PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ล้างหูรอฟัง

ล้างหูรอฟัง

พรุ่งนี้ (25 ส.ค.) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการ เมือง นัดอ่านคำพิพากษาคดีอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกอัยการสูงสุดฟ้อง ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ปล่อยปละ-ละเลยให้เกิดความเสียหายในโครงการจำนำข้าวรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

เป็นวิบากกรรมครั้งที่ 4 ของ “อดีต นายกฯปู” ในรอบ 3 ปี

เริ่มจากโดนศาลรัฐธรรมนูญเช็ก บิลให้พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

แล้วโดนที่ประชุม สนช.ลงมติถอดถอนซ้ำอีกขบวน

แถมโดนไล่บี้ต้องชดใช้ความเสียหาย 36,000 ล้านบาท อีกกระทง

ขาดอีกอย่างเดียว ยังไม่โดนติดคุกเท่านั้นเอง

“แม่ลูกจันทร์” เคารพศาลยุติธรรม เชื่อถือสถาบันตุลาการ เชื่อมั่นว่าองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาจะวินิจฉัยสำนวนคดีทั้ง 2 ฝ่าย ด้วยความเที่ยงธรรมและเที่ยงตรง

ผลการตัดสินคดีนี้จะออกมาอย่างไร ย่อมเป็นไปตามเหตุผลข้อเท็จจริง

ข้อเท็จจริงของคดีโครงการจำนำข้าวเป็นอย่างไร เนื่องจากเนื้อที่มีจำกัด ไม่สามารถจาระไนให้ครบถ้วนทุก ประเด็น

ไฮไลต์สำคัญจึงอยู่ที่การแถลงปิดคดีของอัยการสูงสุดในฐานะโจทก์ และอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ในฐานะจำเลย ซึ่งเป็นการสรุปสาระสำคัญเสนอให้ศาลพิจารณาก่อนตัดสินคดี

อดีตนายกฯปูได้แถลงปิดคดีด้วยวาจามี 5 ประเด็นสำคัญดังนี้คือ

1, การเร่งรีบชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

คดีนี้ ป.ป.ช.เริ่มต้นกล่าวหาด้วยพยานเอกสารเพียง 329 แผ่น และไม่มีการพิสูจน์ตัวเลขความเสียหายชัดเจนว่าเป็นจำนวนเท่าใด

โดย ป.ป.ช.ใช้เวลาไต่สวนเพียง 79 วัน

ต่างจากคดีอื่นๆที่ ป.ป.ช.ให้เวลานานเป็นปี หรือนานหลายปี

2, อัยการสูงสุด แถลงฟ้องคดีนี้ ก่อนที่ประชุม สนช.จะลงมติถอดถอนอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ เพียง 1 ชั่วโมง

ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น ฝ่ายอัยการแจ้ง ป.ป.ช.ว่า ข้อกล่าวหายังไม่สมบูรณ์ ไม่มีพยานหลักฐานพอจะดำเนินคดี

3,รัฐบาล คสช.ของนายกฯบิ๊กตู่ได้ออกคำสั่งทางปกครองบังคับอดีตนายกฯปูต้องชดใช้ค่าเสียหายถึง 35,000 ล้านบาท แต่เพียงผู้เดียว

และยังใช้คำสั่ง ม.44 ยึดเงินในบัญชีจำเลยทุกบัญชี ทั้งๆที่ศาล ฎีกายังไม่ทันพิพากษาคดี

4,ข้อกล่าวหาละเลย ไม่ระงับยับยั้งความเสียหาย จำเลยในฐานะประธาน กขช.ได้มีคำสั่งกำชับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้ป้องกันการทุจริต และตรวจสอบกระบวนการจำนำข้าวให้โปร่งใสทุกขั้นตอน

เมื่อ ป.ป.ช.และ สตง.ส่งข้อท้วงติงก็ไม่ได้เพิกเฉยละเลย ได้มีมติ ครม.แต่งตั้ง “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” รองนายกฯ เป็นประธานตรวจสอบและป้องกันทุจริตโดยตรง

และยังได้มีมติ ครม.ปรับลดลงเงินจำนำข้าวจากตันละ 15,000 บาท เป็นตันละ 13,000 บาท ตามข้อแนะนำ

5,โครงการจำนำข้าวและการระบายข้าวมีคณะกรรมการรับผิดชอบ และมีรัฐมนตรีดูแลร่วมกันหลายกระทรวง

แต่ ป.ป.ช.กลับจงใจเอาผิดอดีตนายกรัฐมนตรีคนเดียว

นี่คือบางส่วนในคำแถลงปิดคดีด้วยวาจาที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ขอร้องวิงวอนให้ศาลรับฟัง

จะหักล้างข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช.ได้หรือไม่??

พรุ่งนี้ 25 สิงหาคม มีคำตอบ แน่นอน.

“แม่ลูกจันทร์”

ไม่มีความคิดเห็น: