PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เอากันอีกแล้วหรือ

“ปลดล็อก” หายใจหายคอสะดวกขึ้นก่อน เลือกตั้ง จากนี้ไปคงปล่อยอาวุธเข้าใส่ กันดุเดือดแน่ ฟัง เสียงชาวบ้านบ่นเรื่อง “รัฐธรรมนูญ” ที่จะแก้ไขกันว่าท่าจะไปสู่ความไม่สงบกันอีกแล้ว

ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้เป็นไปอย่างที่มีการคาดการณ์กันนั่น แหละ...การเลือกตั้งเพื่อขับเคลื่อนประเทศ 24 ก.พ. 62

เป็นคู่ชกที่เหมาะสม อึดพร้อมอัดด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย

“ทักษิณ เจ้าเก่า” กับ “ลุงตู่ เจ้าเก่าในขวดใหม่”

ด้วยเงื่อนไขและปัจจัยของแต่ละฝ่ายจึงตอกยํ้าว่าไม่มีใครยอมแพ้ใคร ไม่แพ้ก็ต้องชนะ ยากที่จะออกเจ๊า...

สารพัดวิธีการ ออกอาวุธเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายจึงถูกนำมาใช้

วันนี้ถือว่าแต่ละพรรคต่างก็มีความพร้อมที่จะขึ้นเวที เนื่องจากกระบวนการนำไปสู่การเลือกตั้งเกือบจะครบกระบวนความแล้ว

การ “ปลดล็อก” ถือว่าเป็นการเปิดช่องที่จะหาเสียงได้อย่างเต็มที่

นอกจากการประกาศนโยบายที่จะบอกทิศทาง หากได้เข้ามาเป็นรัฐบาล ซึ่งก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งในทางการเมือง

นักการเมืองที่ดีต้องยึด “นโยบาย” เป็นเข็มมุ่งสำคัญ

เพราะนั่นคือหน้าที่ ภารกิจในฐานะตัวแทนประชาชน

ยังติดแหง็กอยู่กับ “กับดัก” ของตัวเองก็ไม่ใช่ใครที่ไหน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ซึ่งยังไม่ยอมบอกว่าจะเข้าไปร่วมงานกับพรรคไหน ในฐานะที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ

ล่าสุดบอกว่าเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว พร้อมที่จะ “พลีชีพ” เพื่องานนี้ พูดง่ายๆว่าไม่มีนัยอะไรพิเศษ

เพียงแต่จะบอกว่าเอาล่ะนะ...มาไม้ไหนไปไม้นั้น

มันถึงขั้นนี้ก็ประกาศมันให้ชัดเจนไปเลยไม่ดีกว่าหรือ มาเก็บงำเอาไว้ทำไมให้ฝ่ายตรงข้ามเล่นงานอยู่ทุกวัน

แม้แต่ 4 รัฐมนตรีมันมีอะไรนักหนาจึงไม่ยอมลาออก หากว่าตอนที่ไปอยู่พลังประชารัฐยืนยันว่าไม่ออกก็ไม่ต้องมาเจอปังตอทวงสปิริตอยู่ตลอด

หรือเพื่อจะได้ฝึกงานก่อนเป็นนักการเมืองเต็มตัว

แต่เกรงว่าจะช้ำไปเสียก่อน!!!

ขนาดแค่โหมโรงอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จากเพื่อไทยเท่านั้นแหละแทงเข้าไปลึกในแบบฉบับ

“มือพิฆาต ศิษย์ทักษิณ”

ว่าไปด้วย 300 เสียง ไม่เอาพรรคการเมืองบางพรรคเข้ามาอยู่ในกลุ่มประชาธิปไตย มีการจองเก้าอี้ 3 รัฐมนตรีกระทรวงเกรดเอเอาไว้แล้ว

สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ-สุชาติ ตันเจริญ โดนเข้าไปเต็มใบ

ก็อย่างที่รู้กัน “ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่” ต่างรู้จุดอ่อน จุดแข็ง เป้า จุดอ่อน จุดแข็งอยู่ตรงไหน หมัดเดียวไม่มีพลาด

อันนี้ก็เป็นเพียงสีสันการเมืองเท่านั้น

แต่ประเด็นใหญ่ที่น่าจะพูดได้ว่าเป็นการบ้านข้อใหญ่ของการเมืองไทยซึ่งเริ่มที่การจุดพลุกันอย่างเป็นขบวน

การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่หลายพรรคตั้งเป็นประเด็นเพื่อใช้เป็นกลยุทธ์เพื่อการต่อสู้ทางการเมือง แม้แต่ประชาธิปัตย์ก็เอาด้วยเพียงแต่แทงกั๊กเอาไว้หน่อย

“เพื่อไทย” นั้นเจ้าของพรรคส่งสัญญาณไฟเขียวให้เปิดฉากด้วยประเด็นนี้และน่าจะขยายผลไปสู่ประเด็นเอาชนะกันเลยทีเดียว

เพราะประเด็นที่ขย่มกันมาก่อนคือประชาธิปไตยหรือเผด็จการ ดูท่าว่าจะไม่ค่อยลื่นไหลเท่าใด เนื่องจาก “กินไม่ลง” เนื่องจากคู่ต่อสู้ยังมีแรงหนุนหนาแน่นอยู่

การหยิบประเด็นนี้ขึ้นมาเล่นคงพอจะมองเห็นแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น!!!

“ลิขิต จงสกุล”

ไม่มีความคิดเห็น: