PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เลี่ยงเต้นเข้าล็อกป่วน

เลี่ยงเต้นเข้าล็อกป่วน



เหมือนจะเบื่อๆอยากๆ สำหรับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ที่ประกาศตัวไปแล้วว่าเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ ป้ายแดง
อาการไม่ค่อยอยากเอ่ยถึงปมร้อนการเมืองของ “บิ๊กตู่” ก็น่าจะพอเข้าใจได้ คงไม่อยากเสียสมาธิ ไม่วอกแวก กระทบคิวปั่นงานโค้งสุดท้าย อย่างที่โฆษกรัฐบาลเอ่ยอ้าง
ล่าสุดทั้งคิวของอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ แตกทัพ พาดพิงเผาค่ายเก่า “สมคบคิด” โค่นรัฐบาลขั้วนายใหญ่ หรือกระบวนการในการขอตัวอดีตนายกฯหญิงที่หนีคดีต่อประเทศอังกฤษ
ผู้นำโบ้ยตอบรายละเอียดทุกปม
แต่ทั้งนี้ไม่ต้องห่วง “บิ๊กตู่” จะส่งสัญญาณแฝงใดๆไปกระทบโรดแม็ปคืนอำนาจ
เพราะล่าสุดยืนยันอีกรอบ “อย่างไรปีหน้าต้องเลือกตั้งอยู่แล้ว”
ย้ำกำหนดการเข้าคูหากาคะแนน เป็นไปตามโปรแกรมเดิม
นั่นก็วิเคราะห์ได้ถึงทิศทางของอำนาจพิเศษ เคลื่อนไปตามจังหวะ ลงล็อกตามพิมพ์เขียวที่วางไว้ ทั้งการคุมโจทย์ความมั่นคง ดูแลความสงบเรียบร้อยหลังเข้ามาเบรกวิกฤติขัดแย้งในห้วงเปลี่ยนผ่าน
ปักหมุดเป้าหมาย สานต่อเก็บงานให้เรียบร้อย
บรรดาขุมข่ายการเมือง กองหนุนตีตั๋วต่อ แบ่งงานกันทำเข้าเป้า ทั้งกลุ่มสามมิตร แนวร่วมของพรรคพลังประชารัฐ คึกคักจนเริ่มล้น ค่ายรวมพลังประชาชาติไทย ซอยแต้มขั้วจอมดื้อประชาธิปัตย์ได้พอสมควร
แผนปั้น “บิ๊กตู่” เข้าสู่ระบบผู้นำหลังเลือกตั้งแนวโน้มไปโลด
ในจังหวะที่สูตรกันอำนาจพิเศษสีเขียวลายพรางออกนอกวงนั้น ดูตามรูปเกมแล้ว เพื่อไทยบวกประชาธิปัตย์ “ต้านท็อปบูต” ยังเป็นไปได้ยาก เมื่อขั้วคู่กรณีเก่ายังค้างคาปมขัดแย้ง
ยังอยู่ในโหมด “น้ำผสมน้ำมัน”
มองข้ามช็อตให้ทั่นผู้นำ ก็น่าจะเหลืองานยากอยู่ 2 ปม ประเมินทางไกลก่อนก็ต้องบอกว่า “บิ๊กตู่” อาจจะต้องศึกษาบทเรียนจากอดีตในสูตรการเป็นผู้นำรัฐบาลผสม รวมพลคนการเมืองเขี้ยวงาโง้ง ดีกรีต่อรองสูง
ถึงแม้ในเวลานั้น จะมีน้องๆในกองทัพแบ็กอัพ พลังสัญญาณพิเศษหนุนหลัง ก็เบาใจแค่ระดับหนึ่ง
อย่างไร “บิ๊กตู่” ก็ต้องศึกษาตำรับผู้นำรัฐบาลผสมในอดีต ทั้งทฤษฎีฤาษีเลี้ยงลิง-โมเดลเตมีย์ใบ้ คุมเกมป่วน
ส่วนปมปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องเคลียร์ให้จบงานกันก่อน กับโจทย์แก้เศรษฐกิจฐานราก เป้าหมายหลักหนุนแผนตีตั๋วต่อ ที่เวลานี้จึงเห็นชัดว่า สารพัดมาตรการโครงการอัดฉีดทยอยปล่อยออกมา
ทั้งโครงการจำนำยุ้งฉางอุ้มราคาข้าว ถัดจากงบฯลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง มอเตอร์เวย์ ถนนหนทางใหม่ๆ ฯลฯ
และที่ยิงตรงสู่คนจน สารพัดแบรนด์ประชารัฐ ทั้งเพิ่มงบฯบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เปิดแอปพลิเคชัน “ถุงเงินประชารัฐ” ยิงเข้าโค้ดโทรศัพท์มือถือ ซื้อของร้านโชห่วย ร้านเล็กร้านย่อย กระทั่งแผงลอย แบกะดิน
ทลายท่อสู่ฐานรากอุดตัน ล้างข้อหาเอื้อร้านใหญ่นายทุน
ไม่เท่านั้น เร็วๆนี้กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.เพิ่มสิทธิผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรคฟรี ตั้งแต่เดือน ก.ย.นี้ และกำลังศึกษาแนวทางการคืนแวตให้ผู้มีรายได้น้อย
ผู้มีรายได้น้อย 11 ล้านรายเป็นเป้าหมายล้างจน อัดฉีดฟื้นฐานราก โกยแต้ม
เรียกว่าถึงจุดที่ “บิ๊กตู่” เริ่มวางใจสเต็ปการเมือง พุ่งเป้าไปที่ปั่นงาน ที่สำคัญไม่อยากเสียสมาธิในห้วงที่ขั้วนายใหญ่เริ่มขยับเกม
เพราะสังเกตได้ ทั้งคิวอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์แปรพักตร์ไปซบค่ายนายใหญ่ โยนบอมบ์ใส่บ้านเก่าลากลามกองทัพและรัฐบาล คสช. และประเด็นการขอตัว “ยิ่งลักษณ์” โยงเครือข่ายขั้วนายใหญ่เปิดเกมเอง
จึงถึงจังหวะที่ “บิ๊กตู่” ต้องนิ่งดูทิศทางลม ไม่เต้นจนเข้าล็อก ในอีกทางสู้ของ “ทักษิณ”
ไม่ให้พลาดเป็นแนวร่วมมุมกลับ ช่วยโหมกระแสป่วนเสียเอง.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: