คำต่อคำ: "สนธิญาณ -สว.สมชาย" เชื่อสภาเดินหน้าโหวตร่างแก้ไขรธน.เรื่องที่มาของส.ว.วาระ 3 โดยไม่สนศาลรัฐธรรมนูญ เหตุต้องการเร่ง เขาสามารถบังคับใช้ได้เลย เตือนเจอข้อหากบฎเลยแน่ ??
วันนี้ ( 26 กันยายน ) รายการคมคนคิด คุยกับสนธิญาณ โดย สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม และ บุญระดม จิตรดอน ได้พูดคุยเกี่ยวกับประเด็น สภาเดินหน้าโหวต ไม่สนศาลรัฐธรรมนูญ ก่อกบฏหรือไม่ ? ร่วมด้วย นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา โดยมีรายละเอียดดังนี้
บุญระดม : ต้องถือว่าวันนี้เป็นประเด็นร้อนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งหมดมีกี่คำร้อง
สมชาย : คือเขาแก้ไขรัฐธรรมนูญเฉพาะกลุ่มมาตรา เดิมเขาแก้มาตรา 291 เพื่อจะรื้อรัฐธรรมนูญทิ้ง โดยตั้งสสร.ขึ้นมาใหม่ อันนั้นแก้ไขมาตรา 291 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเรียบร้อยแล้ว ศาลมีอำนาจรับคำร้องจากพี่น้องประชาชนโดยตรง อันนี้เขาก็มาแก้ใหม่เป็น 3 อัน กลุ่มที่ 1.แก้ไขมาตรา 68 ที่พวกผมไปยื่น พอเราใช้ช่องนี้ไปยื่น เขาก็จะแก้ไม่ให้เรายื่น
สนธิญาณ : ต้องทำความเข้าใจมาตรา 68 ก่อนว่า เป็นมาตราหนึ่งที่ให้อำนาจกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ การถ่วงดุล การใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้อง
สมชาย : ช่องทางในการแก้คือช่องทางมาตรา 291 ส่วนมาตรา 68 เป็นมาตราช่องทางในการร้อง เพื่อไม่ให้มีใครมาแก้ไขทำตามใจชอบ มาล้มรัฐธรรมนูญ แต่การแก้ไขปกติทำได้ จึงมีองค์กรองค์กรหนึ่งไว้ ทำหน้าที่ในการวินิจฉัยและตรวจสอบรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกิดจากรัฐธรรมนูญ อันนี้เป็นสากล เหตุผลก็คือว่า ที่ต้องมีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มาจากเยอรมัน สมัยหนึ่งฮิตเลอร์ได้ใช้เสียงข้างมาก ฮิตเลอร์ใช้เสียง 2 ใน 3 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีวาจาที่คม ไปหว่านล้อม แล้วจนกระทั่งแก้รัฐธรรมนูญมอบอำนาจให้กับฮิตเลอร์ จากนั้นก็นำประเทศเข้าสู่สงครามโลก คนเยอรมันทั้งหมดจึงกำหนดให้มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเพื่อถ่วงดุลเสียงข้างมาก ปัจจุบันประเทศไทยก็มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแบบเดียวกันไว้ถ่วงดุล ช่องทางประเทศไทยก็เหมือนกัน ทำไม่ได้ ถ้าทำต้องไปถามประชามติก่อน เพราะสภาเป็นองค์กรที่เกิดภายใต้รัฐธรรมนูญ คนที่ให้กำเนิดรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็คือ มติของมหาประชาชนที่ได้ลงประชามติแล้ว ดังนั้นถ้าคุณจะล้มรัฐธรรมนูญก็ต้องไปถามประชาชนก่อน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม
สนธิญาณ : แล้วทำไมตอนนี้เขาไม่ไปทำ
สมชาย : การโหวตก็ยังอยู่ในสภา ผมบอกว่า โหวตเลย เพราะถ้าโหวตแล้วกลัวว่าจะมีคำวินิจฉัยของศาลตามหลังมา มาตรา 68 เสร็จไป 2 เดือนกว่าแล้ว กลุ่มที่ 2. มาตรา 190 ซึ่งเราสงสัยในการตกลงกับเพื่อนบ้านกัมพูชา แก้ไขเสร็จแล้วก็ไม่ให้เอาเข้า เรามองดูแล้ว กลุ่มที่มีปัญหาน่าจะเป็นกลุ่ม 40 สว. ที่โหวตกัน ที่นี้ในรัฐธรรมนูญบัญญัติให้มีส.ว.เลือกตั้งมากกว่าครึ่งหนึ่ง ก็คือใน 150 คน มีสว.เลือกตั้ง 77 คน มีส.ว.สรรหา 73 คน ส.ว.เลือกตั้งก็มาจากผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำจังหวัด ดังนั้นจึงเอาส.ว.เลือกตั้งที่เป็นหอกข้างแคร่ออกเสีย ให้เป็น 200 คน แก้ไขคุณสมบัติ ข้อที่ 1. สมาชิกพรรค ลาออกวันนี้ พรุ่งนี้ก็สามารถสมัครได้เลย ข้อที่ 2. เอาสามีภรรยาลูกเมียมาลงได้เต็มที่ ข้อที่ 3. สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบันเขาให้เป็นแค่ 1 วาระ แล้วเว้นไป 6 ปี เพื่อป้องกันการเป็นผู้มีอิทธิพล
สนธิญาณ : ต้องเรียนท่านผู้ชมนะครับว่า การมีวุฒิสภาเพื่อให้เกิดการถ่วงดุลแม้แต่ในรัฐสภา ถึงต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน ถ้ามันเหมือนกันหมด แล้วมันจะมี 2 สภาทำไม
สมชาย : ทีนี้วุฒิสภาที่ถูกออกแบบตรงนี้ ก็แก้ไขมาจากรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่มีข้ออ่อน ทำให้เกิดการปฏิวัติรัฐประหารเลยนะครับ เพราะองค์กรอิสระถูกแทรกแซง โดยข้อที่ 1. วุฒิสภามีหน้าที่เลือกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 5 คน ข้อที่ 2. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)ที่มีหน้าที่ตรวจสอบทุจริตวุฒิสภา ดังนั้นถ้าปปช.เป็นคนของตัวเองก็เรียบร้อย ข้อที่ 3. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็มาจากการเลือกตั้งของสว.
สนธิญาณ : ดังนั้นในปี 2540 คุณทักษิณจึงเข้าควบคุมวุฒิสภาเรียบร้อย
สมชาย : ในตอนนั้นมีการเลือกตั้งสว. 200 ท่าน ช่วงแรกปี 2543 ก็ดี ช่วงนั้นสว.ชุดแรกทำท่าว่าจะดี ยังมีอำนาจแต่งตั้งมีอำนาจถ่วงดุล สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ มีสว.บางท่านถูกควบคุมเป็นสภาทาส เป็นสภาผัวเมีย ที่สำคัญคือคุณทักษิณมาปี 2544 ด้วยทักษะการใช้อำนาจช่องว่าง ปี 2550 เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแบบเดิม สามีภรรยากลับไปเหมือนเดิม อันนี้คือชุดเดิม ใครที่เป็นประธานวุฒิสภาก็เป็นเหมือนเดิม
สนธิญาณ : ความหมายที่เราพูดกัน ประเด็นที่ต้องย้ำการแก้ที่มาสว.เพื่อเบ็ดเสร็จทั้งสภา
สมชาย : เราไม่ได้ใช้การเลือกตั้งทุกระดับนะครับ เพราะผบ.ทบ. ก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
สนธิญาณ : ลองลำดับความก่อนว่า สว.สรรหามีขั้นตอนอย่างไร
สมชาย : สว.สรรหามาจากกลุ่มวิชาการ 5 อาชีพ มีกลุ่มข้าราชการเก่า แต่ละองค์กรต้องคัดสรรมาก่อน การคัดสรรอาจจะใช้วิธีการต่างๆ ตามข้อบังคับขององค์กร ไม่ค้ากำไร เช่น สภาทนายความ ไม่ได้มาง่ายๆ ในกลุ่มนั้นก็มีคนแข่งขันกันอีก ก็มาที่คณะกรรมการตุลาการ 7 ท่าน จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา คนที่ได้มาไม่รู้ว่าเป็นใคร เลือกมาให้เหลือ 1 คน มี 7 องค์กรกลุ่มตุลาการ ทั้งหมดก็ต้องคัดเลือกจากลุ่มอาชีพต่างๆ ต้องมีการโหวต
สนธิญาณ : ความหมายที่ผมพยายามเรียนไม่ได้หมายความว่า ใครมาสมัครก็ได้ มันมีขั้นตอน ทำแบบนี้เพื่อให้เกิดการถ่วงดุล สว.มีอำนาจในการถ่วงดุลสส. เมื่อเป็นก้างขวางคอคุณทักษิณก็ต้องขจัดออกไป เพราะองค์กรอิสระกำลังไปตรวจสอบรัฐบาล กลายเป็นว่า ขณะนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยแล้ว
สมชาย : พอเป็นแบบนี้เขาเปลี่ยนให้เป็น 200 คน สส.ไม่ต้องเรียนจบปริญญาตรีก็ได้ แต่สว.ต้องมี สส.มีเขตเลือกตั้งเล็กกว่า แต่สว.ใหญ่กว่า
สนธิญาณ : ในจ.นครศรีธรรมราชน้ำหนักน่าจะมาจากพรรคปชป. ในอุดรธานีน้ำหนักมาจากพรรคเพื่อไทย
สมชาย : 120 หรือ 150 คน เลือกศาลปกครองสูงสุด เลือกมาจากนักการเมืองอย่างเดียวก็ควบคุมได้แล้ว
บุญระดม : ทีนี้ก็เข้าสู่กระบวนการโหวตในเสาร์นี้
สมชาย : ของผมจะแตกต่างไปบ้างจากคนอื่น ซึ่งมันมองคนละมุมคนละประเด็นกัน
สมชาย : ศาลไม่ให้ความคุ้มครอง ต้องการเอาสว.ชุดนี้ออกไป ชุดนี้หมดไปวันที่ 2 มีนาคม 2557 การแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ แต่ทำแล้วต้องตกผลึก สว.ชุดนี้ได้ประโยชน์ อันนี้เขาเร่งให้ทันให้ได้ หลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้วกำหนดให้ 120 วัน ที่เจ็บใจก็คือให้นำความมาตรา 150-151 มาใช้ หมายถึงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือพ.ร.บ.ไม่ต้องผ่านศาลรัฐธรรมนูญด้วย อันนี้อันตรายมาก และเอาไปทูลเกล้าฯ ถ้ายังไม่โปรดลงมาอีก ก็เอาไปใช้ได้เลย
สนธิญาณ : ความหมายการปกครองประชาธิปไตย ฝ่ายนิติบัญญัติในแง่หากพิจารณากฎหมายไปแล้ว เรายังให้สิทธิพระองค์ท่านวินิจฉัยว่า เหมาะสมหรือไม่ ถ้าหากพระองค์ไม่ทรงลงพระพวกนี้ท่านก็จะยื่นไปแล้ว ผมเรียนก่อนหน้านี้อย่างสม่ำเสมอ เที่ยวนี้ต้องการบรรลุให้ได้ ถ้าดูเราจะรู้ว่า มีความคิดซ่อนเร้น ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ทักษิณต้องการควบคุมอำนาจไว้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด
สมชาย : สิ่งที่จะเกิดขึ้นเขาโหวตแน่นอน พวกเราก็ต้องยื่นต่อประธาน พวกเขาจะไม่รับ อันนี้จะเกิดวิกฤติ มาตรา 154 หน้าที่ของประธานรัฐสภาต้องคัดค้าน อันต่อมาต้องลงเสียงข้างมาก สิ่งที่ยื่นไป 1. มีประเด็นที่ภาระไม่สะอาดกฎหมายมีข้อผิดพลาด เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจ มีการทุจริต มีการกระทำในหลายมาตราที่กำลังกระทำ เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ถูกต้อง แต่เราเอาเรื่องนี้ไปส่งให้พระองค์ท่าน
สนธิญาณ : ความหมายที่เราพูดกันวิกฤติที่เกิดขึ้นจะเกิดหรือไม่ ต้องติดตามดู สงสัยว่าจะเกิดวิกฤติยังไง นับถอยหลังอีก 11 วัน ที่นี้มันจะไปเกี่ยวข้องยังไง ความหมายที่เกิดขึ้นและไปสะเทือนคนไทย เรียกว่า พวกนี้ร่างรัฐธรรมนูญกฎหมาย เตรียมหักหาญสถาบันพระมหากษัตริย์ ความพยายามในการที่จะหักหาญนั้น เพื่อแก้ที่มาของสว.ให้ตัวเองสามารถคุมอำนาจได้
สมชาย : สมมุติว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว และโปรดเกล้าฯลงมา สิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้ 120 วัน จะต้องมีการร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสส. และ ส.ว. มาตรา 11 เขาเขียนว่าภายใน 120 วันต้องดำเนินการให้เสร็จ เมื่อครบกำหนดตามระยะเวลา หรือมีเหตุอันอื่นใด เวลาก็ยืดยาวออกไป มีคนไปส่งศาลรัฐธรรมนูญ พรบ.ทุกฉบับต้องส่งตรงไปศาลรัฐธรรมนูญยกเว้นฉบับนี้ ทำให้รัฐสภาไม่สามารถนำร่างดังกล่าวนำขึ้นทูลเกล้าลงปรมาภิไธย 20 วันนับตั้งแต่าวันรับร่าง รัฐมนตรีนำขึ้นได้เลย เขาไปหยิบร่างทูลเกล้าได้เลย สิ่งที่เกิดขึ้นคือปัญหา และให้ใช่มาตรา 151 บังคับใช้ได้เลย ถ้าไม่ทรงเห็นชอบด้วย รัฐสภาก็ต้องปรึกกัน และให้นายกฯนำพรบ.ขึ้นทูลเกล้าอีกครั้งหนึ่ง
ผมเรียนแบบนี้ครับ ความหมายอยากจะเรียนว่า อันนี้เป็นกลไกลตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ขั้นตอนกฎหมายมันไปด้วยหลักการที่ถูกต้อง วุฒิสภากลั่นกรอง เมื่อไปถึงพระองค์ท่านมีอะไรที่ไม่ถูกต้องท่านก็ทักท้วงมา อันนี้เป็นเรื่องที่ชัดเจน ต้องการถ่วงดุลอำนาจ ภายใต้ระบอบทักษิณ มีคนจำนวนหนึ่งที่ต้องการต่อต้านพระมหากษัตริย์ เขาต้องรอ 120 วันหรือไม่
สมชาย : เขาต้องรอครับ เพราะเขาต้องการเร่ง เขาสามารถบังคับใช้ได้เลย วิกฤติแรกที่เกิดขึ้นในวันที่ 28 สภาโหวตแน่ เหมือนเขาต้องการเสียง เสียงที่ต้องการ 325 ผ่านสบาย สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือสว.กลุ่มหนึ่งต้องยื่นตามมาตรา 154 เขาเตรียมแล้วแต่ไม่รับ บางคนบอกว่าจะไม่รับเพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยแล้วว่าจะไม่รับ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ประธานสภาส่งให้นายกฯเลย ภายใน 120 วัน เพื่อไม่ให้เกิดการขัดขวางของตุลาการ
สนธิญาณ : ผมเรียนแบบนี้ โดยพฤติกรรมทักษิณที่ทำอยู่น่าเป็นห่วง เขาควรจะถอย การที่เขาไม่ชนะ ไม่ถอย อันนี้ยังมีปมอยู่ชัดเจน เหตุผลก็คือ ต้องการสู้รบ เขาต้องการเป็นคู่กรณี ทีนี้ประเด็นเขาคิดว่า ฝ่ายพลังประชาชนอ่อนแอ ผมถึงต้องเรียนท่านสมชาย ท่านพูดตามกฎหมาย คำวิจฉัยมีผลต่อศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องกดบัตรแทนกัน เรามาดูคลิปเลยว่า เป็นยังไง คนที่นั่งเป็นสส.เพื่อไทย คุณยุทธพงศ์ จรัสเสถียร เป็นคนแรกที่มารับบัตร คนที่ 2.ยังไม่รู้ และนักข่าวอยู่ข้างบน นักข่าวถ่ายเอาไอแพดบังไว้ ปกติจะกดคนละข้าง แต่อันนี้กด 4 ใบ ตอนกดปุ่มมีเสียงคุณนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ประกาศอยู่ ตอนนั้นประกาศมาตรา 9 มาตรา 10 กดเหมือนบัตรเอทีเอ็ม กดกันคนละพัน เขากดปุ่ม มันจะ record ทันที
สนธิญาณ : สมาชิกสว.มีเอกสิทธิ์ในการโหวต มีเสียง 1 เสียงเท่านั้น ผิดทั้งอาญา ผิดทั้งหน้าที
สมชาย : รัฐธรรมนูญตอนนี้ถือว่าเป็นโมฆะแล้ว เขาก็พยายามหาข้ออ้าง คุณพีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ฐานก่อการกบฏ
บุญระดม : พิสูจน์ได้ยังไงคะ
สมชาย : มันไม่ยากครับ มันเหมือนกับเครื่องเอทีเอ็ม พยานบุคคลรู้ตัวหมดแล้ว ออกมายอมรับแล้ว โปรแกรมเป็นโปรแกรมที่ปกติ เดี๋ยวก็รู้ว่าใครที่เป็นคนปกปิด ประธานรัฐสภา หรือ เลขาธิการรัฐสภา โปรแกรมจะถูกล้างด้วยคำสั่งใคร ก็จะเรียกเจ้าหน้าที่มาให้การ ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่บอก เจ้าหน้าที่ก็โดนเอง แต่ว่าอำนาจมันอยู่ในมือของเลขาธิการรัฐสภา และประธานรัฐสภา
สนธิญาณ : วันนี้สิ่งที่คุณสมชายได้มาขยายความฟัง ทำให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ที่เหลือรอแม่หมอ ประชาชนต้องออกมาแสดงความเห็นให้ถูกต้อง จะวิกฤติหรือไม่ก็ต้องรอดูประชาชนเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น