PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ล่า!! แท็กซี่เขียวเหลือง ‘มฏ’ เอี่ยวบึ้มราชประสงค์-สาทร

ตำรวจตรวจวงจรปิดพบแท็กซี่เขียวเหลือง หมวด’มฏ’ ขึ้นต้นด้วยเลข27 เอี่ยวระเบิดราชประสงค์ โยงท่าเรือสาทร ขณะจับตาอุยกรู์หลังหนีจากค่ายกักกัน
วันที่ 25 ส.ค. จากเหตุการณ์ระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ และบริเวณท่าเรือสาทร ซึ่งตำรวจเชื่อว่าทั้ง 2 เหตุ น่าจะมีส่วนเชื่อมโยงกัน ซึ่งความคืบหน้านั้นมีรายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนได้สุ่มเชิญโชเฟอร์แท็กซี่ในพื้นที่กทม. โดยเน้นเฉพาะแท็กซี่สีเขียวเหลืองมาให้ข้อมูลและบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานประมาณ 15 คันนั้น
ล่าสุดวานนี้(24ส.ค.) ได้สุ่มเชิญโชเฟอร์แท็กซี่มาให้ข้อมูลอีกครั้ง และจากการเฝ้าสังเกตพบรถแท็กซี่โตโยต้าอัลติส สีเขียวเหลือง ทะเบียนหมวดอักษร “มฏ” ตามด้วยเลข “27” นำมาบันทึกภาพด้านหน้าด้านข้าง และด้านหลัง ไว้เป็นข้อมูลเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับภาพวงจรปิดรถแท็กซี่ของคนร้ายนั่งไปก่อเหตุ แต่ในเบื้องต้นไม่พบตัวโชเฟอร์แท็กซี่ของคนร้ายแต่อย่างใด
มีรายงานข่าวด้วยว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาชุดสืบสวนคลี่คลายคดีได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมที่บริเวณรพ.กลาง ใกล้กับตลาดคลองถม สามารถจับภาพรถแท็กซี่คันดังกล่าวไว้ได้ โดยไปส่งคนร้ายที่สถานีรถไฟหัวลำโพงวิ่งเข้าเส้นทางรพ.กลาง ขึ้นสะพานพุทธ ข้ามไปยังฝั่งธนบุรี
และเบื้องต้นคาดว่ารถแท็กซี่น่าจะวิ่งรับส่งผู้โดยสารย่านฝั่งธนบุรีเป็นเส้นทางประจำ จึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดย่านถนนสาทร ยานนาวา บุคคโล สมเด็จเจ้าพระยา สำเหร่ เพื่อใช้เป็นเบาะแสติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
ในส่วนการติดตามคนร้ายก่อเหตุที่ท่าเรือสาทร พบภาพวงจรปิดจับภาพคนร้ายถือกระเป๋าพร้อมกับโทรศัพท์ขนาดใหญ่ใช้สนทนาพูดคุยสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ต สอดคล้องกับชุดคลี่คลายคดีระบุว่า แอพพลิเคชั่นวีแซทเป็นที่นิยมในกลุ่มชาวจีน มาเลเชีย และชาวตะวันออกกลาง ประกอบกับการใช้แอพพลิเคชั่นยากต่อการติดตามตัว รวมทั้งมีความเป็นไปได้ว่า การที่คนร้ายนำระเบิดมาทิ้งที่ท่าเรือสาทรนั้นเป็นการนำมาทิ้งไว้โดยไม่ประสงค์ต่อชีวิต เนื่องจากการก่อเหตุที่ราชประสงค์สำเร็จแล้ว จึงพยายามทำลายหลักฐาน และหลังจากก่อเหตุแล้ว คนร้ายเดินออกจากท่าเรือสาทรไปยังซอยเจริญนคร 29 ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายสามารถจับความเคลื่อนไหวได้
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลกลุ่มชาวอุยกูร์หลบหนีจากค่ายกักกัน หลังจากพบข้อมูลว่าเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา มีชาวอุยกูร์หลบหนีออกห้องขังที่ด่านพรหมแดนตรวจค้นเข้าเมือง จ.สระแก้ว17 คน และต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมไว้ได้ 9 คน เหลืออีก 8 คน หลบหนีไปได้ สอดรับกับข้อมูลของทีมสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะมีอยู่ประมาณ 7-8 คน
ขอบคุณข้อูล/ภาพจาก เดลินิวส์
MThai News

ไม่มีความคิดเห็น: