PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556

"ตึงเครียดหนัก! ปูตินสั่งส่งเรือรบรัสเซีย 2 ลำมุ่งหน้า “ชายฝั่งซีเรีย”

"ตึงเครียดหนัก! ปูตินสั่งส่งเรือรบรัสเซีย 2 ลำมุ่งหน้า “ชายฝั่งซีเรีย” คาดช่วยปกป้อง “รบ.อัสซาด” จากการโจมตีของตะวันตก"..

 เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลรัสเซีย มหามิตรของซีเรีย ตัดสินใจส่งเรือรบ 2 ลำเข้าสู่น่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันออกแล้ว ส่งสัญญาณชัดพร้อมปกป้องซีเรียจากการรุกราน
ของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรตะวันตกที่เตรียมฉวยโอกาสโจมตีซีเรียโดยใช้เหตุผลว่า รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล อัสซาด ใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนของตัวเอง

รายงานของสำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ในวันพฤหัสบดี (29) ระบุว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สั่งการให้กองทัพแดนหมีขาวส่งเรือรบ 2 ลำมุ่งหน้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันออกแล้ว ในขณะที่สหรัฐฯและชาติพันธมิตรตะวันตกกำลังเตรียมเปิดปฏิบัติการทางทหารต่อซีเรีย หนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของรัสเซียในภูมิภาคตะวันออกกลาง

รายงานของอินเตอร์แฟกซ์ซึ่งอ้างแหล่งข่าวในกองทัพรัสเซียระบุด้วยว่า ทางกองทัพได้รับคำสั่งให้ส่งเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธ และเรือรบต่อต้านเรือดำน้ำเข้าไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนฝั่งตะวันออก ไม่ไกลจากชายฝั่งของซีเรียแล้ว และคาดว่า เรือรบทั้งสองลำของรัสเซียจะเดินทางถึงพื้นที่เป้าหมายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

อย่างไรก็ดี กองทัพเรือรัสเซียออกมาแถลงในเวลาต่อมาว่า การส่งเรือรบทั้งสองลำเข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นเพียงการสับเปลี่ยนกำลังทางเรือตามปกติเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในซีเรีย

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัสเซีย มีขึ้นในจังหวะเวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส อดีตประเทศเมืองแม่ของซีเรียออกโรงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกต่อปัญหาซีเรีย โดยใช้ “สันติวิธี” และแนวทางทางการเมือง

ท่าทีของโอลลองด์ดูจะสวนทางกับสหรัฐฯ อังกฤษ ซาอุดีอาระเบีย และกาตาร์ ที่ต่างเตรียมเปิดการโจมตีต่อซีเรียในเร็ววัน โดยไม่รอฟังแม้กระทั่งผลการตรวจสอบของทีมผู้เชี่ยวชาญสหประชาชาติ
(ยูเอ็น) ว่าพบข้อมูลที่บ่งชี้ว่า รัฐบาลซีเรียนำอาวุธเคมีมาใช้เข่นฆ่าประชาชนจริงหรือไม่

ล่าสุดมีรายงานว่า สหรัฐฯและอังกฤษได้บีบให้องค์การสหประชาชาติสั่งถอนกำลังทีมตรวจสอบอาวุธเคมีที่นำโดย อาเก เซลล์สตรอม ผู้เชี่ยวชาญชาวสวีดิชออกจากซีเรียแล้ว ส่งผลให้ทีมตรวจสอบดังกล่าวซึ่งยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจในการค้นหาคำตอบในซีเรียต้องเร่งเดินทางกลับออกมาภายในช่วงเช้าวันเสาร์ (31) นี้

โดย บัน คี มุน เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นชาวเกาหลีใต้ เผยที่กรุงเวียนนาของออสเตรีย โดยระบุว่า เขาได้หารือกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯแล้วในวันพุธ (28) เกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย

ซึ่ง บัน ย้ำว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาปรารถนาจะให้ทีมตรวจสอบชุดดังกล่าวได้ปฏิบัติหน้าที่ในซีเรียต่อไป แต่ปฏิเสธว่า การที่ทีมตรวจสอบฯต้องเร่งเดินทางออกจากซีเรียนั้นเป็นเพราะได้รับแรงกดดันจากสหรัฐฯ

ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่ากองทัพอากาศสหราชอาณาจักรได้ส่งเครื่องบินขับไล่ “Typhoon” จำนวน 6 ลำเข้ามายังฐานทัพอากาศ “อะโครติรี” บนเกาะไซปรัสแล้ว แต่โฆษกกระทรวงกลาโหมเมืองผู้ดี ปฏิเสธว่า การส่งเครื่องบินขับไล่ดังกล่าวเข้ามายังไซปรัส เป็นเพียงการกระทำเพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ของอังกฤษ” ในฝั่งตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เท่านั้น โดยไม่ยอมตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า เตรียมใช้ไซปรัสที่อยู่ห่างจากชายฝั่งของซีเรียราว 200 กิโลเมตรเป็นฐานสำหรับการโจมตีซีเรียหรือไม่

http://astv.mobi/Ai6McX3

ไม่มีความคิดเห็น: