PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2562

เลื่อนเลือกตั้ง = ล้มละลายด้านความเชื่อมั่นประเทศ หากไม่สมเหตุ สมผล



เลื่อนเลือกตั้ง = ล้มละลายด้านความเชื่อมั่นประเทศ หากไม่สมเหตุ สมผล
มีสื่อมวลชนสอบถามประเด็นว่าด้วยข่าวการเลื่อนวันเลือกตั้ง ดังนี้
ถาม มีความเห็นอย่างไร หาก กกต.และรัฐบาลจะเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปจาก 24 ก.พ.62
ตอบ ในรอบ 4 ปี 7 เดือน รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง
จนความเชื่อมั่นด้านการเมือง การปกครอง แทบไม่เหลือ
การจะเลื่อนวันเลือกตั้งอีกในครั้งนี้หลังจากเพิ่งปลดล็อคทางการเมืองให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ จึงเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงกับผลกระทบที่จะมีต่อความเชื่อมั่นประเทศ
ผมพยายามสดับตรับฟังเหตุผลอย่างรอบด้านก่อน ดังนั้น เพื่อความรอบคอบ จึงยังไม่ได้แสดงความเห็นอะไรต่อสาธารณะต่อประเด็นดังกล่าว
แต่ก่อนหน้านั้น ได้เพียงข่าวลือมาสักประมาณ 1 เดือน ว่าเลื่อนวันเลือกตั้งแน่ ซึ่งผมไม่เชื่อเลย เพราะไม่สมเหตุ สมผล ข่าวที่ว่านั้น คือ
1. จะมีพลังดูดอีกรอบ เพราะที่ดูดไป ยังไม่มั่นใจว่าเมื่อรวมกับ 250 ส.ว. แล้วจะได้เสียงเกินครึ่ง คือ 376 เสียง หรือไม่
2. โหรประจำตัวท้วงว่า หากเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.62 แพ้กระจุยแน่ เพราะเป็นวันที่ไม่ถูกโฉลก
ทั้งสองเหตุผลในการเลื่อนดังกล่าวนั้น ผมไม่เชื่อเลย เพราะไม่สมเหตุ สมผล อย่างไรก็ตาม ข่าวลือบางครั้งก็กลายเป็นข่าวจริง จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า หากมีการเลื่อนวันเลือกตั้ง จะมีการดูดอีกล็อต หรือไม่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงผู้สมัครรับเลือกตั้งไปจากเดิม หรือไม่ ส่วนเรื่องโหร เป็นความเชื่อส่วนตัวและไม่มีทางรู้ว่าทำนายตามข่าวลือ หรือไม่ จึงไม่ขอวิจารณ์
- ในความเห็นส่วนตัว หากจะมีการเลื่อนวันเลือกตั้งตามข่าว นั้น ขอฝากข้อสังเกตไปยัง กกต. และรัฐบาล ให้พิจารณาให้รอบคอบที่สุดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ดังนี้
1. ให้คำนึงถึงอารมณ์ประชาชนที่กำลังลำบากในปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง
รัฐบาลนี้อ้างว่า ขอเวลาไม่นาน จะคืนความสุขให้ประชาชน จะปฏิรูปประเทศ จะ... ฯลฯ แต่ใช้เวลาบริหารประเทศถึง 4 ปี 7 เดือน
ผลของการบริหารประเทศในเวลาที่ผ่านมาดังกล่าว ชาวบ้านลำบาก ยากจน โดยประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง มากที่สุด ทั้งนี้ ตรวจสอบได้ว่า มีคนจนที่มาลงทะเบียนถึง 14.7 ล้านคน และจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ
ขณะนี้ประชาชนอยากออกจากปัญหาโดยเร็ว ทางออกที่ประชาชนมองเห็น คือ การเลือกตั้งเพื่อให้ได้รัฐบาลจากมือประชาชน
2. ให้คำนึงถึงอารมณ์ประชาชนที่กำลังสนใจการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
หลังจาก คสช.มีคำสั่งปลดล็อคทางการเมือง พรรคการเมืองทุกพรรคก็เริ่มทำกิจกรรมทางการเมือง มีการเปิดตัวผู้สมัคร เปิดนโยบาย
ออกพบปะปราศรัยกับประชาชนเพื่อรับทราบปัญหา ฯลฯ กล่าวได้ว่าเข้าโหมดเลือกตั้งที่ทั้งประชาชนและพรรคการเมืองใจจดจ่อกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.62
แต่ จู่ ๆ ก็มีข่าวจะเลื่อนวันเลือกตั้ง เปรียบเสมือนรถกำลังวิ่ง เริ่มเร่งความเร็วขึ้น แต่ต้องเหยียบเบรคกระทันหัน หัวทิ่มกันเป็นแถว
ดังนั้น ผู้เกี่ยวข้อง คือ กกต.และรัฐบาล ควรชี้แจงเหตุผลหากจะมีการเลื่อนวันเลือกตั้งให้ชัดเจนถึง
ผลดี ผลเสีย ว่าจะเลื่อนวันเลือกตั้งหรือไม่ อย่างไร
3. ให้คำนึงถึงอารมณ์ประชาชนที่รัฐบาลเลื่อนการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง
หากการเลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของรัฐบาลนี้ โดยมีเหตุผลที่เชื่อถือได้ ประชาชนทั่วไปคงไม่รู้สึกอะไรมากนัก
แต่ในรอบ 4 ปี 7 เดือน รัฐบาลนี้ได้เลื่อนการเลือกตั้งมาแล้วถึง 4 ครั้ง และแต่ละครั้งก็ไปรับปากกับผู้นำระดับโลกมาแล้วทั้งสิ้น
ดังนั้น เมื่อมีข่าวจะเลื่อนการเลือกตั้งอีก จึงขออย่าไปต่อว่าประชาชนที่จะมีเสียงเซ็งแซ่ตามมาว่า "เลื่อนอีกแล้วหรือ" ฯลฯ ควรเข้าใจประชาชนว่าเขาเบื่อโรคเลื่อน
นายชวลิต ฯ กล่าวในที่สุดว่า การเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ สิ่งสำคัญสูงสุดที่ผมอยากให้ กกต.และรัฐบาลคำนึงถึง คือ ความเชื่อมั่นประเทศในสายตาประชาคมโลก อย่าให้ความเชื่อมั่นล้มละลาย ล้มแล้ว กู้ลำบาก ดังนั้น เหตุผลในการเลื่อน หรือไม่เลื่อน ต้องเป็นเหตุเป็นผล ที่สมเหตุ สมผล หากเป็นเหตุผลที่ละเอียดอ่อน ควรไตร่ตรองและปรึกษาให้รอบด้านก่อนจะให้ข่าว มิเช่นนั้นจะก่อให้เกิดผลเสีย มากกว่าผลดี
ขอให้กำลังใจ กกต.ครับ
หากยึดหลักความยุติธรรมบนผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน สามารถพิชิตปัญหาทุกปัญหาลงได้

ไม่มีความคิดเห็น: