‘ลุงตู่’ ไม่ได้พูดเกินจริง
เนื้อเพลงที่น่าจะเข้ากับอารมณ์มั่นอกมั่นใจของ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ที่ออกลีลาตีกรรเชียงเบี่ยงตัว เล่นกับกระแสโจมตีเกมดูด ส.ส.ของพรรคทหาร
ไม่ปฏิเสธ แถมเบิ้ลกลับเป็นเชิงตอบรับ
ยืนยันพรรคที่มีข่าวจะสนับสนุนให้ตีตั๋วนายกฯต่อ ไม่ได้ไปเสนอผลประโยชน์ล่อใคร แต่งานนี้นั่งอยู่เฉยๆก็มีคนติดต่อขอพบหารือ ถือเป็นเรื่องธรรมดาในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง
และ พล.อ.ประยุทธ์ก็กั๊กไว้แค่ ทุกอย่างยังไม่ไปสู่ขั้นตอนอะไรสักอย่าง ยังไม่ชัดเจน
“ผมยังไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง”
ท่วงทำนองเดียวกับ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ที่พูดกับนักข่าวสั้นๆถึงข่าวการเตรียมการตั้งพรรคการเมืองเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์
“ผมจำได้ว่า ผมยังไม่ได้พูดอะไรมากเลย พูดแค่ประโยคสองประโยค ว่า ผมสนับสนุนท่านประยุทธ์ แล้วผมก็คิดว่าท่านเหมาะสม ถ้าท่านจะทำต่อนะ พอพูดแค่นั้นเอง พวกคุณโอเวอร์รีแอ็กเกินไปหรือไม่ ผมยังงงอยู่เลย”
“สมคิด” ก็ยังไม่ขยับอะไรเกินกว่าเส้นที่ขีดไว้ แค่พูดว่าหนุน “ลุงตู่” ตีตั๋วต่อเท่านั้น
มันคือความ “ชัดเจน” ที่แฝงอยู่ในความไม่ชัดเจน
ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์ยากๆแบบที่มวยเชิงสูงอย่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ต้องออกลีลาพลิ้วกับคำถามการทำงานการเมืองกับ พล.อ.ประยุทธ์ถ้าตีตั๋วต่อ ไม่ขอตอบเรื่องนี้ดีกว่า ถ้าบอกว่าไม่สนับสนุนจะกลายเป็นปรปักษ์ แต่ถ้าบอกสนับสนุนก็ต้องเข้ามาช่วยทำงาน
“เรื่องนี้ผมมีวิธีดูแลตัวเองอยู่แล้ว”
เอาเป็นว่า ตามแนวโน้มสถานการณ์ ณ จุดนี้ก็ยังเป็นแค่จังหวะเปิดไฟเขียวให้ป้อมค่ายเก่าปรับฐานสมาชิก เคลียร์คนย้ายเข้า ย้ายออก แสดงตัวแสดงตนใครอยู่ใครไป
แต่ปรากฏทั้งเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ต้องผวาอาการ “เลือดไหล”
แค่โดนเขย่าเบาๆ “นอตหลวม” ไปตามๆกัน
นั่นก็ไม่ต้องพูดถึงจังหวะสำคัญ ตามดีเดย์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แสดงความชัดเจนในการลงสนามการเมืองอย่างชัดเจนในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
การันตีพรรคที่จะเป็นฐานการเมือง โชว์สังกัดชัดๆ
คนการเมืองที่แทงกั๊กไม่รายงานตัวกับต้นสังกัด คงตัดสินใจขยับเขยื้อนกันอีกเยอะ
เพราะมีทางเลือกเพิ่มจากการเสี่ยงลุยสุดซอย ท้าเป็นท้าตายกับ “นายใหญ่” หรือรอตายซากอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของคนชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”
แทงหวย “ลุงตู่” น่าจะมีอนาคตกว่า
อย่างน้อยก็ได้ลุ้นเกมยาวๆ ไม่ใช่แค่เทอมสั้นๆ กลับไปตีกันแล้วโดนยึดสภา
และโดยสถานการณ์มาถึงวันนี้ ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่ไฟต์บังคับตามสูตรอำนาจเปลี่ยนผ่านที่ล็อกไว้ในบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น
ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ คือผู้ที่เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์
แต่จุดสำคัญมันคือความเป็นตัวตนของ “ลุงตู่”
ธรรมชาติ พล.อ.ประยุทธ์ที่กลายเป็นจุดขาย ฉายความเป็นนักการเมืองอาชีพเต็มตัวมากขึ้นทุกวัน
เอาแค่ขายออปชั่นความต่อเนื่องในการบริหารต่อจากที่วางฐานมา 4 ปี
ยี่ห้อ “นายกฯลุงตู่” ที่ทำให้ประเทศสงบ เอื้อต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ เปรียบเทียบกับการเสี่ยงให้นักการเมืองพาประเทศย้อนกลับไปตกเหววิกฤติความขัดแย้ง
แค่นี้ยังทำให้ “ลุงตู่” ออกตัวได้แรง แซงขึ้นอันดับหนึ่งตัวเต็งนายกฯทุกโพล
นี่ขนาดยังไม่ได้ “ปล่อยของ” นโยบายลดแลกแจกแถมที่โดนใจ
ประชารัฐดัดแปลงล้อประชานิยม ดึงแต้มประชาชนฐานราก
แน่นอนมันไม่ใช่ของยาก จากประสบการณ์ในอดีต มันก็อยู่ในวิสัยที่ยี่ห้อ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เคยทำสำเร็จอย่างงดงามมาแล้วในช่วงก่อกำเนิดพรรคไทยรักไทย
เห็นๆกันอยู่ สิ่งที่ “ลุงตู่” บอกไม่ได้ดูด แต่คนวิ่งเข้าหาเอง ไม่ได้เกินเลยความจริง
ตรงกันข้าม คนประชาธิปัตย์ คนเพื่อไทยที่ยังตั้งหน้าตั้งตาอยู่กับการผลิตวาทกรรมดูด ตีปี๊บตกเขียว
ลอยหน้าลอยตาด่า รถดูดฝุ่น รถดูดส้วม
วนอยู่กับการเมืองเน่าๆที่คุ้นชิน จมปลักเสียเอง.
ทีมข่าวการเมือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น