PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จับตาดูกระบวนการทำลายพุทธศาสนา

โดย สิริิอัญญา (นสพ.แนวหน้า 24ก.ค.56)

พักนี้มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดภาพพจน์เชิงลบแก่พุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง และแต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องเสียหายร้ายแรงทั้งสิ้น เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในเวลาแค่วันเดียว และเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ด้วยการกระทำของคนคนเดียวหรือคนเพียงไม่กี่คน

และถ้ามองให้กว้างออกไป เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดภาพพจน์เชิงลบและเกิดผลกระทบต่อพุทธศาสนานั้นมิได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย แต่เกิดขึ้นในต่างประเทศด้วย

เฉพาะในอินเดียซึ่งเป็นแดนเกิดแห่งพุทธศาสนานั้นก็มีการวางระเบิดถึง 9 จุด ในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียหาย ส่งผลสะเทือนทางจิตใจแก่พุทธศาสนิกชนทั่วโลก

เพราะรายงานข่าวที่เกิดขึ้นระบุว่าเป็นการก่อเหตุของผู้นับถือศาสนาอื่น ซึ่งถ้าฟังข่าวแต่เพียงผิวเผินก็ย่อมรู้สึกไปในทางเดียวกัน คือความรู้สึกที่เป็นทางลบต่อศาสนิกแห่งศาสนานั้น

หรือเหตุการณ์ในพม่าที่มีการรบราฆ่าฟันและทำร้ายทำลายกันระหว่างพุทธศาสนิกชนกับศาสนิกของศาสนาอื่น จนเกิดเรื่องราวเป็นข่าวคราวใหญ่โตไปทั่วโลก กระทั่งกระทบต่อปัญหาความมั่นคงของประเทศพม่าด้วย

ดังนั้นการเกิดเหตุที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อพุทธศาสนาในยามที่ปีมหามงคลพุทธชยันตี ล่วงมา 2,601 ปี จึงกล่าวได้ว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ในหลายรูปแบบ และในเวลาใกล้เคียงกัน จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า มีอะไรเป็นเบื้องลึกเบื้องหลังที่มุ่งหวังทำลายหรือมุ่งร้ายต่อพุทธศาสนา

พุทธศาสนิกชนทั้งหลายถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ไม่ตั้งอยู่ในความยึดมั่นถือมั่นในศาสนาหนักหน่วงรุนแรงเหมือนกับบางศาสนา แต่ก็จำต้องจับตาจ้องมองกันไว้บ้างว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นจะได้ไม่ตั้งอยู่ในความประมาท อย่างน้อยก็จะได้รู้เท่าทันถึงกระบวนการและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ก่อนอื่นก็ต้องกล่าวว่าในประเทศไทยของเรานั้นองค์กรบริหารจัดการคณะสงฆ์ที่มีอำนาจสูงสุดคือ มหาเถรสมาคม แต่น่าอนาถใจที่นับวันพุทธศาสนิกชนจะไม่ได้เห็นบทบาทของมหาเถรสมาคมในเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น

ในเหตุการณ์มากหลายไม่มีท่าทีหรือการแสดงออกใดๆ จากมหาเถรสมาคม มีแต่ความเงียบ ราวกับว่าไม่มีองค์กรนี้อยู่ในประเทศไทย แต่กระนั้นก็อาจจะดีกว่าบางหน่วยงานหรือบางคนที่ชอบพูดนักหนาว่าข้าไม่เกี่ยว เรื่องอะไรก็ไม่เกี่ยวกับข้าเพราะสิ่งที่ข้าสนใจคือเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายตัวข้าเท่านั้น

เพราะมหาเถรสมาคมมิได้แสดงบทบาทให้ปรากฏเช่นนี้ จึงทำให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเองก็ไม่สามารถแสดงบทบาทอะไรได้ จึงกลายเป็นประเทศไทยซึ่งพระพุทธศาสนาตั้งมั่นสถิตสถาพรมาเป็นเวลาช้านาน กำลังกลายเป็นประเทศที่ไม่มีหน่วยงานใดรับผิดชอบดูแล คุ้มครองป้องกัน ทำนุบำรุงพุทธศาสนา และพุทธศาสนาก็กลายเป็นศาลากลางบ้านที่ใครจะใช้สอยหาประโยชน์หรือจะถ่มถุยทำลายประการใดก็สุดแต่ใจชอบ

เมื่อครั้งที่หลวงตาพระมหาบัวยังมีชีวิตอยู่ก็เคยมีข่าวการปองร้ายที่มุ่งทำลายเกียรติภูมิของพระอริยสงฆ์ แต่ในที่สุดมารก็ไม่สามารถเข้าทำร้ายทำลายถึงองค์หลวงตาได้เป็นที่อัศจรรย์ แต่เสียดายนักที่ปาฏิหาริย์นั้นมิได้รับการกล่าวขวัญเล่าขานให้เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาของมหาชน

เมื่อครั้งที่ยังเป็นพระมิตซูโอะคนทั้งปวงก็เลื่อมใสนับถือ และจู่ๆ ก็ลาสิกขาออกไปแล้วมีการแถลงถึงความพอใจในฆราวาสวิสัยนั้น และน่าเสียดายยิ่งนักที่เบื้องลึกเบื้องลับอันเป็นเหตุให้มีการลาสิกขาว่าเกิดจากอะไร มีองค์กรหรือสำนักไหนอยู่เบื้องหลัง คนทั้งปวงจึงได้ฟังแต่เรื่องความยินดีในฆราวาสวิสัยของนายมิตซูโอะ จึงทำให้เบื้องลึกแห่งการทำลายพระมิตซูโอะที่ให้ส่งผลกระทบต่อศรัทธาของพุทธศาสนิกชนเลือนหายไป

มาถึงไอ้คำเล่า อายุอานามก็ไม่มากนัก แต่สามารถสร้างภาพฉ้อฉลหลอกลวงฉ้อโกงมหาชนได้นับพันล้านบาท มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเดียวดอกหรือ? หรือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีอะไรเป็นเบื้องลึก เบื้องลับ เบื้องหลังหรือ? และเวลานี้เรื่องของไอ้คำก็กลายเป็นเรื่องการเมือง และเป็นการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน

ความจริงการกระทำอันเป็นปาราชิกมีอยู่จำนวนมาก ทำไมจึงดำรงอยู่ได้? ทำไมองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ถูกทำให้อ่อนล้า ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ ปล่อยให้เหล่ามิจฉาชีพและบางขบวนการบ่อนทำลายพุทธศาสนาตามอำเภอใจ

นั่นย่อมกล่าวหาได้ไม่ใช่หรือว่าเพราะเป็นเรื่องของการเมือง และไม่เพียงแต่เป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศ ที่นักการเมืองต้องการใช้ศาสนาในการจูงใจสร้างความนิยมหาพวกลิ่วล้อบริวารเพื่อประโยชน์ในทางการเมือง หากอาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการทำลายพุทธศาสนาที่เชื่อมโยงกับต่างประเทศด้วย

เป็นไปได้อย่างไร? ที่ประเทศไทยซึ่งพุทธศาสนาสถิตมาอย่างมั่นคงหลายศตวรรษ กลับมาตกอยู่ในสภาพที่เหมือนศาลากลางบ้านดังที่ว่ามาข้างต้น เป็นไปได้อย่างไรที่บางสำนักประพฤติตนเป็นอลัชชีเดียรถีย์ และทำลายพุทธศาสนาทั้งเนื้อตัวและรูปแบบอย่างโจ่งแจ้งกลางเมือง แต่อำนาจรัฐก็ดี ผู้มีอำนาจหน้าที่ก็ดี พากันนิ่งเฉยหรือสมคบ สมรู้ สมยอมให้กระทำตามอำเภอใจได้

ชาวพุทธทั้งหลายจึงต้องตื่นตัว ตื่นตาขึ้นมาจับตาสังเกตดูว่าเหตุการณ์ร้ายๆ แรงๆ ที่ส่งผลกระทบต่อพุทธศาสนามาอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นเหตุบังเอิญ หรือมีอะไรอยู่เบื้องหลังที่มุ่งหวังทำร้ายทำลายพุทธศาสนา? ช่วยกันจับตาดู ช่วยกันคิดพิจารณาและร้องโหวกเหวกโวยวายตามประสาเถิด!

ไม่มีความคิดเห็น: