PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปชป.ปลุกม็อบริมถนน ชู "อียิปต์โมเดล" ค้านรัฐบาล


Prev
1 of 1
Next
คลิกภาพเพื่อขยาย
updated: 01 ส.ค. 2556 เวลา 13:06:15 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
เพราะรู้ว่าสถานะตกเป็นรองฝ่ายตรงข้าม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะเสียงข้างน้อยจึงต้องดึงแนวรบร่วมต่อสู้ริมถนนแบบคู่ขนานกับบทฝ่ายค้านในรัฐสภา
เปลี่ยนบรรยากาศบน "เวทีผ่าความจริง" จากที่เคยใช้เป็นพื้นที่ชี้แจง-อธิบายท่าทีของรัฐบาลในทุกจังหวะก้าว สู่เวทีไฮด์ปาร์กเพื่อปลุกขวัญกำลังใจผู้รักความเป็นธรรมให้ร่วมต่อสู้

"เวทีผ่าความจริง" จากที่เคยจัดเฉลี่ยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จึงเพิ่มปริมาณความถี่ เพื่อคัดค้านอย่างต่อเนื่องในศึกที่คาดว่าจะยืดเยื้อในสภาตามแนวคิดของ "สาธิต วงศ์หนองเตย" ส.ส.ตรัง

วินาทีหลังจากนี้การเมืองริมถนนของฝ่าย ปชป. จะเข้มข้นดุเดือดแปรผันตรงกับการเคลื่อนไหวของร่างกฎหมายนิรโทษกรรมจากฝ่ายรัฐบาล 31 ก.ค. ก่อนสภาเปิดสมัยประชุมหนึ่งวัน จะเอาฤกษ์เอาชัย ณ พื้นที่สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี และต่อเนื่องในวันที่ 4-6 ส.ค. จัดเวทีกระจายตามหัวเมืองหลัก โหมโรงก่อนที่สภาจะเริ่มพิจารณาระเบียบวาระที่ 1 เรื่องนิรโทษกรรมในวันที่ 7 ส.ค.

"ต่อจากนี้ขอนัดหมายให้พี่น้องผู้รักความเป็นธรรม รักความจริง พี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัดจัดกระเป๋าเข้าเมืองมาได้แล้ว" เป็นสัญญาณที่ชัดเจนของ "สาธิต" บนเวทีผ่าความจริงเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

2 ยุทธศาสตร์ที่ถูกเลือกใช้ในการต่อต้านครั้งนี้ถูกคัดกรอง-คัดลอกตาม "อียิปต์โมเดล" ที่เพิ่งผ่านพ้นความสำเร็จในการปฏิวัติอำนาจเผด็จการ หลังจากมวลชนเคลื่อนไหวผ่าน "อาหรับสปริง" สู่การเมืองเมื่อ 2 ปีก่อน

หนึ่ง ปลุกระดมประชาชน โพสต์รูปผ่านโลกออนไลน์ เขียนป้ายประท้วง ระบุข้อความ "เราไม่เอากฎหมายล้างผิดคนโกง"

สอง นัดรวมพลกันริมถนน ยืนประท้วงแบบอารยะขัดขืน เพื่อแสดงพลังของประชาชนในการต่อต้านกระบวนการทั้งปวง

"สถานการณ์ไทยวันนี้มันคล้ายกัน พ.ต.ท.ทักษิณและพวก ใช้เครือข่ายอำนาจรัฐ นักวิชาการ สื่อ และนักการเมืองที่เป็นขี้ข้า ข่มขู่เราทุกวัน ถ้าวันที่ 4-7 ส.ค.ไม่มีคนออกมาร่วมต่อต้าน จำไว้เลยนั่นคือจุดหายนะของคนไทยทั้งประเทศ"

สอดคล้องกับแนวคิดของหัวหน้าพรรค-ผู้นำฝ่ายค้านอย่าง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"ที่เล็งเห็นแต่แรกว่า ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่ค้างอยู่ในสภา ไม่ว่าจะฉบับไหน ต่างก็มีจุดหมายปลายทางเพื่อช่วย "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" กลับบ้านเช่นเดียวกัน

"ผมยังยืนยันว่า จะทำอะไรหลังจากนี้ต้องไม่เสียหลักการของบ้านเมือง ต้องอดทน สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดคือการยั่วยุให้เกิดความสูญเสีย เราต้องตั้งสติให้ดี แต่จุดยืนพวกผมยังชัดเจนว่า จะไม่สร้างความวุ่นวาย ไม่ได้มาไล่รัฐบาลหรือนายกฯ แต่เราจัดต่อต้านการกระทำที่ไม่ชอบธรรม"

"ผมเคารพความคิดของกลุ่มอิสระทุกกลุ่ม แต่เราต้องเคารพความเป็นเอกภาพงานถึงจะสำเร็จ พวกผมจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ ขอให้เริ่มต้นขบวนการอย่างเป็นเอกภาพ และเดินไปข้างหน้าอย่างมีพลัง"

"เราไม่ต้องการสร้างความรุนแรง นี่ไม่ใช่เรื่องอารมณ์ แต่นี่เป็นเรื่องการแสดงออกถึงพลังพี่น้องประชาชนที่รักชาติ ว่าเราพร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ ในเมื่อสถานการณ์บีบให้เราทำเช่นนั้น"

เช่นเดียวกันกับ "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่ประกาศลั่นว่า ทันทีที่เสียงนกหวีดของประชาชนดังขึ้น เขาจะออกมายืนอยู่แถวหน้า เพื่อร่วมต่อสู้กับประชาชน

"ตอนนี้ไม่มีที่ตรงกลางให้ยืน มีแต่จะเลือกว่าจะยืนอยู่ข้างนี้ หรือจะไปยืนอยู่อีกข้างเท่านั้น ไม่มีที่ไหนในโลกที่อาชญากรฆ่าคน คนวางเพลิง ลักทรัพย์คนอื่น แล้วไม่ต้องรับผิด แต่มันกำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทยด้วยกฎหมายล้างผิดที่รัฐบาลกำลังจะเข็นให้ผ่านสภาให้ได้"

"สุเทพ" บอกว่า จากประสบการณ์การเมือง 35 ปี ยังเคารพหลักประชาธิปไตย และไม่มีความคิดล้มล้างรัฐบาล แต่ครั้งนี้คือการต่อสู้เพื่อปกป้องไม่ให้อำนาจของประชาชนถูกใช้ในทางที่ผิด

"เราต้องลุกขึ้นมาแสดงพลังเพื่อให้รัฐบาลได้คิด แต่ถ้ายังดื้อยังจะออกกฎหมายล้างผิดพวกตัวเอง ยืนยันว่าจะสู้ จะต่อต้าน แต่เราจะใช้สมองใช้หัวใจ ไม่ใช่พวกอันธพาล ไม่ใช่อาชญากรอย่างพวกมัน แต่เราจะลุกขึ้นมาแสดงพลังของเรา"

"นี่คือสิ่งที่กราบเรียนให้ชัดเจน บอกกับพี่น้องว่า ประเทศไทยไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของตระกูลชินวัตร การที่ลุกขึ้นต่อสู้ไม่ใช่เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง ไม่ใช่เพื่อพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่เราจะต่อสู้เพื่อประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรา"

ทั้งคำพูดของ "อภิสิทธิ์" ทั้งคำพูดของ "สุเทพ" และคำพูดของ "สาธิต"ล้วนเป็นการปลุก "พลพรรคสีฟ้า" ขึ้นมาต่อต้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรม

ทั้งหมดเป็นแผนรบเพื่อรุกต้านรัฐบาล ที่พรรคประชาธิปัตย์ เชื่อมั่นว่าจะสามารถฉุดร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้สะดุด

ไม่มีความคิดเห็น: