ประธานสภาอุตฯสปอนเซอร์พธม. ประธานสภาหอฯคนสายวัง นำทีมสลายขั้วรัฐบาล หนุนมาร์คนายกฯหุ่นเชิด
พูด แบบชาวบ้านก็ต้องบอกว่า"ซื้อหวยทำไมไม่แม่นอย่างนี้" เพราะคล้อยหลังดร.สมศักดิ์พูดไปไม่กี่ชั่วโมง "ภาคธุรกิจเอกชน"ก็ออกโรงในทันควันว่า พรรครัฐบาลมีนายกฯมา2คนแล้ว บ้านเมืองมีแต่แย่ลง ต้องเปลี่ยนขั้วให้ประชาธิปัตย์ได้ตั้งรัฐบาลบ้าง
และ เป็นกระแสที่จุดติดขยายวงอย่างรวดเร็ว ใครต่อใครก็แห่ขานรับกระแสนี้ โดยที่ไม่มีใครฉุกคิดว่าผู้แทนองค์กรเอกชนที่ออกมาแสดงหน้าโรงในตอนนี้ ที่แท้แล้วก็คือองค์กรซ่อนเงื่อน ที่เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการลับลวงพราง ที่วางกับดักให้ประเทศชาติหล่นลงไปในหลุมพรางแห่งหายนะของประชาธิปไตยนั่น เอง!
เตือนอย่าตกหลุมพรางข้อเสนอภาคธุรกิจเอกชนให้สลายขั้ว เปิดช่องประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ชี้ฉากหน้าเป็นการสร้างกระแสอยากให้ชาติสงบจะได้ทำมาหากินเป็นสุข เพื่อให้สาธารณชนเฮโลเอาด้วย แต่เจาะลึกลงไปเป็นองค์กรลับลวงพราง พบประธานสภาอุตสาหกรรมเป็นบิ๊กเครือสหพัฒน์ ที่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ให้กับพันธมิตร ส่วนประธานสภาอุตฯเป็นลูกหม้อเครือซิเมนต์ไทย มีบทบาทเป็นตัวเชื่อมทุนศักดินา+ทุนข้ามชาติ+อำนาจปืนเป็นอำมาตยาซ่อนรูป พบมีพฤติการณ์ต่อต้านประชาธิปไตยรับใช้เผด็จการมาตลอด
ข้อเสนอ ของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน3สถาบัน ที่เสนออย่างฟันธงว่าต้องมีการเปลี่ยนขั้ว เปิดทางให้พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งรัฐบาลบ้าง กลายเป็นกระแสใหญ่ที่กำลังชี้นำกระแสการเมืองในเวลานี้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ผิดไปจากคาดหมายนัก นักวิชาการที่สังเกตการณ์การเมืองอย่างแหลมคมบางคนถึงกับฟันธงนับแต่วินาที ที่ศาลสั่งยุบ3พรรคแล้วว่า"ภาคธุรกิจ"จะออกมาเคลื่อนไหวกดดัน กระทั่งสร้างกระแสในเรื่องนี้
ภาพภายนอกนั้นมีกระแสเสมือนว่าพ่อค้า ภาคเอกชนอยากให้เรื่องสงบซะที จะได้ทำมาหากินกัน ซึ่งกระแสนี้นับว่าสาธารณชนรับได้ง่ายมาก กระแสใหญ่จึงโหมมากดดันขั้วรัฐบาลว่าต้องสลายขั้ว แล้วเปิดช่องให้พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งรัฐบาล ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้สมหวังกับเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
ภาคเอกชนพากันบอกว่า ขั้วรัฐบาลเป็นนายกฯมา2คนแล้วคือนายสมัครกับนายสมชาย แต่ก็ไปไม่รอด ควรเปลี่ยนขั้วให้ประชาธิปัตย์บ้าง
แต่ มีใครเคยตั้งคำถามกลับไปหรือไม่ว่า ทำไมภาคเอกชน 3 สถาบันจึงมองขั้วรัฐบาลที่ถูกกระทำเป็น"จำเลย" ในขณะที่ละเลยไม่ไปกดดันพันธมิตรที่เป็นฝ่ายกระทำ ให้หยุดประท้วง หรือไม่ก่อเหตุขึ้นใหม่...ซึ่งนี่เป็นคำถามง่ายๆ และคำตอบง่ายๆคือหากพันธมิตรไม่ก่อเหตุ มีหรือที่รัฐบาลนายสมัคร หรือนายสมชายจะคว่ำลง..มีหรือที่ขั้วรัฐบาลจะตั้งรัฐบาลไม่ได้ ในเมื่อเป็นเจตจำนงของประชาชนส่วนใมหญ่ของประเทศ
คำตอบอาจจะอยู่ที่ ว่า หากเราไปดูที่มาที่ไป ดูเบื้องหลังของแต่ละคนที่บอกว่าเป็นตัวแทนพ่อค้านักธุรกิจนั้น เขาเป็นตัวแทนของพ่อค้าทั้งหมดของประเทศไทย หรือแท้จริงแล้วผูกพันอยู่กับใครเป็นพิเศษ และมีแรงจูงใจแอบแฝงซ่อนเงื่อนไว้
สันติ วิลาสศักดานนท์ คนสหพัฒน์ สปอนเซอร์หลักพันธมิตร นาย สันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีสำคัญในเรื่องนี้เป็นใคร? แน่นอนว่าเขาไม่ได้กินตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เฉยๆ แต่ยังเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง(SPI)บริษัทในเครือสหพัฒนพิบูล ยักษ์ใหญ่ที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคขายคนไทยมานานหลายทศวรรษเป็นสหพัฒน์ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากมาหลายปีจากการถูกพวกโมเดิร์นเทรด อย่างคาร์ฟู โลตัสเล่นงาน วงจรธุรกิจที่ขายสินค้าป้อนโชห่วยที่ เป็นขุมสมบัติมาแต่ยุคเจ้าสัวเทียม โชควัฒนา กำลังยอบแยบ จนกระทั่งณรงค์ โชควัฒนา ลูกชายเจ้าสัวเทียมคนที่4 ต้องออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในการต่อต้านการขยายตัวของห้างโมเดิร์นเทรด เป็นการเคลื่อนไหวที่แนบแน่นอย่างยิ่งกับพันธมิตรของสนธิ ลิ้มทองกุล และว่ากันว่าสหพัฒน์เป็นสปอนเซอร์หลักของพันธมิตร
ทั้งสันติ และณรงค์ยังมีสายสัมพันธ์ในลักษณะเอาเงินไปเชื่อมกับปืนและเป็นอำนาจอำมา ตยาฯของสังคมไทย จึงไม่แปลกที่ทั้งสองได้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ในยุคที่คมช .ทำรัฐประหารสำเร็จในปี2549
ประมนต์ สุธีวงศ์ ลูกหม้อเครือซิเมนต์ไทย เงิน+ปืน+ทุนต่างชาติ
ส่วน นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย ก็ย่อมไม่ใช่แค่นั้น เขาเป็นประธานคณะกรรมการโตโยต้าประเทศไทยและเป็นคนไทยคนแรกที่เป็นประธานโตโยต้า เขาเก่งกล้าสามารถมาจากไหน คำตอบคือจากเครือซิเมนต์ไทย นายประมณฑ์เป็นลูกหม้ออยู่ที่เครือซิเมนต์ไทยมาแต่หนุ่มยันเกษียณในปี2542 ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย..ปูนซิเมนต์ไทยที่มีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหา กษัตริย์ถือหุ้นใหญ่นั่นเอง
เครือซิเมนต์ไทยถือหุ้นใหญ่ในโตโยต้า ประเทศไทย 10% เช่นเดียวกับบริษัทจากต่างประเทศที่มาลงทุนในไทยโดยทั่วไปที่เครือสำนักงาน ทรัพย์สินฯจะได้รับเกียรติให้เข้าไปร่วมถือหุ้นด้วยในฐานะเจ้าบ้านที่ดี
นาย ประมณฑ์ก็เช่นเดียวกับพ่อค้าใหญ่ของไทยทั่วไปคือมีลักษณะของการนำเงินไปผนวก กับปืนแล้วกลายเป็นอำนาจอันยากจะท้าทาย ในการรัฐประหาร19กันยายน เขาได้ตำแหน่ง สนช.อย่างที่ไม่ต้องเดาให้ยาก
ใขณะที่ต่อต้านขับไส รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง นายประมณฑ์เคยเชียร์องคมนตรีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่มาเป็นนายกฯหลังการรัฐประหาร19กันยาฯว่า "ท่านเป็นคนดี เป็นที่เคารพนับถือ มีผลงานในอดีตเป็นที่ยอมรับ จึงเหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯ"
นักวิชาการฟันธงไว้ไม่มีผิดจะมีภาคธุรกิจออกแรงกดดันให้ปชป.ได้ตั้งรัฐบาล
เมื่อ วานนี้พอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินฉับประหาร3พรรคให้ยุบลงไป ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งโฟกัสประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัยระดับแถวหน้าของประเทศ ก็ออกคาดการณ์ทันทีว่า ผมคิดว่า จังหวะก้าวต่อไป ของ "พลังเทวดา" จะเป็นดังนี้"สร้างแรงกดดันให้ อดีตพรรคชาติไทย มัชฌิมา ที่เหลือ "เปลี่ยนข้าง" ไปหนุน ปชป.ทั้งอาศัยแรงกดดันจากพันธมิตร และอาศัยแรงบีบจาก "ภาคธุรกิจ" ต่างๆ ประสานเสียง พวก "นักวิชาการ" ฯลฯ
ถ้าสำเร็จ ตั้ง รัฐบาลปชป. แล้ว ประกาศยุบสภาทันที จัดการเลือกตั้ง โดย รัฐบาลปชป. ซึงจะทำให้ได้เปรียบ ขณะเดียวกัน ระหว่างเลือกตั้ง ก็เน้นประเด็นว่า มีแต่เปลี่ยนใจเลือก ฝ่าย ปชป. (และพรรคอื่น มีแต่เปลี่ยนใจ หันมาหนุน ปชป.เท่านั้น) จึงจะเกิดความสงบ
พูดแบบชาวบ้านก็ต้องบอกว่า"ซื้อหวย ทำไมไม่แม่นอย่างนี้" เพราะคล้อยหลังดร.สมศักดิ์พูดไปไม่กี่ชั่วโมง "ภาคธุรกิจเอกชน"ก็ออกโรงในทันควันว่า พรรครัฐบาลมีนายกฯมา2คนมีแต่แย่ลง ต้องเปลี่ยนขั้วให้ประชาธิปัตย์ได้ตั้งรัฐบาลบ้าง
และเป็นกระแสที่ จุดติดขยายวงอย่างรวดเร็ว ใครต่อใครก็แห่ขานรับกระแสนี้ โดยที่ไม่มีใครฉุกคิดว่าผู้แทนองค์กรเอกชนที่ออกมาแสดงหน้าโรงในตอนนี้ ที่แท้แล้วก็คือองค์กรซ่อนเงื่อน ที่เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการลับลวงพราง ที่วางกับดักให้ประเทศชาติหล่นลงไปในหลุมพรางแห่งหายนะของประชาธิปไตยนั่น เอง!
เตือนอย่าตกหลุมพรางข้อเสนอภาคธุรกิจเอกชนให้สลายขั้ว เปิดช่องประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ชี้ฉากหน้าเป็นการสร้างกระแสอยากให้ชาติสงบจะได้ทำมาหากินเป็นสุข เพื่อให้สาธารณชนเฮโลเอาด้วย แต่เจาะลึกลงไปเป็นองค์กรลับลวงพราง พบประธานสภาอุตสาหกรรมเป็นบิ๊กเครือสหพัฒน์ ที่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ให้กับพันธมิตร ส่วนประธานสภาอุตฯเป็นลูกหม้อเครือซิเมนต์ไทย มีบทบาทเป็นตัวเชื่อมทุนศักดินา+ทุนข้ามชาติ+อำนาจปืนเป็นอำมาตยาซ่อนรูป พบมีพฤติการณ์ต่อต้านประชาธิปไตยรับใช้เผด็จการมาตลอด
ข้อเสนอ ของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน3สถาบัน ที่เสนออย่างฟันธงว่าต้องมีการเปลี่ยนขั้ว เปิดทางให้พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งรัฐบาลบ้าง กลายเป็นกระแสใหญ่ที่กำลังชี้นำกระแสการเมืองในเวลานี้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่ผิดไปจากคาดหมายนัก นักวิชาการที่สังเกตการณ์การเมืองอย่างแหลมคมบางคนถึงกับฟันธงนับแต่วินาที ที่ศาลสั่งยุบ3พรรคแล้วว่า"ภาคธุรกิจ"จะออกมาเคลื่อนไหวกดดัน กระทั่งสร้างกระแสในเรื่องนี้
ภาพภายนอกนั้นมีกระแสเสมือนว่าพ่อค้า ภาคเอกชนอยากให้เรื่องสงบซะที จะได้ทำมาหากินกัน ซึ่งกระแสนี้นับว่าสาธารณชนรับได้ง่ายมาก กระแสใหญ่จึงโหมมากดดันขั้วรัฐบาลว่าต้องสลายขั้ว แล้วเปิดช่องให้พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งรัฐบาล ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้สมหวังกับเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
ภาคเอกชนพากันบอกว่า ขั้วรัฐบาลเป็นนายกฯมา2คนแล้วคือนายสมัครกับนายสมชาย แต่ก็ไปไม่รอด ควรเปลี่ยนขั้วให้ประชาธิปัตย์บ้าง
แต่ มีใครเคยตั้งคำถามกลับไปหรือไม่ว่า ทำไมภาคเอกชน 3 สถาบันจึงมองขั้วรัฐบาลที่ถูกกระทำเป็น"จำเลย" ในขณะที่ละเลยไม่ไปกดดันพันธมิตรที่เป็นฝ่ายกระทำ ให้หยุดประท้วง หรือไม่ก่อเหตุขึ้นใหม่...ซึ่งนี่เป็นคำถามง่ายๆ และคำตอบง่ายๆคือหากพันธมิตรไม่ก่อเหตุ มีหรือที่รัฐบาลนายสมัคร หรือนายสมชายจะคว่ำลง..มีหรือที่ขั้วรัฐบาลจะตั้งรัฐบาลไม่ได้ ในเมื่อเป็นเจตจำนงของประชาชนส่วนใมหญ่ของประเทศ
คำตอบอาจจะอยู่ที่ ว่า หากเราไปดูที่มาที่ไป ดูเบื้องหลังของแต่ละคนที่บอกว่าเป็นตัวแทนพ่อค้านักธุรกิจนั้น เขาเป็นตัวแทนของพ่อค้าทั้งหมดของประเทศไทย หรือแท้จริงแล้วผูกพันอยู่กับใครเป็นพิเศษ และมีแรงจูงใจแอบแฝงซ่อนเงื่อนไว้
สันติ วิลาสศักดานนท์ คนสหพัฒน์ สปอนเซอร์หลักพันธมิตร นาย สันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีสำคัญในเรื่องนี้เป็นใคร? แน่นอนว่าเขาไม่ได้กินตำแหน่งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เฉยๆ แต่ยังเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง(SPI)บริษัทในเครือสหพัฒนพิบูล ยักษ์ใหญ่ที่ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคขายคนไทยมานานหลายทศวรรษเป็นสหพัฒน์ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากมาหลายปีจากการถูกพวกโมเดิร์นเทรด อย่างคาร์ฟู โลตัสเล่นงาน วงจรธุรกิจที่ขายสินค้าป้อนโชห่วยที่ เป็นขุมสมบัติมาแต่ยุคเจ้าสัวเทียม โชควัฒนา กำลังยอบแยบ จนกระทั่งณรงค์ โชควัฒนา ลูกชายเจ้าสัวเทียมคนที่4 ต้องออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในการต่อต้านการขยายตัวของห้างโมเดิร์นเทรด เป็นการเคลื่อนไหวที่แนบแน่นอย่างยิ่งกับพันธมิตรของสนธิ ลิ้มทองกุล และว่ากันว่าสหพัฒน์เป็นสปอนเซอร์หลักของพันธมิตร
ทั้งสันติ และณรงค์ยังมีสายสัมพันธ์ในลักษณะเอาเงินไปเชื่อมกับปืนและเป็นอำนาจอำมา ตยาฯของสังคมไทย จึงไม่แปลกที่ทั้งสองได้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ในยุคที่คมช .ทำรัฐประหารสำเร็จในปี2549
ประมนต์ สุธีวงศ์ ลูกหม้อเครือซิเมนต์ไทย เงิน+ปืน+ทุนต่างชาติ
ส่วน นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย ก็ย่อมไม่ใช่แค่นั้น เขาเป็นประธานคณะกรรมการโตโยต้าประเทศไทยและเป็นคนไทยคนแรกที่เป็นประธานโตโยต้า เขาเก่งกล้าสามารถมาจากไหน คำตอบคือจากเครือซิเมนต์ไทย นายประมณฑ์เป็นลูกหม้ออยู่ที่เครือซิเมนต์ไทยมาแต่หนุ่มยันเกษียณในปี2542 ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย..ปูนซิเมนต์ไทยที่มีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหา กษัตริย์ถือหุ้นใหญ่นั่นเอง
เครือซิเมนต์ไทยถือหุ้นใหญ่ในโตโยต้า ประเทศไทย 10% เช่นเดียวกับบริษัทจากต่างประเทศที่มาลงทุนในไทยโดยทั่วไปที่เครือสำนักงาน ทรัพย์สินฯจะได้รับเกียรติให้เข้าไปร่วมถือหุ้นด้วยในฐานะเจ้าบ้านที่ดี
นาย ประมณฑ์ก็เช่นเดียวกับพ่อค้าใหญ่ของไทยทั่วไปคือมีลักษณะของการนำเงินไปผนวก กับปืนแล้วกลายเป็นอำนาจอันยากจะท้าทาย ในการรัฐประหาร19กันยายน เขาได้ตำแหน่ง สนช.อย่างที่ไม่ต้องเดาให้ยาก
ใขณะที่ต่อต้านขับไส รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง นายประมณฑ์เคยเชียร์องคมนตรีพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่มาเป็นนายกฯหลังการรัฐประหาร19กันยาฯว่า "ท่านเป็นคนดี เป็นที่เคารพนับถือ มีผลงานในอดีตเป็นที่ยอมรับ จึงเหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯ"
นักวิชาการฟันธงไว้ไม่มีผิดจะมีภาคธุรกิจออกแรงกดดันให้ปชป.ได้ตั้งรัฐบาล
เมื่อ วานนี้พอศาลรัฐธรรมนูญตัดสินฉับประหาร3พรรคให้ยุบลงไป ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งโฟกัสประวัติศาสตร์ไทยร่วมสมัยระดับแถวหน้าของประเทศ ก็ออกคาดการณ์ทันทีว่า ผมคิดว่า จังหวะก้าวต่อไป ของ "พลังเทวดา" จะเป็นดังนี้"สร้างแรงกดดันให้ อดีตพรรคชาติไทย มัชฌิมา ที่เหลือ "เปลี่ยนข้าง" ไปหนุน ปชป.ทั้งอาศัยแรงกดดันจากพันธมิตร และอาศัยแรงบีบจาก "ภาคธุรกิจ" ต่างๆ ประสานเสียง พวก "นักวิชาการ" ฯลฯ
ถ้าสำเร็จ ตั้ง รัฐบาลปชป. แล้ว ประกาศยุบสภาทันที จัดการเลือกตั้ง โดย รัฐบาลปชป. ซึงจะทำให้ได้เปรียบ ขณะเดียวกัน ระหว่างเลือกตั้ง ก็เน้นประเด็นว่า มีแต่เปลี่ยนใจเลือก ฝ่าย ปชป. (และพรรคอื่น มีแต่เปลี่ยนใจ หันมาหนุน ปชป.เท่านั้น) จึงจะเกิดความสงบ
พูดแบบชาวบ้านก็ต้องบอกว่า"ซื้อหวย ทำไมไม่แม่นอย่างนี้" เพราะคล้อยหลังดร.สมศักดิ์พูดไปไม่กี่ชั่วโมง "ภาคธุรกิจเอกชน"ก็ออกโรงในทันควันว่า พรรครัฐบาลมีนายกฯมา2คนมีแต่แย่ลง ต้องเปลี่ยนขั้วให้ประชาธิปัตย์ได้ตั้งรัฐบาลบ้าง
และเป็นกระแสที่ จุดติดขยายวงอย่างรวดเร็ว ใครต่อใครก็แห่ขานรับกระแสนี้ โดยที่ไม่มีใครฉุกคิดว่าผู้แทนองค์กรเอกชนที่ออกมาแสดงหน้าโรงในตอนนี้ ที่แท้แล้วก็คือองค์กรซ่อนเงื่อน ที่เป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการลับลวงพราง ที่วางกับดักให้ประเทศชาติหล่นลงไปในหลุมพรางแห่งหายนะของประชาธิปไตยนั่น เอง!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น