PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2559

ถาวร′สวน′ผบ.ตร.′อย่าพูดเอาใจ′บิ๊กตู่′ ชี้ ยางเเผ่นขายจริงไม่เกิน25บ. อย่าฟังขรก.

http://www.matichon.co.th/online/2016/01/14523265591452326599l.jpg

เมื่อวันที่ 9 มกราคม นายถาวร เสนเนียม อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำกปปส. กล่าวถึงกรณีพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ระบุถึงตนหากล้ำเส้นกฎหมายก็ไม่เกรงใจในกรณีเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือชาวสวนยางพาราภาคใต้ว่า 

ตนขอแจ้งถึงพล.ต.อ.จักรทิพย์ว่า ตนเป็นนักการเมืองของประชาชนและทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องประชาชนมาตลอดในทุกปัญหาที่เขาเดือดร้อนและตนมีวุฒิภาวะดีพอว่าอะไรควร หรือไม่ควร ไม่ต้องมาปราม มาเตือน หรืออ้างว่ารู้จักกัน 

อย่าพูดเพื่อเอาใจนายกฯ เพราะพวกท่านอยู่ในตำแหน่งได้ดิบได้ดี แต่วันนี้ชาวสวนยางพาราเดือดร้อนแสนสาหัส ตนจะไม่เป็นคนชักนำให้พวกเขาต้องเดือดร้อนซ้ำจนเป็นผู้ต้องหา เพราะกฎหมายไม่มีละเว้นให้ใครหน้าไหน มีแต่ผู้บังคับใช้กฎหมายเท่านั้นที่ละเว้น ซึ่งตำรวจชั้นผู้ใหญ่บางคนรู้ดีว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อะไรไว้บ้าง

"ดังนั้น ถ้าผมทำผิดกฎหมายก็เชิญตามสบาย ผมเป็นลูกผู้ชายพอ กล้าทำก็กล้ารับ และรู้จักหน้าที่ของตัวเอง และขอแจ้งถึงพี่น้องตำรวจ ทั้งที่รู้จักหรือไม่รู้จักว่า ถ้าผมทำผิดก็อย่าละเว้น จะเป็นตัวอย่างกับผู้อื่น ทั้งยังจะเดือดร้อนว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบอีก ส่วนที่รู้จักผมนั้น จะรู้ว่าผมเป็นคนอย่างไร สำหรับ ผบช.ภ. 9 ทราบว่าท่านใช้คำว่า ถ้าออกมาเคลื่อนไหว ก็เท่ากับว่าเป็นอันธพาล ใช้กฎหมู่เหนือกฎหมายนั้น ในฐานะที่ ผบช.ภ.9 ซึ่งผู้รับผิดชอบในเขตพื้นที่ ซึ่งผมมีภูมิลำเนาและเป็นเขตเลือกตั้งอยู่ด้วยนั้น ผมขอขอบคุณที่เตือนแต่สิ่งที่เตือนนั้น ผมสำเหนียกตัวเองตลอดและขอส่งสัญญาณถึงท่านว่าในพื้นที่รับผิดชอบของภาค 9 มีผู้บังคับบัญชาที่รับส่วยอยู่ขอให้ตรวจสอบด้วย หากจะเปิดหน้าชกกับผมก็ยินดี" นายถาวรกล่าว 

นายถาวรกล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหายางพาราตกต่ำนั้น อาจต้องทำจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เพื่อให้รับรู้ปัญหาและข้อเท็จจริง ไม่ใช่ฟังข้อมูลจากข้าราชการด้านเดียว เช่นที่บอกว่า ราคายางอยู่ที่ 48 หรือ 36 บาทต่อกิโลกรัมนั้น เป็นราคายางแผ่นดิบรมควันชั้นหนึ่งที่พร้อมส่งออก แต่ราคาน้ำยางสดหรือยางแผ่นที่ซื้อขายในพื้นที่จริง กลับมีราคาอยู่ที่ 23-25 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น 

ที่สำคัญรัฐบาลควรรับฟังปัญหา และตั้งคณะกรรมการมาแก้ไข ไม่ใช่บอกว่า ทำมาแล้ว หมดหนทางแล้ว ไม่ใช่วิสัยของนักปกครอง ในเมื่อรัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบก็ต้องพร้อมแก้ปัญหา หรือแสดงความจริงใจว่าพยายามแก้ไขให้คนที่กำลังเดือดร้อนมีกำลังใจ หากยังนิ่งเฉย แก้ไม่ถูกทางเช่นนี้ พอถึงฤดูเปิดกรีดยาง ก็จะมียางออกมาอีกมากจะยิ่งซ้ำปัญหายิ่งขึ้น ส่วนการที่แนะนำให้ปลูกพืชอื่นเป็นรายได้เสริมนั้น ชาวสวนยางทำมาหมดแล้ว แต่รายได้หลักคือ การปลูกยาง ที่ตกต่ำในรอบ 100 ปีก็ว่าได้

ไม่มีความคิดเห็น: