PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2562

ภรรยาอับดุลเลาะ บุกร้องขอเป็นธรรมยื่น‘อนค.’จี้สอบการเสียชีวิต

“ภรรยาอับดุลเลาะ” บุกยื่นหนังสือให้ “อนค.” จี้ตรวจสอบการเสียชีวิต “ช่อ” เผย ตั้งแต่ปี 47 มีเคสแเบบนี้แล้ว 54 ราย 100% เป็นมุสลิมเชื้อสายมลายูทั้งหมด “เสธโหน่ง”  ชี้ ต้องปรามเจ้าหน้าที่ไม่ให้ลุแก่อำนาจ 
เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2562 ที่รัฐสภา นางสาวซูไมย๊ะห์ มิงกะ ภรรยาของนายอัดุลเลา อีซอมูซอ พร้อมญาติของนายอับดุลเลาะ เดินทางมายื่นหนังสือถึงพรรคอนาคตใหม่กรณี ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิต ของนายอับดุลเลาะ หลังถูกคุมตัวที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี โดยมีนางสาวพรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่เป็นผู้รับหนังสือ 

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ทางพรรคอนาคตใหม่ได้ติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ว่าทำไมนายอับดุลเลาะ ถึงออกมาจากค่ายอิงคยุทธบริหารในสภาเจ้าชายนิทราก่อนจะเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบรูปถ่ายของนายอับดุลเลาะ ที่โรงพยาบาลปัตตานี เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ร่างกายของนายอับดุลเลาะมีบาดแผลหลายแห่ง ทั้งรอยถลอกที่ข้อเท้า ที่หูมีหนองไหลออกมา พบรอยแดงที่ข้อมือที่คาดว่าอาจเกิดจากการมัด และรอยจี้ที่นิ้ว ซึ่งคาดว่าอาจเกิดจากการช็อตไฟฟ้า ทั้งนี้เราขอให้ นายกรัฐมนตรี กองทัพ และกระทรวงกลาโหม ออกมาอธิบายเรื่องดังกล่าวอย่างมีน้ำหนัก ว่าทำไม นายอับดุลเลาะ ถึงออกมาจากค่ายอิงคยุทธบริหาร ด้วยสภาพสมองขาดออกซิเจน 
เช่นเดียวกับโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่ง ที่เกี่ยวข้องทั้งโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร โรงพยาบาลปัตตานี และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เสนอข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่สามารถทำให้กรณีดังกล่าวเกิดความชัดเจน 
“นายอับดุลเลาะไม่ใช่คนแรกที่ออกมาจากค่ายทหาร และมีสภาพ บาดเจ็บสาหัส พิการ หรือเสียชีวิตมีข้อมูลที่ทำการวิจัย โดยกลุ่มวิจัยสิทธิมนุษยชน จ.ปัตตานี และกลุ่มประสานวัฒนธรรมในพื้นที่ ตั้งแต่ปี 2547 พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีผู้ถูกกระทำลักษณะนี้ 54 ราย ทั้งหมดเป็นชาวมุสลิมเชื้อสายมลายู 51% มีอายุระหว่าง 29-38 ปี โดย 57% เป็นชาวปัตตานี หมายความว่า ประชาชนที่มีลักษณะเดี่ยวกับนายอับดุลเลาะ เป็นแบบฉบับผู้ต้องสงสัยที่รัฐตั้งข้อสังเกต”น.ส.พรรณิการ์ ระบุ 
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ขอให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจมีผู้เชี่ยวชาญทั้งจากในและต่างประเทศ ร่วมอยู่ในกรรมการด้วย เพื่อตรวจสอบการซ้อมทรมานที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และเป็นการแสวงหาข้อเท็จจริง เนื่องจากพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายพิเศษ ทั้ง 3 แบบ มานานกว่า 1 ทศวรรษ  ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแต่เป็นการทวงคืนความเป็นธรรมแก่ครอบครัวของนายอับดุลเลาะเท่านั้น แต่เป็นการทำให้เกิดความเป็นธรรมแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อีกด้วย 
ด้าน พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภายใต้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ เช่นเดียวกับการลุแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทั้งนี้ ผู้บังคับบัญชาเอง ต้องอบรมผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยว่า ประชาชนนั้น ไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย รวมทั้งต้องสามารถตรวจสอบกระบวนการต่างๆได้อย่างโปร่งใส หากยังมีการปฏิบัติลักษณะนี้ ย่อมไม่สามารถแก่ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ได้  และรังแต่จะเพิ่มจำนวนแนวร่วมผู้ก่อความไม่สงบให้มากขึ้น
ที่มา : แนวหน้า

ไม่มีความคิดเห็น: