PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2562

งบกลาโหม

งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด ได้แก่งบของกระทรวงกลาโหม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าฝ่ายค้าน วิจารณ์ว่ารัฐบาลทุ่มงบประมาณในด้านความมั่นคง แล้วจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชนฟื้นตัวได้อย่างไร

สอดคล้องกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่แสดงความเห็นว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ในกรอบวงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 แสนล้านบาท เป็นรายจ่ายประจำ 80% ภาพที่ออกมาทำให้เห็นได้ว่า รัฐบาลจัดงบประมาณด้านเศรษฐกิจลดลง แต่จัดงบกลางรายการสำรองฉุกเฉินสูงกว่าปีที่ผ่านมา

“นักร้อง” เจ้าประจำที่ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้อีกคนหนึ่ง ได้แก่ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีพลังงาน โดยกล่าวว่า ที่นายกรัฐมนตรีอ้างว่างบทหารไม่ได้เพิ่มขึ้น ไม่เป็นความจริง เพราะงบกลาโหมมีเพียง 8.59 หมื่นล้านเมื่อปี 2549 แต่ปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 2.33 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 271% หรือเกือบ 3 เท่า

ใกล้เคียงกับข้อมูลของนักวิชาการต่างประเทศ ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารที่ระบุว่าใน 5 ปีที่ผ่านมา บรรดาประเทศเพื่อนบ้านของไทย ทั้งมาเลเซีย พม่า และกัมพูชา ต่างลดงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ แต่ประเทศไทยกลับเพิ่มงบการทหารถึง 17.5% นับแต่รัฐประหารปี 2557 เป็นต้นมา งบกลาโหมเพิ่มขึ้นกว่าพันล้านดอลลาร์

อาจถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา ใน 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยอยู่ใต้การปกครองของรัฐบาลทหารเต็มตัว รัฐบาลมีอำนาจที่จะใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินอย่างไรก็ได้ ไม่มีระบบการตรวจสอบที่โปร่งใส เพราะรัฐบาลมีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ แต่หลังการเลือกตั้งเป็นต้นมา รัฐบาลจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น

ตัวอย่างของการตรวจสอบเรื่องหนึ่ง คือการที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ตรวจสอบการจัดซื้อรถเกราะล้อยาง จากสหรัฐอเมริกา 37 คัน (แถมฟรี 23 คัน) มูลค่า 2,480 ล้านบาท และเฮลิคอปเตอร์ 31 ลำ 12,000 ล้านบาท

ผู้ร้องเห็นว่า ซื้อแพงกว่าซาอุดีอาระเบีย และถามว่าเหมาะสมหรือไม่ ในขณะที่เศรษฐกิจประเทศย่ำแย่ ทั้งยังโดนทั้งภัยแล้งและอุทกภัย อย่าลืมว่าขณะนี้ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้งและมีรัฐสภาแล้ว การใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานต่างๆที่มาจากภาษีประชาชน จะได้ถูกตรวจสอบอย่างโปร่งใส การใช้เงินทุกบาทต้องคุ้มค่า.

ไม่มีความคิดเห็น: