PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

บทเรียน จากข่าว การตาย ณ เตรียมทหาร บทบาท ของ “สื่อ”

บทเรียน จากข่าว การตาย ณ เตรียมทหาร บทบาท ของ “สื่อ”


ไม่ว่าข่าวนักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิตอย่างมากด้วยเงื่อนงำ ไม่ว่าข่าวนายพลทหารนำพวกบุกเข้าไปเทกแอ๊กชั่นในหน่วยนาวิกโยธินแห่งหนึ่ง
ไม่ได้มีจุดเริ่มมาจากหน้า “หนังสือพิมพ์”
ทั้งไม่ได้มีจุดเริ่มมาจากการนำเสนอข่าวผ่านโทรทัศน์ ไม่ว่าอนาล็อก ไม่ว่าดิจิทัล และไม่ได้มีจุดเริ่มมาจากการนำเสนอข่าวผ่านวิทยุ
หากแต่จุดประกายผ่าน “ออนไลน์”
เริ่มต้นจากการตั้งข้อสงสัย นำไปสู่การแสดงความเห็น “แย้ง” ต่อรายงานกระแสหลักอันมาจากหน่วยราชการ
และที่สุดก็ปักใจ “ไม่เชื่อ”
เมื่อการนำเสนอผ่านสื่อ “ออนไลน์” ในหลายๆ ช่องทางได้รับความสนใจ มีการแชร์กระจายออกไปอย่างกว้างขวาง จึงเริ่มได้รับความสนใจจากหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และวิทยุ
กลายเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์
ในห้วง 2-3 ปีหลัง, เส้นทางของข่าวดำเนินไปในลักษณะของสะพานเชื่อมระหว่าง “สื่อใหม่” กับ “สื่อเก่า” อย่างมีลักษณะพิเศษ
เครื่องมืออย่างสำคัญ คือ สมาร์ทโฟน
พื้นฐานอย่างทรงความหมายก็คือ การจัดตั้งเว็บเพจผ่าน “เฟซบุ๊ก” อย่างมีลักษณะส่วนตัว แต่ก็มากด้วยเครือข่ายในลักษณะอันเป็น “ชุมชน”
“สมาร์ทโฟน” นั่นเองที่กลายเป็น “สถานี”
เป็นสถานีอันเสนอภาพ ข่าว อย่างรวดเร็ว ฉับไว ไม่ได้จำกัดแต่เพียงในประเทศ หากแต่ในขอบเขตทั่วโลก
เพียง “คลิก” เดียวก็เชื่อมต่อได้
สถานะแห่งการรายงานข่าวมิได้ผูกขาดอยู่แต่จากสำนักข่าวอันถือว่าเป็น “มืออาชีพ” ตรงกันข้าม ใคร ที่ไหนก็สามารถทำหน้าที่รายงานข่าวได้
นี่คือ “ฐาน” แห่งการแพร่กระจาย “ข่าวสาร”
รูปธรรมจากกรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนักเรียน“เตรียมทหาร” รูปธรรมจากกรณีนายพลทหารบุกเข้าไปยังหน่วยนาวิกโยธินของ “ทร.”
เป็นรูปธรรมล่าสุดของ “ข่าว”
พลันที่กรณีนี้ตกถึงมือ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ย่อมหมายความว่าข่าวได้กลายเป็นกระแสหลักแห่งความสนใจ
โดยมีฐาน “คนติดตาม” เรือนแสน เรือนล้าน
ผลก็คือ มีความจำเป็นที่หน่วยราชการซึ่งเกี่ยวข้องจะต้องมาทำความกระจ่าง หากเป็นนักเรียนเตรียมทหารก็ต้องกองบัญชาการกองทัพไทย
และหากเป็นหน่วยนาวิกโยธินก็ต้องกองทัพเรือ
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่สายพานแห่งข่าวเหล่านี้ไม่สามารถดำรงอยู่ในลักษณะด้านเดียวอีกต่อไปแล้ว ตรงกันข้าม หากดำเนินไปอย่างมีการปะทะ ขัดแย้ง
กว่าจะถึงขั้นสุดท้ายของ “ความจริง”
ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่มี ไม่ว่าจะมีสภาอันมาจากการเลือกของประชาชนหรือสภาแต่งตั้ง แต่วิถีของข่าวดำเนินไปเช่นนี้และมีบทบาทเด่นชัดยิ่งขึ้น
แนวโน้มที่เห็นก็คือ บทบาทของสื่อออนไลน์ บทบาทของโซเชียลมีเดีย
เริ่มรุกคืบและค่อยๆ เข้าไปยึดครองพื้นที่ของสื่อหนังสือพิมพ์ สื่อโทรทัศน์
อาจยังมิได้ครอบงำ อาจยังมิใช่ด้านหลัก
แต่ก็ส่อความเป็นไปได้ที่จะรุกคืบ แสดงบทบาทอย่างเป็นรูปธรรมและอยู่ในลักษณะอันเป็นฝ่ายกระทำมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
โดยสื่อหนังสือพิมพ์ สื่อโทรทัศน์กำลังถอยร่น

ไม่มีความคิดเห็น: