PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ขี้หมูไหล

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศว่าประเทศไทย เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทาง การตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา

โดยจะมีฝนตกชุกต่อเนื่องและเพิ่มพื้นที่มากขึ้นครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ช่วงปลายเดือน มิ.ย.ถึงกลางเดือน ก.ค. คาดจะมีปริมาณฝนน้อย

ส่งผลให้มีน้ำไม่เพียงพอสำหรับการเกษตรในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะนอกเขตชลประทาน จึงเตือนให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด

ส่วนในเดือน ส.ค. และ ก.ย.จะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ขอให้พื้นที่เสี่ยงระมัดระวัง ปัญหาน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง

โดยฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือน ต.ค. ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกจะมีฝนตกถึงกลางเดือน ม.ค.ปีหน้า จึงป่าวประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน!!!

เมื่อกรมอุตุฯ ชี้ชัดว่าเข้าสู่ฤดูฝนเต็มตัวแล้ว พี่น้องประชาชนที่ต้องทนเผชิญกับอากาศร้อนมาหลายเดือนคงเบาใจขึ้นเยอะ เพราะได้สายฝนชุ่มฉ่ำมาช่วยบรรเทาความร้อนระอุ

แต่การที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงนี้ ไม่รู้จะเกี่ยวโยงไปถึงสถานการณ์การเมืองในห้วงที่กำลังมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่

ตามสำนวนเปรียบเปรย “ฝนตกขี้หมูไหล” ด้วยรึเปล่า

เพราะเห็นๆกันอยู่ เมื่อพรรคตัวเต็งตั้งขั้วจัดตั้งรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ โดยเนื้อแท้มี ส.ส.อยู่แค่ 115 เสียง

จำเป็นต้องไปลากพรรคเล็ก และพรรคจิ๋ว อีก 15 พรรคมาร่วม รวมเป็น 16 พรรค แต่ก็ยังมีแค่ 137 เสียง ไม่ถึงครึ่งของสภาผู้แทนราษฎร

แถมตอนนี้ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังต้องรอเสียงตอบรับจาก 2 พรรคตัวแปรสำคัญ คือ ภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ 2 พรรครวมกันอีก 103 เสียง

แต่ภายใต้การต่อรองที่เข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ ตามวัน ว. เวลา น. ที่กำหนดให้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเลือกประธานสภาฯ 25 พ.ค.

ก็เหมือนเกมยิ่งบีบให้พรรคพลังประชารัฐตกเป็นเบี้ยล่าง ในเกมต่อรองจาก 2 พรรคตัวแปรสำคัญ หากต้องการเสียงสนับสนุนให้เกินครึ่งสภาฯ เพื่อยึดเก้าอี้ประธานสภาฯไว้ในมือ

ด้วยเหตุนี้จึงมีกระแสข่าวลอยลมว่า แกนนำ พรรคประชาธิปัตย์ จับมือกับ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยื่นข้อเสนอให้ พรรคพลังประชารัฐ คายเก้าอี้กระทรวงเกรดเอ

โดยเฉพาะ กระทรวงคมนาคม และ กระทรวงการคลัง เพื่อแลกกับเสียงหนุนในสภาฯ ที่จะช่วยให้พรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เมื่อผนวกพรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง และพรรคชาติพัฒนา 3 เสียง เข้ามาร่วมเป็นรัฐบาลผสม 20 พรรค 253 เสียง

ภายใต้หมายเหตุ พรรคประชาธิปัตย์ 52 เสียง ต้องยกมาทั้งพรรค แต่ถ้าแตกเป็นกองทัพงูเห่า ก็ตัวใครตัวมัน

เพราะจะเป็นได้แค่รัฐบาลเสียงข้างน้อย รอวันยุบสภาสถานเดียวเลยนะท่านมหา

ฉะนั้นมาถึงตอนนี้ ฟันธงได้

มีคนอยากให้ฝนตกขี้หมูไหล มากกว่าฝนแล้งแน่นอน!!!

“พ่อลูกอิน”

ไม่มีความคิดเห็น: