PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ชมดุฟังสถานการณ์ผ่านสื่อโซเชียลอย่างมีสติ

ในฐานะนักเขียนและคนทำหนัง อยากจะกล่าว

1. การเขียนสเตตัสและทวิตเตอร์บางครั้งเต็มไปด้วยอารมณ์และการใช้คำศัพท์เกินจริงเพื่อก่อให้เกิดผลทางอารมณ์ เช่น หกล้ม อาจเขียนว่า ไถลตัวจนร่างฟาดลงไปกับพื้น แทน / อ่านข้อเขียนที่ organized และเขียนด้วยข้อมูลจริงๆมีหลายๆมุม อาจจะดีกว่า

2. สำหรับยุคนี้แล้ว ภาพนิ่งไม่สามารถยืนยันความจริงได้ อย่าเชื่อภาพนิ่งที่โพสท์ๆกัน เช็คก่อน บางทีเขียนว่านี่คือกรุงเทพปี 2013 แต่ใช้ภาพประเทศฟิลิปปินส์เมื่อ 5 ปีก่อน

3. คลิปวิดีโอก็ด้วย , กล้องหนึ่งตัวไม่สามารถถ่ายเหตุการณ์ 360 องศารอบตัวได้ บางครั้งก็บันทึกจากมุมๆเดียว อัดมายาว 2 นาทีจากเหตุการณ์ทั้งหมด 120 นาที แล้วก็สรุปเหตุการณ์ทุกอย่างด้วยประโยคสั้นๆ 1 ประโยค / ยิ่งคลิปที่เขียนแคปชั่นบิวท์ๆเนี่ยตัวดีเลย (ย้อนกลับไปอ่านข้อ 1) / คลิปบางคลิปอาจจะเซ็ตอัพถ่ายขึ้นมาก็เป็นได้

4. เราอยู่ในยุคที่มีชุดความจริงประมาณ 50 กว่าชุดใน 1 เหตุการณ์ อ่านจากเฟซบุ้คของไอ้ ก. ก็ว่าอย่างหนึ่ง อ่านจากทวิตเตอร์ไอ้ ข. ก็อย่างนึง เห็นอินสตาแกรมของพี่ ค. ก็ดูน่าเชื่อ (และบางครั้งทั้งหมดทุกคนก็ฟังมาจากคนอื่นอีกที ไม่ได้อยู่ ณ ตรงจุดเกิดเหตุการณ์) / การเชื่ออะไรมีความเสี่ยง ควรศึกษาข้อมูลก่อนเชื่อทุกครั้ง

5. ตัวละครทุกตัวมีปมและแบ็คกราวนด์ที่ drive การกระทำๆหนึ่ง บางครั้งที่แบทแมนพูดมันก็ใช่ แต่ที่โจ๊กเกอร์พูดมันก็ถูกใช่มั๊ย ถ้าเกิดเราตั้งใจฟังจริงๆ เราจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นมากขึ้น แต่สุดท้ายจะเลือกเชื่ออะไร อันนี้ก็แล้วแต่คุณ

สามารถ adapt ใช้ได้กับทุกคน , ยุคนี้อยู่ยากนิดหน่อย เหมาะเหมือนทำข้อสอบอัตนัย ไม่มีช้อยส์ชัดๆให้เลือก แต่ก็ต้องอยู่ให้ได้ , เป็นยุคที่เปิดโอกาสให้เราใช้ทักษะการแยกแยะความจริง/ความลวงและทำความเข้าใจกับสิ่งต่างๆรอบตัวมากที่สุดแล้ว

แชร์ต่อมาจาก status ของ
Nawapol Thamrongrattanarit


ไม่มีความคิดเห็น: