PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2561

ไฟต์บังคับตามโพล?

ไฟต์บังคับตามโพล?



สัญญาณควัน ศึกชิงแม่ทัพประชาธิปัตย์เริ่มอย่างไม่เป็นทางการ
ตามจังหวะการเปิดตัวของ “เสี่ยจ้อน” นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่ยอมรับเองเลยว่า มีคนในพรรคเชียร์ให้ลงแข่งชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค
เปิดหน้าท้าชิงตำแหน่งกันแบบไม่ต้องกั๊ก
เพิ่มเข้ามาในบัญชีแคนดิเดตที่มีการเปิดโพยมาก่อน ทั้ง “อู๊ดด้า” นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม มือปราบจำนำข้าว รวมทั้งชื่อขลังๆอย่าง “ปรมาจารย์ชวน หลีกภัย”
อย่างไรก็ตาม โฟกัสจากหน้าตาตัวละครที่เปิดออกมาชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค ดูท่าว่าประชาธิปัตย์ก็คงไม่ได้หวังถึงโอกาสชิงเป็นแกนนำจัดรัฐบาล
โดยสถานการณ์ขอแค่เกาะขบวน ไม่ให้หลุดวงดีลอำนาจช่วงเปลี่ยนผ่านเท่านั้น
ซึ่งนั่นก็โยงกันได้กับตัวเลขล่าสุด “สวนดุสิตโพล” เปิดโพยว่าที่นายกรัฐมนตรี
“นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. นำโด่งเป็นอันดับหนึ่ง
ตามด้วย “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อันดับสอง ส่วนอันดับสาม “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่เมืองกรุงพรรคเพื่อไทย อันดับสี่ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และอันดับห้า อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร
วัดตามตัวเลขก็ล้อตามผลของนิด้าโพลที่สำรวจมาแล้ว 2–3 รอบ คำตอบของประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังเทคะแนนให้ “นายกฯลุงตู่” ยึดแป้นเป็นอันดับหนึ่งเหมือนกัน
อันดับสอง “เจ๊หน่อย” อันดับสาม “เดอะมาร์ค” ตามมาด้วย “ธนาธร”
มันชัดเจนเลยว่า “นิด้า–สวนดุสิต” ทั้งสองโพลผลออกมาชื่อซ้ำๆกัน เพียงแค่สลับอันดับตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่เข้าใจได้ ในจังหวะที่ “เจ๊หน่อย” มีโอกาสหลุดคิวหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เลยถูก “เดอะมาร์ค” แซงขึ้นมาอันดับสอง เพราะยังมองหาคนมาเบียดแทนหัวหน้าประชาธิปัตย์ไม่ได้
แต่สังเกตหรือไม่ ชื่อที่หายไปเลย ไม่ติดโพยทั้งสองโพล
นั่นคือคิวของ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ทั้งๆที่เคยขึ้นแท่นเป็น “ตัวแปรสำคัญ” ที่หลายสำนักฟันธง ตามสถานการณ์ที่รู้กันทั้งวงนอกวงใน เจ้าตัวแสดงความพร้อมเป็นแคนดิเดตชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
แล้วถึงตรงนี้ชื่อ “อนุทิน” หายไป ไม่ติดอันดับได้ลุ้นเลย
เรื่องของเรื่อง นี่หรือเปล่าคือคำตอบ กับอาการเฮี้ยวๆของ “เสี่ยหนู” ที่อยู่ๆก็เปิดเกมห้าว
ท้ารบทีมเศรษฐกิจรัฐบาล “ลุงตู่” แบบไม่ไว้ไมตรี
มุ่งเป้าเขย่าเมกะโปรเจกต์ “เรือธง” ยุให้ล้มกระดานโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี)
เริ่มตั้งแต่มุกเบิ้ลบลัฟให้เอาเงินไปจ่ายให้คนรากหญ้าพัฒนาระบบการศึกษาก่อนดีกว่า หนักเข้าก็ตอกลิ่มภาคนิยม ฝนตกไม่ทั่วฟ้า โวยอีอีซีเป็นการพัฒนาให้ภาคตะวันออกเจริญอยู่ภาคเดียว แล้วภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ไม่ต้องเจริญเหรอ
ตั้งหน้าตั้งตาเตะตัดขา ดิสเครดิตกันแบบเอาจริงเอาจัง
ตามสถานการณ์ลากไปปั่นกระแสกันในโซเชียลมีเดียให้กองเชียร์ตามแห่ และยังได้แนวร่วมเพจเครือข่าย “ทักษิณ” ช่วยตีปี๊บขย่มทีมเศรษฐกิจรัฐบาล “ลุงตู่”
ประกาศสงคราม ยกระดับเป็น “ศัตรูทางการเมือง”
ในสถานการณ์ที่อีกฝั่งก็โต้กลับแบบไม่ไว้ไมตรี ทีมโซเชียลฯสายเชียร์ “นายกฯลุงตู่” โชว์บทความสื่อยักษ์ระดับโลกอย่างสำนักข่าว “บลูมเบิร์ก” วิเคราะห์โครงการอีอีซี คือผลงานโบแดงของรัฐบาล “ลุงตู่” ในการเดินหน้าแผนพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว รองรับโลกอนาคต
เบิ้ลกลับข้อมูลวิจารณ์ของ “เสี่ยหนู” ก็แค่ “วิชันแป๊ะขายขวด”
ให้ราคาแค่ผู้รับเหมาถนัดเซ็งลี้ทางการเมือง
ตามท้องเรื่อง อ่านเกมเขี้ยวของ “เสี่ยหนู” เดินแต้ม “คั่วไพ่ 2 หน้า” ด้านหนึ่งก็เบิ้ลใส่พลังประชารัฐ เบียดแต้มไว้ต่อรองดีลอำนาจทีม “ลุงตู่” อีกทางก็เผื่อสวิงขั้วไปแจมกับฝั่ง “นายใหญ่” ได้ทุกเมื่อ
แต่ก่อนอื่นใด มันคือไฟต์บังคับ “เสี่ยหนู” ต้องเร่งปั่นเรตติ้งตัวเอง
วิธีเร็วสุดก็คือท้าบู๊กับทีม “ลุงตู่” กระโดดชกข้ามรุ่นกับมวยใหญ่ระดับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจ อาศัยทางลัดปั่นราคา “อัปเกรด” ขึ้นมาอยู่ในบัญชีผู้เล่นแถวหน้า
เพราะในจังหวะที่ “นายใหญ่” ยังควานหาตัว “นอมินีรุ่น 3” ไม่ได้ ประชาธิปัตย์กำลังโละ “อภิสิทธิ์” แท้ๆ
แต่ “อนุทิน” ชื่อหายไปเฉยเลย.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: