PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ย้ายจุดควบแน่นอำนาจ

สัญญาณฝนแล้งหนัก หักมุมกับสภาที่ส่อเค้า “น้ำลายท่วม” แน่

ตามสถานการณ์แห่กระแส โหมโรงศึกอภิปรายนโยบายรัฐบาล งานแรกประเดิม “รับน้อง” ผู้นำอย่าง “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เปลี่ยนยูนิฟอร์มมาเป็น “นายกฯเลือกตั้ง” เต็มตัว

ท่ามกลางเสียงรัวเกราะเคาะไม้ เขย่าขวัญ ถึงวันที่ต้องรู้ว่า “นรกมีจริง”

ในจังหวะเทกแอ็กชัน พรรคเพื่อไทย ทีมงานนายใหญ่ดูไบ ระดม 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เปิดยุทธการตัดไม้ข่มนาม ทำท่า “ลับมีด” รอลากทีม “ประยุทธ์ ภาค 2” ขึ้นเขียง

จ้องเชือดประจานคุณสมบัติส่วนตัวรัฐมนตรีแบบรายหัว

แต่ก็กลัวซะที่ไหน ในอารมณ์แบบที่ “อุลตร้าอุตตม” นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขนทีมงานรัฐมนตรี ส.ส.ไปเข้าค่ายเก็บตัวกันที่วังน้ำเขียว นครราชสีมา ติวเข้มแท็กติก ซ้อมคิว แบ่งทีมจัดตัวบุคคลเตรียมรับมือการต่อยใต้เข็มขัดของฝ่ายค้าน

สวนหมัดแบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ถ้าเล่นนอกเกมได้ล่อกันน้ำบานแน่

และตบท้ายยังมีคิวจัดปาร์ตี้คาวบอย คาวเกิร์ล โชว์เลยว่าไม่ซีเรียส

แถมช็อตสำคัญที่เป็นไฮไลต์เด็ดของงาน “พี่ใหญ่” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ โผล่เป็นแขกเซอร์ไพรส์กล่าวปิดเวทีสัมมนา โดยขอบคุณลูกทีมพลังประชารัฐที่มากันอย่างพร้อมเพรียง แสดงถึงความร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกัน

พร้อมสัญญาว่าจะใจเย็น และรับฝากจะไปบอก “บิ๊กตู่” อย่านอตหลุด

ตามเกมที่นักการเมืองสายเก๋าของทีมพลังประชารัฐ “เก็งข้อสอบ” เดาทางฝ่ายค้านล็อกเป้าถล่ม “พี่น้อง 3 ป.” แน่ โดยเฉพาะ “บิ๊กป้อม” กับ “บิ๊กตู่” ที่หนีไม่พ้นตำบลกระสุนตก

เตือน “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ต้องเตรียมน้ำแข็งไว้กินเยอะๆ เพื่อให้ใจเย็น

เรื่องของเรื่องถึงจุดที่ทีมอำนาจท็อปบูตเริ่มจูนเข้าหานักการเมืองอาชีพ ตามเงื่อนไขสถานการณ์หมดโปรโมชันอำนาจพิเศษ เข้าสู่เกมร้อนๆในสภาที่ต้องอาศัยลูกล่อลูกชนของ ส.ส.เป็นหลัก

ได้เวลาเห็นความสำคัญของนักการเมืองที่จะคอยคุ้มกันในสภา

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันยังแค่รายการ “เผาหัว” เวทีอภิปรายนโยบายรัฐบาลดุเดือดเลือดพล่านยังไง สุดท้ายก็จบแบบไม่มีการลงคะแนน ไม่มีการลงมติเหมือนเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจ

อย่างดีมันก็แค่เวทีระบายแค้น ลูกติดพันจากเกมเลือกตั้ง

จุดสำคัญกว่านั้น มันคือเกมยาวๆ โฟกัสคิว “พี่ใหญ่” แกะรอยสัญญาณการเปิดหน้าเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “บิ๊กป้อม” ที่แบะท่า จ่อปักหลักสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

ถึงจังหวะ พล.อ.ประวิตร เสี่ยงออกหน้าลุยไฟการเมืองเต็มตัว

โชว์เป็น “ตัวจริง” เบื้องหลังค่ายพลังประชารัฐ ไม่กั๊กอีกต่อไป

แน่นอน ในมุมหนึ่งมันก็คือการขยาย “ภาพเชิงซ้อน” ให้เกิดความชัดเจนในกระบวนการอำนาจการจัดการภายในของพลังประชารัฐที่คลุมเครือๆ และเป็นจุดที่กองเชียร์สายแห่ พล.อ.ประวิตรน่าจะแฮปปี้

เมื่อ “พี่ใหญ่” ยึดแท่นการเมืองในพรรค มีหลักให้เกาะ

แต่อีกนัย มันก็ขยายภาพยี่ห้อ “พลังประชารัฐ” เป็นพรรคทหารเด่นชัดขึ้น

ซึ่งนั่นไม่น่าห่วงเท่ากับตัว พล.อ.ประวิตรเอง ในมุมที่เปิดหน้าเปิดคางชก หนีไม่พ้นโดนลากมาขึงพืดเป็นเหยื่อล่อเป้าทางการเมือง ในสถานการณ์ที่อำนาจพิเศษหมดโปรโมชัน

ยิ่ง “พี่ใหญ่” การันตีจะประคองให้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอยู่ครบเทอม 4 ปี

มันยิ่งเป็นอะไรที่ท้าทาย “นายใหญ่” สั่งถล่มนั่งร้าน “ลุงตู่” ยับเยินแน่

ตามรูปการณ์ ต้องลุ้น “ฟีดแบ็ก” กระแสตอบรับจะออกมาแนวไหน และมันจะเป็นจังหวะ “นำร่อง” คิวของ “นายกฯลุงตู่” ที่ยังดึงเช็ง ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ เข้าปักหลักกับค่ายพลังประชารัฐ

น่าจะได้จังหวะ รอดูสภาพ “พี่ใหญ่” ก่อน

เรื่องของเรื่อง สถานการณ์มันถึงจุด “ควบแน่น” อำนาจในค่ายพลังประชารัฐ

ไฟต์บังคับทีม คสช.ต้องจูนเข้าหาทีมการเมืองพลังประชารัฐ เป็นทางลงหลังเสือไม่ให้โดนเสือกัด

แต่ในสถานการณ์ที่ตรงกันข้ามกันเลย กับจังหวะตีกรรเชียงของ “จอมยุทธ์กวง” นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ ผู้ปลุกปั้นทีมพลังประชารัฐ ที่บอกปัดนักข่าวถึงเรื่องวงสัมมนาพรรค

“ผมไม่ไป ไม่อยากเข้าไปยุ่ง”

โคตรเซียนการเมืองยี่ห้อ “สมคิด” ดึงตัวอยู่นอกวง ชิ่งจากวังวนอำนาจ

วัดระยะปลอดภัย ไม่เสี่ยงพลาด พังตอนจบ.

ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: