ้อย ร่วมกับมิตรผล เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาบุคลากรหลักสูตรการเรียนการสอนและงบประมาณ เพื่อขยายโอกาสโรงเรียนอ้อย หรือโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา ที่ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 6 โรงเรียนที่ทำร่วมกับโรงงานน้ำตาลมิตรผล ทั้งนี้ ภาคเอกชนเมื่อทำธุรกิจอยู่ในชุมชนก็ต้องส่งเสริมประชาชนในพื้นที่ ทั้งให้ชาวไร่อ้อยและบุตรหลาน โดยสนับสนุนให้มีการเรียนการสอนทุกวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ เทคโนโลยียานยนต์ อุตสาหกรรม หัตถกรรม พลังงาน วิทยาศาสตร์ นวัตกรรม ศิลปศาสตร์
โรงเรียนสอนให้ทุกคนเป็นคนดี เป็นเด็กดี เคารพผู้ใหญ่ กตัญญู สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ มารยาทในสังคมการใช้คำพูดคำจา การเชื่อฟังผู้ใหญ่ หากเขาใช้คำพูดในสิ่งที่ดีสิ่งที่ถูก ก็อย่าไปโต้เถียง อย่าคึกคะนอง และต่อไปขอให้เด็กๆ เขียนสมุดบันทึกความดี เช่น ช่วยงานบ้านพ่อแม่ หรือแม้แต่ทำความไม่ดีก็ต้องจดไว้ ต่อไปคราวหน้าจะได้ไม่ต้องทำ ขอให้รักคุณพ่อคุณแม่ให้มากๆ
ฝากบอกทุกคนว่าถ้าเราจะติติงกัน แล้วไม่ช่วยกันก็ไปไม่ได้ทุกวัน วันนี้ขอถือโอกาสที่ได้พบกับเด็กๆ ทุกคน ว่าทุกวันนี้กระทรวงศึกษาธิการกำลังทำเรื่องการเชื่อมต่อและการติดต่อโครงการอนาคตการศึกษา ต้องทำให้เรื่อง คอนเน็กซ์ อีดีนี้เติบโตในวันหน้า ซึ่งขณะนี้มีในโรงเรียน 4,750 แห่งแล้วที่ได้ดำเนินการไป มีนักเรียนในโครงการเพิ่มเป็น 1.4 ล้านคน และที่เห็นได้ชัดคือโรงเรียนประชารัฐทุกวันนี้มีคะแนนโอเน็ตสูงขึ้น และวันหน้าจะมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการนี้อีก 33 พันธมิตรองค์กร ซึ่งรัฐบาลจะจัดงบประมาณสนับสนุนกว่า 3,000 ล้านบาท หนังสือเรียนเข้าไปเถิด อย่าเพิ่งเบื่อ ต้องชอบและรักการเรียน ซึ่งรัฐบาลจะยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืน เพื่อเดินหน้าไปสู่การศึกษาที่มีการพัฒนา ร่วมมือกับภาคเอกชน พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นายกฯกล่าวว่า นายกฯขอฝากเด็กๆ อ่านหนังสือแล้วต้องรู้จักคิด วิเคราะห์ พ่อแม่ครูอาจารย์ต้องสนับสนุนการศึกษา เป็นครูแนวใหม่ เป็นนักเรียนแนวใหม่ เป็นผู้ปกครองแนวใหม่ ทุกคนต้องช่วยกัน การเรียนสมัยใหม่นี้มีความสำคัญ เมื่อเด็กทุกคนเกิดท่ามกลางโลกที่เจริญด้วยเทคโนโลยีก้าวเร็ว ก็ต้องก้าวให้ทัน และมีภูมิคุ้มกันที่ดีด้วย และในโอกาสวันเด็กที่กำลังจะมาถึง ให้ทุกคนยึดคำขวัญที่นายกฯ ได้ให้ไว้ว่า เด็กไทยยุคใหม่ รู้รัก สามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย ซึ่งหน้าที่ของพลเมืองไทยคือต้องทำเพื่อคนอื่น เพื่อตัวเอง และเพื่อครอบครัว เพื่อแผ่นดิน เพื่อชาติ เราเป็นเด็กไทยยุคใหม่ ต้องรู้รักสามัคคีเป็นสิ่งสำคัญที่สุด