PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

‘ตัวเบา’เหนือคิวร้อนๆ

‘ตัวเบา’เหนือคิวร้อนๆ


ถ้าเปรียบเทียบกระถางอ่างบัวที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. สั่งเองให้ทีมงานจัดหามาปรับภูมิทัศน์หน้าตึกไทยคู่ฟ้าและตึกบัญชาการ ภายในทำเนียบฯ กว่า 10 ใบ
อาจเรียกเป็นของรักของหวงของทั่นผู้นำได้เหมือนกัน
แต่ต้องมาเสียหายเพราะอุบัติเหตุเล็กๆ เมื่อรถยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจภายนอกเข้ามาส่งเอกสาร ก่อนกลับถอยไปชนร่วงกระจายไป 1 ใบ
“นายกฯลุงตู่” อาจเฉยๆกับสิ่งของนอกกาย อย่างมากก็แค่เคือง และคงไม่มองไปถึงลางร้ายวันไหว้ตรุษจีน
ถึงสั่งติดโคมแดง 6 คู่ ป้องกันปิศาจร้ายรอบทำเนียบฯ ตามความเชื่อก็เถอะ
ผู้นำอำนาจพิเศษที่มักยกกรรมดีกรรมร้าย การปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาพูดเสมอ คงไม่หวั่นไหวอยู่แล้ว ถ้าไม่บังเอิญ มีการจับโยงไปถึงสถานะของรัฐบาล ในช่วงที่ถูกมองว่ากำลังระส่ำภายใน
แม้ว่าคนต้นเรื่อง “คุณหมอธี” นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ จะเข้าพบ “นายกฯลุงตู่” และขอโทษขอโพยที่เสียมารยาท ต่อหน้าผู้ที่พาดพิงอย่าง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เหตุผ่านมา 2–3 วันแล้ว
คิวหลุดกระแทกชิ่ง กระทบปมนาฬิกาหรูของรองนายกฯ น่าจะเคลียร์จบต่อหน้า
แต่ใครๆก็ยังมองไปลึกถึงสภาวะ “คาใจ”
และถ้าถึงขั้นหยิบยกรอยร้าวใน ครม.โยงไปถึงคิวอ่างบัวแตก ว่าเป็น “ลางร้าย”
ปมนี้แหละถ้าเอาไปถาม “บิ๊กตู่” น่าจะมีฉุนแน่
ในห้วงที่ “บิ๊กตู่” กำลังเพ่งสมาธิกับการทำงาน แต่ก็มีสารพัดเรื่องที่แหย่กวนใจ นอกจากปัญหาภายในรัฐบาล ยังมีเหตุขยับของอดีตผู้นำ พี่–น้อง ชินวัตร เคลื่อนฐานมาใกล้ประเทศไทย มีลูกข่ายขยับตามวงโคจร ล้อสถานการณ์ภายในที่เริ่มมีการก่อหวอดจุด “ม็อบ” ปลุกกระแสต้านเกมยืดโรดแม็ปเลือกตั้ง
ด้วยภาวะกดดัน ผู้นำเสี่ยง “ตบะแตก” ได้ทุกเมื่อ
แต่ทางกลับกัน ถ้ามองอีกมุม “บิ๊กตู่” ก็ไม่ใช่จะอยู่ในจุดโดนรุกไล่จนหลังพิงฝาอย่างที่ประเมิน เพราะเอาเข้าจริง ที่ดูสถานการณ์เสี่ยงจะไหลลามเข้าสู่วิกฤติ บางครั้งกลายเป็น “เพิ่มโอกาส”
เติมน้ำหนักดุลอำนาจของ “บิ๊กตู่” ได้เหมือนกัน
ทั้งซีนร้อนของ “หมอธี” หลุดคิวกระทบ “พี่ใหญ่” โยงปมนาฬิกาหรู จนตอนนี้ทำให้ “บิ๊กป้อม” ถูกโฟกัส
ทุกย่างก้าวจนชักกระดิกตัวลำบาก ยี่ห้อ “บังเกอร์ผู้นำ” ที่คอยปกป้อง รับหน้าแทนน้องรัก แต่ชักจะรับเละขึ้นทุกที
โดยมีแรงกระตุ้นจากเครือข่ายขั้วอำนาจเก่าแก่โบราณขยับเกมถี่ พุ่งเป้าที่ “ถล่มพี่–แยกน้อง”
ดุลน้ำหนัก “อำนาจคู่ คสช.” เลยผ่องมาที่ “บิ๊กตู่” มากขึ้น
ขณะที่แรงต้านภายนอก “นายใหญ่” และ “น้องสาว” กับปรากฏการณ์ผลุบโผล่โชว์ตัว ก็แค่รักษาฐานตรึงแต้ม ที่แสดงตัวแสดงตนก็แค่ขู่นิ่มๆเบรกเกมแรงชนักคดีคนตระกูลชินฯ
เปิดเกมหนักก็อาจเจอปฏิกิริยาสะท้อนกลับ ยิ่งสู้ยิ่งเจ็บ
เช่นเดียวกับแนวรบด้านมวลชน แค่เปิดหัวม็อบก็ยังเสี่ยงคิวแทรกจากศึกขั้วอำนาจ 3 ก๊ก ที่เริ่มแรงในทางลึก แต่เมื่อยังไม่มีสัญญาณเปลี่ยนแปลงใดๆ จึงยังไม่มีฝ่ายใดถึงขั้นเร่งโหมไฟ
เพราะหากสถานการณ์ไหลไปถึงขั้นชุลมุน นอกจากคอนโทรลเป้าหมายไม่ได้แล้ว ยังเพิ่มความชอบธรรมให้รัฐบาลท็อปบูตยืดเวลาอำนาจพิเศษ “ลากยาว”
ด้วยเหตุผลรองรับ คุมความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง
สรุปยิ่งมีสารพัดปมร้อน สถานการณ์บ้านเมืองไม่นิ่ง “บิ๊กตู่” ยิ่งใช้เคล็ดวิชาตัวเบา–ลอยตัว
รอลุ้นถือสิทธิ์ “ต่อตั๋ว” กันสบายเลย.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: