PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

สูตรนี้ลงตัวที่สุด

สัญญาณเลือกตั้ง (ถ้ามี) ชัดเจนโดยไม่ต้องถามไถ่กันให้เจ็บคออีกแล้ว ทุกอย่างดูเหมือนจะพร้อมเข้าสู่เวที แกะรอยว่าบุคคลไหนจะถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯปริศนา พปชร.-ปชป. ตั้งรัฐบาล

ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้รับลมหนาวคลายร้อนแรงการเมือง เป็นอีกมิติหนึ่งของสภาพสังคมไทย

หลังกระทรวงศึกษาธิการประกาศเลื่อนสอบ “GAT-PAT” จากปฏิทินที่กำหนดระหว่างวันที่ 23-26 ก.พ. ปี 62 ซึ่งคาบเกี่ยวกับวันเลือกตั้ง 24 ก.พ. ปี 62

มาเป็นวันที่ 16-19 ก.พ. ปี 62 ไม่มีปัญหาการไปใช้สิทธิของเด็กนักเรียน

อันเป็นการส่งสัญญาณว่า 24 ก.พ.62 ได้เลือกตั้งแน่

อีกจุดหนึ่งคือการที่ กกต.นัดหมายพรรคการเมืองส่งตัวแทนมาฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับการส่งผู้สมัคร จัดทำไพรมารีโหวต การหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์กำหนด 22 พ.ย.61

รอประกาศเขตเลือกตั้งทั่วประเทศก็น่าจะลงตัว

ที่น่าจะเป็นการพบกันนัดสุดท้ายจากนั้นก็ไปสู้กันในสนามเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง นักการเมืองล้วนต้องเตรียมพร้อมกันให้เรียบร้อย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ คสช. จะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองมาพบปะชี้แจงรายละเอียดราวปลายเดือน พ.ย.–ต้นเดือน ธ.ค.

เท่ากับเป็นการ “ปลดล็อก” การเมืองให้ทุกพรรคโชว์นโยบายได้ทันที

และคาดว่า 25 ธ.ค.61 จะเสนอ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ส. แต่จะมีผลวันที่ 4 ม.ค.62 นั่นแหละจะได้รู้กันว่ามีพรรคการเมืองทั้งหมดกี่พรรค นักการเมืองกี่คนอยู่ในพื้นที่เขตไหน จังหวัดไหน

ที่สำคัญจะได้รู้ว่าพรรคการเมืองไหนจะส่งชื่อใครเพื่อเข้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้สิทธิสามารถ

เลือกนายกฯด้วยมือของตัวเองอีกด้วย

ว่าไปแล้วรายชื่อที่แต่ละพรรคจะเสนอให้รัฐสภาลงมติเพื่อเลือกให้เป็นนายก-รัฐมนตรีนั้นว่าไปแล้วน่าจะมี 2 พรรคได้รับความสนใจ

คือเพื่อไทย เพราะเป็นคู่แข่งสำคัญ

อีกพรรคคือ “พลังประชารัฐ” ซึ่งเป็น กองหนุน “นายกฯลุงตู่”

เพราะประชาธิปัตย์นั้นยังต้องรอให้การเลือกหัวหน้าพรรคก่อนว่าจะเป็นใคร แต่เท่าที่ประเมินเสียงแล้วน่าจะเป็น “คนเก่า” เหมือนเดิม ถ้าเป็นเช่นนั้นก็จะถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯไม่มีปัญหา

แต่ 2 พรรคที่ว่ามานั้นยังไม่มีอะไรแน่นอน แต่ก็พอจะเห็นหน้าเห็นตาได้ก่อนหลังการประกาศวันเลือกตั้ง

ยังไงเสียเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ไปต่ออย่างแน่นอนและจะมีชื่อในฐานะตัวแทนพรรคให้เป็นนายกรัฐมนตรี

ปัญหาว่าเมื่อประกาศชัดเจนแล้วแน่นอนว่ายังมีอำนาจตาม ม.44 เพราะเป็นหัวหน้า คสช.อีกตำแหน่งหนึ่ง

แต่หากยังเป็นนายกฯอยู่จะเหมาะหรือไม่?

คงเป็นคำถามไม่ต่างไปจาก 4 รัฐมนตรี ที่เข้าไปรับตำแหน่งในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถูกเรียกร้องให้ “ลาออก” ไม่ต้องการให้สวมหมวก 2 ใบในเวลาเดียวกัน

ก็มาถึง พล.อ.ประยุทธ์อีกคนรวมเป็น 5 คน

ล่าสุดมีข่าวว่าทั้ง 5 คนกำลังจะตัดสินใจ “ลาออก” พร้อมๆกันเลยทีเดียว เพื่อไม่ให้รัฐบาลถูกโจมตีจนเกิดปัญหาได้

เวลาที่เหลือ “บิ๊กตู่” คงเดินหน้าหาเสียงได้อย่างเต็มที่ไม่ต้องหลบเลี่ยงไปมาจนไม่สามารถหาเสียงได้เต็มพิกัด

หลังเลือกตั้งผลคะแนนทุกคะแนนไม่ว่าพรรคไหนก็ตามล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้นอยู่ที่ว่าเมื่อรวบรวมกันแล้วได้เสียงมากที่สุดหรือไม่?

ถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องการเป็นรัฐบาลหรือไม่?

หากร่วมรัฐบาลคนเป็นนายกฯก็ต้องหน้าเก่า!!!

“ลิขิต จงสกุล”

ไม่มีความคิดเห็น: