PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559

“บิ๊กตู่” ปัด “ป๋าเปรม” เอี่ยวตั้ง ผบ.ทบ. ยันพิจารณาร่วมกับ “บิ๊กป้อม-ผบ.เหล่าทัพ“”

“บิ๊กตู่” ปัด “ป๋าเปรม” เอี่ยวตั้ง ผบ.ทบ. ยันพิจารณาร่วมกับ “บิ๊กป้อม-ผบ.เหล่าทัพ“”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
        “ประยุทธ์” ติงสื่ออย่าดึง “ป๋าเปรม” มาเอี่ยวตั้ง ผบ.ทบ. ยันพิจารณาร่วมกับ “ประวิตร” และ ผบ.เหล่าทัพ รับอาจมีผู้ผิดหวังเพราะตำแหน่งมีน้อยบ แต่ยืนยันกองทัพไม่แตกแยก ปัดเพิ่มอัตราจอมพล ที่ปรึกษากลาโหม ซับน้ำตา “บิ๊กแกละ” หลังพลาดเก้าอี้ ผบ.ทบ. ระบุตั้งเพราะมีคุณงามความดีจากการทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติมาตลอด
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเพิ่มอัตราจอมพล ตำแหน่งประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม รองรับ พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร เสนาธิการทหารบก ที่พลาดตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่า ไม่มี มีเพียงตำแหน่งประธานที่ปรึกษา แต่เดิมเคยมีแต่ถูกปรับลดไป ความจริงไม่ควรถูกปรับลด แต่ด้วยวิธีต่างๆ ที่ผ่านมา ในทุกๆ ปีเราจะต้องให้คนที่เขาทำงาน อย่าไปคิดว่าเป็นการตอบแทนให้คิดว่าเขาทำงานมาทั้งชีวิต แล้วประสบความสำเร็จทั้งหมด แต่ตำแหน่งมีจำกัด ขอให้คิดว่าเขาทำงานเพื่อประเทศชาติ ก็ต้องให้เขามีความสุขในบั้นปลายชีวิต รวมถึงครอบครัวได้ภูมิใจ ทำไมสื่อไม่คิดแบบนั้น ตนขอถามว่าถ้าคนห่วยๆ จะเป็นได้หรือเปล่า ก็เป็นไม่ได้ ทุกคนต้องเข้าใจว่ามันไม่ได้มากมายอะไร ส่วนข้างบนเขาก็ทำงานจริงๆ ข้างล่างลงมาก็มีตำแหน่งจำกัด ส่วนที่เกินมาก็ตั้งคนมาช่วยเป็นคณะทำงาน เพราะกองทัพบกมีถึง 6 สาย ไม่ว่าจะกำลังพล การข่าว ยุทธการ การศึกษา กำลังบำรุง เขามีกลุ่มงานของเขา มีคณะกรรมการต่างๆ คนเหล่านี้จะมาช่วยกันทำงานทั้งหมด ไม่ใช่แค่ ผบ.ทบ.อย่างเดียว ต้องมีการมอบนโยบายลงไปให้ 5 เสือไปพิจารณาทั้งหมด รวมถึงให้คณะทำงานไปทำงานในแต่ละสายงาน ถึงจะสรุปข้อมูลทั้งหมดมาให้ ผบ.ทบ. โดยผ่านกระบวนการของ 5 เสือ
       
       “กองทัพมีการทำงานแบบนี้ทุกเหล่าทัพ ผมยืนยันว่าการแต่งตั้งทั้งหมดมีการประชุมกัน ผมจะแต่งใครก็ต้องมีการประชุม 5 เสือ จากนั้นก็เสนอให้ที่ประชุมกลาโหม หากจะตั้งนายทหารพันเอกพิเศษ ผบ.ทบ.เป็นคนตัดสินใจ แต่ผมต้องประชุม 5 เสืออีก โดยเอาคำสั่งการปรับย้ายที่ทุกกองทัพและหน่วยงานเสนอเข้ามาพิจารณาในที่ประชุมว่าคนในตำแหน่งดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ เพราะเราก็รู้ดีว่าใครดีไม่ดีอย่างไร แต่ถ้าเขาโอเคอยู่แล้ว ผมก็ไม่แตะ แทบจะส่วนน้อยมากที่ผมไปยุ่ง”
       
       พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การปรับย้ายครั้งนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีการบีบบังคับใครทั้งสิ้น ยืนยันว่าก่อนจะมีการออกคำสั่งได้มีการประชุมเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้เป็นอย่างที่หลายคนวิเคราะห์กันมาว่าจะอยู่ข้างใคร รวมถึงการไปเข้าบ้าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นคนละเรื่องกันจะเอามาโยงกันได้อย่างไร ตนก็ตั้งกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม รวมกับการพิจารณาของ ผบ.เหล่าทัพเท่านั้น ทุกอย่างกลั่นกรองมาแล้ว ไม่มีใครเกี่ยวข้องทั้งสิ้นขอยืนยัน
       
       “ผมบอกแล้วไง ไม่มีใครมาสั่งผม เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง และผมเป็นผู้นำเสนอและพิจารณา ขั้นสุดท้ายก่อนจะลงนามกราบบังคมทูล เราทำงานกันแบบนี้ อย่าไปคิดว่าจะต้องตั้งคนโน้นคนนี้ ข้างของคนนู้นคนนี้ มันต้องคนเดียว ยิ่งทำอะไรไม่ได้ เพราะจะเกิดความไม่เป็นธรรมในกองทัพ สุดท้ายแตกแยก แต่ทหารไม่มีเรื่องเหล่านี้ ไม่มีแน่นอน คนส่วนใหญ่เขายอมรับ ส่วนคนผิดหวังก็เป็นคนส่วนน้อย เป็นคนธรรมดาเขาทำอะไรไม่ได้ เพราะตัวเองไม่ทำให้เขายอมรับ การทำงานต้องไต่เต้ามาตั้งแต่เล็กจนโต และระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาด พอถึงเวลาที่เหมาะสมก็เอาเรื่องเหล่านี้มาพิจารณา ทั้งหน้าบ้าน หลังบ้านพิจารณาหมด ไม่ใช่จะพิจารณาส่งเดช รักผมหรือไม่รักผม มันไม่ใช่ เพราะถึงไม่รักผม ผมก็รักเขา นึกถึงเขาสิ เพราะฉะนั้นอย่าเอา พล.อ.เปรมมาเกี่ยว ต้องให้เกียรติท่าน อย่าเอาท่านมาเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง เพราะท่านเป็นที่เคารพนับถือของกองทัพ และท่านเองก็บอกว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรทั้งสิ้น แต่สื่อก็เขียนอยู่ได้ เอาท่านมาเกี่ยวทำไม เอามาเกี่ยวให้ทะเลาะเบาะแว้ง ผมยืนยันว่าผู้ใหญ่ทุกคนไม่มีอะไรซึ่งกันและกัน ฉะนั้นอย่าไปเขียนให้ปัญหามันมากขึ้น เพราะปัญหามันเยอะอยู่แล้ว ขอให้ผมได้ทำงานแก้ปัญหา เดินตามอนาคต วันนี้ถามว่าผมทำเพื่อพวกพ้องหรือ”

ไม่มีความคิดเห็น: