PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2562

ถ่ายแต้มไปที่ใคร

ยุบพรรคไทยรักษาชาติ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค 10 ปี

สรุปความจากวันพิพากษา ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำร้องของ กกต.ที่ยื่นขอให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (2) ในการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี เป็นการกระทำอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

โดยมติศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นยุบพรรค “เป็นเอกฉันท์”

และมติ 6 ต่อ 3 ในบทลงโทษ ตัดสิทธิการเมือง 10 ปี

บทจบค่ายการเมืองตามยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์พัน” ของนายใหญ่

ถึงตอนนี้ทั้ง 13 กรรมการบริหารพรรคที่ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง จะมีบทลงโทษ ตามมาตรา 94

พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

“ห้ามมิให้ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ถูกยุบและถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเพราะเหตุดังกล่าว ไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีก ทั้งนี้ภายในกำหนดสิบปี นับแต่วันที่พรรคการเมืองนั้นถูกยุบ”

โดยในรายของนายรุ่งเรือง พิทยศิริ อีก 1 กรรมการบริหารพรรค ลาออกในวันที่ 4 ก.พ. ก่อนเกิดเหตุบิ๊กเซอร์ไพรส์ 8 ก.พ.นี้ ยังต้องรอลุ้น รอดโทษ “จองจำทางการเมือง” อย่างเป็นทางการ

นอกจากนี้ ในการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้ ประชาชนก็ไม่สามารถเลือกผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคไทยรักษาชาติ ในระบบเขตเลือกตั้งทั้งหมด 174 คน หากมีการลงคะแนนก็จะเป็นบัตรเสียทันที

ขุนศึกขุนพลในค่าย แพ้ฟาวล์คิวลงสนาม แต้มปิ๋วเรียบวุธ

จากคิวซุปเปอร์บิ๊กเซอร์ไพรส์ ข่าวใหญ่สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน มาวันนี้ ชัดเจนว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษา ยุบพรรคไทยรักษาชาติ

ช็อกวงการเมืองกันอีกรอบ

บรรดาป้อมค่ายเครือข่ายแนวร่วมพรรคตระกูลเพื่อ และที่เชื่อมต่อสัญญาณจากคนแดนไกล ต้องรอวาระเร่งด่วนในคิวแก้เกมจาก “นายใหญ่”

ค่ายใดจะได้อานิสงส์ “แต้มส้มหล่น” ที่ค่ายไทยรักษาชาติอาจเทให้

ประเมินกันนาทีนี้ บรรดาพรรคแนวร่วม ไล่ตั้งแต่ค่ายเพื่อไทย ก็น่าจะ “รับของ” ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย อันเป็นผลพวงตั้งแต่แรก ยุทธศาสตร์ “แตกแบงก์พัน” สับหลีก สลับพื้นที่กันกับพรรคไทยรักษาชาติ

ออกลักษณะแบ่งกันเก็บคะแนน เขตเลือกตั้ง-ปาร์ตี้ลิสต์ ดังนั้นในระบบเขตเลือกตั้ง เมื่อผู้สมัครของพรรคไทยรักษาชาติ โดนตัดสิทธิพ้นจากสนาม

ก็หาผู้สมัครพรรคเพื่อไทยทดแทนได้ยาก

โฟกัสจึงไปอยู่กับค่ายที่สถาปนากันว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ทั้งพรรคประชาชาติ-พรรคเสรีรวมไทย-พรรคอนาคตใหม่ ส่วนใหญ่ส่งผู้สมัครระบบเขตเกือบครบ 350 เขต อาจถ่ายคะแนนไปให้ได้

ส่วนค่ายเพื่อชาติ วันนี้เกิดศึกใน แบ่งเป็น 2 ปีก

“นายใหญ่” คอนโทรลไม่เบ็ดเสร็จ

ยังมีความเสี่ยง “เทแต้ม” แล้ว “เสียของ”

ที่แน่ๆ สำนักใดค่ายไหน ถูกเลือกเป็น “ตัวช่วย” มีโอกาส บวกเพิ่มระบบเขตเลือกตั้ง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ผู้สมัครพรรค
ไทยรักษาชาติ ระดับตัวเต็งแต้มชัวร์ ทั้งในจังหวัดแพร่-พิจิตร

นั่นก็ยังไม่รวมคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ภารกิจเดิม ไทยรักษาชาติกวาดเก็บ

ทั้งหมดทั้งปวง ในภาพรวมเลย เกมทิ้งไพ่ตายของ “นายใหญ่” ไม่แน่ใจว่าประเมินแล้วล่วงหน้ากับผลตอบรับ อ่านทางสัญญาณบ้านเมืองไว้หรือไม่ คาดการณ์ผลกระทบ ที่ “ได้” คุ้มกับที่ “เสีย” หรือเปล่า

เมื่อศิโรราบ ในภาวะ “จำเป็น” ต้องหมอบ ภายหลังจากเล่นเกมเสี่ยง-ของแรง

สุดท้ายจะมีโอกาส เขย่าหาช่องเพื่อคัมแบ็กอีกหรือไม่

หรือปิ๋วจากกระดาน “เกมอำนาจประเทศไทย” ยาวเลย.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น: