PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2556

ปิดฉาก ''สาธุคุณ มูน'' ล้านอาลัย เจ้าลัทธิแต่ง 3 หมื่นคู่


วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน 2555 เวลา 00:00 น.

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สื่อระดับโลกหลายสำนัก ได้เสนอข่าว สาธุคุณ ซัน เมียงมูน ผู้ก่อตั้งมูลนิธิโบสถ์แห่งความสามัคคี ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการจัดพิธีสมรสหมู่ ที่มากสุดคือ 3 หมื่นคู่ ที่กรุงโซล เมื่อปี ค.ศ.1992 ได้ถึงแก่กรรมด้วยวัย 92 ปี เวลาตีสอง (ตามเวลาเกาหลีใต้) วันที่ 3 ก.ย. 2555 โฆษกประจำตัวแถลงว่า สาเหตุการจากไปของสาธุคุณ ซัน เมียงมูน มาจากโรคปอดบวมและอวัยวะสำคัญล้มเหลว

ทิ้งเรื่องราวทั้งด้านบวกและลบไว้ให้ผู้ที่เคารพศรัทธาและผู้ที่คัดค้านไม่เห็นด้วย ได้ศึกษาถกแถลงกันต่อไปอีกยาวนาน...

คนไทยคงเคยได้ยินเรื่องราวของบุคคลผู้นี้มาแล้วไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะการสมรสหมู่ที่เป็นข่าวไปทั่วโลก สื่อหลายชาติรวมทั้งสื่อไทยก็เคยได้รับเชิญให้ไปทำข่าวนี้มาแล้ว ทั้งที่สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

การสมรสหมู่ของคนที่เข้าพิธีทั้งที่หลายคนไม่รู้จักกันนั้น กลายเป็นข้อครหาว่า เป็นเพราะเหล่าสาวกถูกล้างสมองด้วยนิกายหรือลัทธิที่สอนให้ไม่เคารพพ่อแม่ รวมทั้งเรื่องทรัพย์สมบัติที่สาธุคุณ ซัน เมียงมูน ได้ทิ้งไว้เป็นอาณาจักรใหญ่โตในปัจจุบัน ทั้งด้านอสังหาริมทรัพย์ สื่อมวลชน การศึกษา โรงงานผลิตอาวุธ บริษัทจัดจำหน่ายอาหาร ธุรกิจกิจตกปลา ร้านซูชิในสหรัฐ...ทั้งหมดถูกคนอเมริกันที่ไม่ศรัทธากล่าวหาว่า ค้ากำไรเกินควรจากสมาชิก ประมาณการว่า อาณาจักรธุรกิจเหล่านี้มีมูลค่านับพันล้านเหรียญเลยทีเดียว

เหรียญย่อมมีสองด้าน

สาธุคุณ มูน มีลูกศิษย์หลายล้านคน

และคนที่ศรัทธายืนยันว่า ไม่เคยมีการสอนให้ไม่นับถือพ่อแม่ แต่สอนว่า พ่อแม่ทุกคนต้องเป็นพ่อแม่ที่แท้จริง ต้องเลี้ยงดูลูกให้เป็นคนดี มีการศึกษา ใฝ่สันติ ไม่มีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน เมื่อแต่งงานแล้วก็ไม่นอกใจกัน ลูกหลานต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ด้วยความรักที่มั่นคง 3 ชั่วอายุคน

’ทำไมท่านจะมีเงินไม่ได้ เพราะท่านไม่นั่งรอรับบริจาคอย่างเดียว แต่มาจากหัวคิดที่มองเห็นการณ์ไกล เมื่อมีเงินก็ใช้เงินเพื่อทำประโยชน์กับโลก“ ลูกศิษย์ยืนยัน

โดยยกตัวอย่างให้เห็นว่า เริ่มต้นเมื่อจะสร้างโบสถ์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในเกาหลีใต้นั้น การหาเงินเป็นเรื่องยากมาก สาธุคุณ มูน ได้สั่งให้สมาชิกโบสถ์ทุกคนเมื่อจะส่งจดหมายหนึ่งฉบับให้กับสมาชิก ปกติต้องติดแสตมป์ 40 วอน ก็ให้ติดแสตมป์เป็นดวงละ 1 วอน 40 ดวง และสั่งให้สมาชิกเก็บสะสมแสตมป์ไว้เพื่อขาย เพราะเชื่อว่าไม่นานจะมีนักสะสมมาแห่ซื้อ จากแสตมป์ 1 วอน ก็ขายได้ 1 ล้านวอน กลายเป็นทุนดำเนินการในหลายด้าน รวมทั้งที่ดินกลางกรุงโซลที่ซื้อไว้เพื่อสร้างโบสถ์ก็มีราคาเพิ่มมหาศาล

นอกจากนั้น สาธุคุณ มูน ยังส่งเสริมให้สมาชิกต่อเรือเพื่อทำธุรกิจจับปลา โดยตัวมูนเองชอบพาลูกศิษย์ไปตกปลาในทะเลต่าง ๆ เป็นประจำ และเล็งเห็นล่วงหน้าว่า โลกจะขาดแคลนอาหาร เนื่องจากหมู วัว แพะ แกะ ออกลูกทีละไม่กี่ตัว แต่ปลาออกไข่ทีละเป็นล้านฟองและออกลูกฝูงใหญ่ ทะเลจะเป็นแหล่งอาหารสำคัญ มีทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา จึงเปิดโรงงานแปรรูปอาหารที่อลาสกา มีทั้งการทำเพื่อบริจาค และการจำหน่าย...

กลายเป็นอีกรายได้ที่สำคัญ

นอกจากเรื่องการสร้างธุรกิจแล้ว มูนยังก่อตั้งองค์กรในชื่อต่าง ๆ มากมาย เช่น สหพันธ์สันติภาพสากล สหพันธ์ครอบครัวเพื่อความสามัคคีและสันติภาพโลก สหพันธ์เยาวชนคนหนุ่มสาวเพื่อสันติภาพโลก สมาคมอาจารย์อุดมศึกษาเพื่อสันติภาพโลก มีการจัดประชุมทั้งที่นิวยอร์ก เกาหลี ญี่ปุ่น เป็นต้น โดยสหพันธ์สันติภาพสากล และสหพันธ์สตรีเพื่อสันติภาพโลก ได้รับการรับรองจากสหประชาชาติให้เป็นองค์กรที่มีสถานภาพเป็นที่ปรึกษาของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ (UN ECOSOC)
ด้วย

และยังมีคณะบัลเล่ต์พื้นบ้าน “Little Angel” ที่ดังมาก ซึ่งเคยมาแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรมด้วย อีกทั้งยังสร้างโรงพยาบาล พิพิธภัณฑ์ ศูนย์ปฏิบัติธรรม เป็นต้น

ธุรกิจต่าง ๆ เหล่านี้ ลูก ๆ 14 คน (ชาย 7 คน หญิง 7 คน) เป็นผู้ดูแล ส่วนมูลนิธิโบสถ์แห่งความสามัคคีนั้นลูกชายสุดท้องในจำนวน 7 คนเป็นผู้รับช่วงต่อตั้งแต่ปี ค.ศ.2008 ขณะที่มีอายุ 28 ปี

ศพของสาธุคุณ ซัน เมียงมูน จะถูกฝังในวันที่ 15 กันยายนนี้ ที่ภูเขาซอนซุง ใกล้บ้านเกิดของเขา โดยจะมีผู้นำหลายชาติ รวมทั้งลูกศิษย์ลูกหาหลายล้านคนที่เคารพศรัทธาเขา มาร่วมส่งดวงวิญญาณในวาระสุดท้ายนี้ด้วยความอาลัยรัก แต่คนที่คัดค้านไม่เห็นด้วยก็ย่อมไม่มาร่วมแน่

วันเวลานั้นยังอีกยาวนาน แต่ไม่ไกลเกินไป

สาธุคุณ ซัน เมียงมูน ก็ไม่พ้นไปจากสุภาษิตจีนบทนี้ นั่นคือ...

ระยะทางพิสูจน์ม้า

กาลเวลาพิสูจน์คน
//
ที่มา เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น: