PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กองทัพ ฉะขัดแย้งการเมืองทำลายความมั่นคงชาติ หวั่นคำตัดสินศาลยิ่งเพิ่มปัญหา

กองทัพ ฉะขัดแย้งการเมืองทำลายความมั่นคงชาติ เตือนคนไทยแตกสามัคคีระวังชาติย่อยยับ หวั่นคำตัดสินศาลยิ่งเพิ่มปัญหา อัดสื่อแบ่งข้าง-อคติเพิ่มความแตกแยก จี้หยุดเกลียดชัง-หยุดทำร้ายประเทศ คืนความสุขให้แผ่นดินไทย

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.สุรชาติ จิตต์แจ้ง หัวหน้าประชาสัมพันธ์ส่วนประชาสัมพันธ์ และสารสนเทศ สำนักรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า สัปดาห์นี้สถานการณ์การเมืองมีความเข้มข้นมากขึ้น หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินในประเด็นการแก้ไขที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.)ทำให้เกิดประเด็นปัญหาทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น สร้างความยุ่งยากและความลำบากในการที่จะก้าวข้าม หรือผ่านพ้นวิกฤติต่าง ๆ นี้ไปได้ ทั้งนี้สถานการณ์การเมืองเกิดความแตกแยกและซึมลึกไปทั่วทุกองค์กร เกิดการแบ่งฝ่าย สื่อมวลชนก็แบ่งข้าง ข่าวแถลงเรื่องเดียวกันแต่เสนอไปกันคนละด้าน โดยปรุงแต่งด้วยการใช้ความเชื่อ และความอคติของตนเองไม่ยอมรับความเห็นของกันและกัน เอาชนะคะคานทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มและพวกพ้องมีแนวโน้มที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจและน่าห่วงใยต่อบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง บรรยากาศความแตกแยกได้เกิดขึ้นและพัฒนามาตามลำดับมาเป็นเวลา 9 ปีแล้ว ควรพอกันได้หรือยัง ควรยุติกันดีหรือไม่ ควรจะมีการพูดคุยกันดีกว่า เพราะทุกคนต่างรักและหวังดีต่อประเทศไทย

“ประวัติศาสตร์ชาติไทยได้บันทึกไว้ว่าเมื่อยามใดที่คนไทยแตกความสามัคคีและเกิดการช่วงชิงอำนาจ ความพินาศย่อยยับจะเกิดขึ้นกับชาติบ้านเมือง และคนไทยทุกคนเมื่อนั้น ประเทศไทยได้รับการขนานนามจากชาติตะวันตกว่าเป็นสยามเมืองยิ้ม ได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่มีรอยยิ้มมีมิตรไมตรีมีน้ำใจที่ดีงาม ซึ่งเป็นรากเหง้าของวัฒนธรรมไทยที่คนทั้งโลกชื่นชม แต่ถามว่าขณะนี้ความดีงามเหล่านี้ยังคงมีอยู่ให้กันในฐานะคนไทยด้วยกันหรือไม่ สถานการณ์การเมืองปัจจุบันทำให้เกิดการกัดเซาะ ผุกร่อนความมั่นคงของชาติ เพราะความมั่นคงของชาติคือการอยู่รอดปลอดภัยประชาชนกินดีอยู่ดี ประเทศชาติมีความปลอดภัยและพัฒนาอย่างยั่งยืนผมจึงอยากเรียกร้องให้สื่อมวลชนทุกคนร่วมมือช่วยกันเป็นพลังที่มีประสิทธิภาพและเป็นกระบอกเสียงให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากันพูดคุยด้วยเหตุและผล ยึดถือประโยชน์ของชาติเป็นเป้าหมาย โดยระวางประโยชน์แห่งตน และพวกพ้อง สถานการณ์บ้านเมืองมาถึงจุดที่ประชาชนต้องร่วมกันแสดงออกเป็นเสียงเดียวกัน เป็นพลังที่บริสุทธิ์ด้วยการเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดสร้างความเกลียดชัง หยุดทำร้ายประเทศไทย ถึงเวลาคืนความสุขให้กับสังคมไทย ถึงเวลาหันหน้าเข้าหากัน เราต่างรักสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ ขอให้ทุกคนลงมือทำทันทีก่อนที่จะสายเกินไป หากเราทำเมื่อไหร่ความเป็นปกติสุขก็จะเกิดขึ้นกับคนไทยและสังคมไทย แผ่นดินไทยก็จะร่มเย็น


ไม่มีความคิดเห็น: