PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2558

"ชาญวิทย์"ปัดพันแก๊งบิึ้มยันไม่รู้จัก"เดียร์"

ตำรวจนำตัว 4 ผู้ต้องหาบึ้มศาลอาญา ขออำนาจศาลทหารกรุงเทพฝากขังผลัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว ชาญวิทย์ปฏิเสธทุกข้อหา ยืนยันไม่รู้จัก ‘เดียร์-อเนก’
วันนี้ (16 มี.ค.) พนักงานสอบสวนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล คุมตัวนายสรรเสริญ หรือสัน ศรีอุ่นเรือน, นายชาญวิทย์ จริยานุกูล, นายวิชัย อยู่สุข และนายนรภัทร หรือบาส เหลือผล ผู้ต้องหาชุดที่2 ร่วมกันวางแผนก่อเหตุปาระเบิดอาร์จีดี 5 ใส่ลานจอดรถศาลอาญารัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
ชาญวิทย์ แก๊งบึ้มศาลอาญา ปัดทุกข้อหายันไม่รู้จัก 'เดียร์'
ชาญวิทย์ แก๊งบึ้มศาลอาญา ปัดทุกข้อหายันไม่รู้จัก ‘เดียร์’
มายื่นคำร้องขออำนาจศาลทหารกรุงเทพฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 16-27 มี.ค.2558 พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ มีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี หลังได้รับส่งมอบตัวจากทหารที่ควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก
ในข้อกล่าวหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ของผู้อื่น,มีและใช้กระสุนปืนสงคราม,มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน,พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านและสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, มียุทธภัณฑ์ทางทหารไว้ในครอบครองไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือชุมชน รวมถึงฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่50/2557 ทั้งนี้ ในส่วนของนายนรภัทรได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจรเพิ่มเติมด้วย
ทั้งนี้นายชาญวิทย์ กล่าวก่อนเข้ารับฟังการพิจารณาคำร้องของศาลทหารกรุงเทพฯ โดยยอมรับว่าได้มีการประชุมจริงที่จ.ขอนแก่น แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการวางแผนปาระเบิดศาลอาญา โดยเป็นเพียงการประชุมหารือทางการเมือง เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ตนจะปฎิเสธทุกข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวน โดยที่ผ่านมาตนให้ความร่วมมือในการตอบข้อซักถามของเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมยืนยัน ไม่รู้จักนางสุภาพร มิตรอารักษ์ หรือนางเดียร์ และนายมนูญ ชัยชนะ หรืออเนก ซานฟราน แต่ยอมรับว่าเคยติดตามข้อมูลข่าวสารของอเนกผ่านโซเชียลมีเดีย
สำหรับคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหารวม 14 คน สามารถจับกุมได้แล้ว 12 คน และอยู่ระหว่างหลบหนีอีก 2 คน

ไม่มีความคิดเห็น: