PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

แค่ “ประยุทธ์” กับ “ทักษิณ”

วิบากกรรม” ที่ตามติดเป็นเงาตามตัว

ล่าสุดศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาจำคุก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสุริยะใส กตะศิลา 6 แกนนําม็อบพันธมิตรฯ เป็นเวลา 8 เดือน ไม่รอลงอาญา

ในคดีนำม็อบบุกยึดทำเนียบรัฐบาล ขับไล่นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ เมื่อปี 2551

เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวส่งเข้าเรือนจำ สิ้นอิสรภาพทันที

นี่คือผลแห่งการกระทำ เกมช่วงชิงเกมอำนาจทางการเมืองที่ตามมาในเวลาไม่ช้าก็เร็ว บทพิสูจน์ประเทศไทยไม่มีคำว่า “ม็อบมีเส้น” หรือ “ม็อบไม่มีเส้น”

ชัดเจน “ม็อบ” ไม่มีสิทธิอยู่เหนือกฎหมาย

ใครคิดจะปลุกสงครามประชาชน ใช้เกมมวลชนเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

ไม่มีใครจะรอดตัวไปแบบฟรีๆ

ตัดฉากกลับมาที่การเมืองร้อนๆกำลังระทึกอกระทึกใจ ตามท้องเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องชงให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ จาก “เซอร์ไพรส์ใหญ่” ส่ง “แคนดิเดตนายกฯ” ในบัญชีพรรค เข้าข่ายผิดกฎหมายปมอ้างสถาบันเพื่อผลในการเลือกตั้ง

กระทำการเรื่อง “มิบังควรอย่างยิ่ง”

ตามรูปการณ์ไม่ใช่แค่ยุบพรรค แต่ต้องลุ้นถึงขั้น “ใบดำ” ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต

โทษประหารทางการเมือง โฟกัสไปที่ 14 กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ทายาทนามสกุลดังๆ ลูกหลานตระกูล “ชินวัตร–ติยะไพรัช–ณ ระนอง” อีกส่วนก็มืองานสำคัญของ “นายใหญ่” สายตรง “น้องปู” อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้นกล้าของระบอบ “ทักษิณ” ส่อแท้งตั้งแต่ยังไม่ได้แจ้งเกิด

ที่แน่ๆกระแสข้ามช็อต สถานการณ์ฝุ่นฟุ้งกระจายจากการวิเคราะห์ของนักวิชาการ นักวิชาเกิน ผู้สันทัดการเมือง เดาทิศทางล่วงหน้า อาฟเตอร์ช็อกจากการยุบพรรคไทยรักษาชาติ

แต่โอกาสที่จะเป็นไปได้มากสุด มีน้ำหนักมากสุด น่าจะเป็นมุมของนายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ทีมกฎหมายสาย “ซือแป๋” นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่ประเมินแนวโน้มสถานการณ์พรรคสาขารองของ “นายใหญ่” ล่มก่อนเลือกตั้ง

พรรคเครือข่ายทั้งหลายก็รองรับคะแนนเสียงจากพรรคไทยรักษาชาติไป ไม่มีแรงกระเพื่อมอะไร

เว้นแต่ถ้ายุบ 3 พรรคอาจเกิดแรงกระเพื่อม เพราะคะแนนไม่มีที่ไป

ตามเหตุที่พรรคไทยรักษาชาติ เชื่อมโยงอะไรกับใครบ้าง การส่งผู้สมัครมีความเชื่อมโยงกันหมดกับพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ ต้องการเอาคะแนนเสียงมาเชื่อมโยงกัน มีการเกลี่ยผู้สมัครในการลงแต่ละเขต ซึ่งมันก็เป็นไปได้ แล้วแต่ว่าจะขยายผลไปถึงไหนจะมีหลักฐานมากแค่ไหน

มาตรา 92 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ระบุไว้เลยว่า “มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า”

สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น

นี่แหละที่มันล้อกับอาการหายใจไม่ทั่วท้องของลูกข่ายยี่ห้อ “ทักษิณ”

ส่อโดนกิน 3 ต่อเข้าฮอร์ส แพ้ตั้งแต่ต้นกระดาน

เรื่องของเรื่อง ถ้าพรรคไทยรักษาชาติโดนยุบ คะแนนก็จะเทไป

ที่พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ เครือข่ายของ “ทักษิณ” หรือถ้าพรรคสาขาเครือข่าย “ทักษิณ” พังพาบหมด ก็ยังมีแนวร่วมนอกบริษัทจำกัดอย่างพรรคประชาชาติของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา พรรคเสรีรวมไทยของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส

กองเชียร์ “ทักษิณ” แบบ “เข้าเส้น” ไม่เทแต้มให้ฝั่งตรงข้ามแน่

แต่จุดสำคัญมันอยู่ที่คะแนนคนกลางๆส่วนใหญ่ “พลังเงียบ” ยังไม่ตัดสินใจ

โดยเฉพาะอารมณ์ของพวกไม่เอา “ทักษิณ” แต่เซ็งเผด็จการทหาร เพราะอาการเบื่อ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ หัวหน้า คสช. ที่ลากยาวมา 5 ปี

ตามรูปการณ์มองตื้นๆ แต้มน่าจะไหลไปที่ยี่ห้อ “อนาคตใหม่” ในจังหวะที่ “ไพร่หมื่นล้าน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กำลังปั่นภาพ “ทางเลือกใหม่” ได้วูบวาบ

แต่ก็อีกนั่นแหละ ยี่ห้ออนาคตใหม่ที่แฝงอยู่กับทีมงานกลุ่ม “นิติราษฎร์” ยังอยู่ในเงื่อนไขต้องเผชิญแรงเสียดทานปมสถาบัน สังเกตได้ในปรากฏการณ์แบบที่ “เสี่ยธนาธร” กำลังฮอตกับกระแส “ฟ้ารักพ่อ” ขวัญใจโหวตเตอร์รุ่นใหม่ ก็เจอย้อนเกล็ดโยงกับปม “ฟ้าเดียวกัน” แบบทันควัน

พันธนาการ “ธนาธร” กับอดีตโต้โผใหญ่นิตยสารเนื้อหาหมิ่นเหม่

ท่ามกลางเงื่อนไขสถานการณ์อ่อนไหว เชื้อชนวน “ระเบิด” ลากจากปรากฏการณ์ “แคนดิเดตนายกฯ” พรรคไทยรักษาชาติ ที่สะท้อนเกมล้มเดิมพันอำนาจประเทศไทย

“นายใหญ่” เล่นใหญ่ ยกระดับเกมรบแบบ “ไร้ขอบเขต”

คนเดียวที่จะเอา “ทักษิณ” อยู่ ก็มีแค่คนชื่อ “ประยุทธ์” เท่านั้น.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: