PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557

ปึ้ง'หวั่นกกต.ฟัน'ปู'ใช้ตำแหน่งหาเสียง

ปึ้ง'หวั่นกกต.ฟัน'ปู'ใช้ตำแหน่งหาเสียง

'สุรพงษ์' หวั่น 'กกต.' ฟัน 'นายกฯ' ปมใช้ตำแหน่งหาเสียงเลือกตั้ง เตรียมหารือผู้บริหารกต.พรุ่งนี้ หลังขรก.ออกหนังสือค้านเชิญเลขาฯยูเอ็น

13 มี.ค. 57 เวลา 10.00 น. ที่บช.ปส. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษาศรส. กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติแจกใบเหลืองให้กับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ว่า ถ้าวิเคราะห์ในเชิงการเมือง กกต.อาจพยายามทำให้เหมือนว่าไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด ไม่ได้เลือกฟังใคร การที่ตัดสินใจฟัน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็อาจจะนำมาเป็นข้ออ้างในการใช้ฟันนายกฯ ในกรณีหาเสียงในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ตนก็ไม่สบายใจ แต่คิดวันนี้กระบวนการยุติธรรมจะต้องพิสูจณ์ตัวเองใครทำอะไรก็ต้องตัดสินให้เป็นธรรมมากที่สุด
เตรียมหารือผู้บริหารกต.พรุ่งนี้ หลังขรก.ออกหนังสือค้านเชิญเลขาฯยูเอ็น
นายสุรพงษ์ กล่าวถึงกรณีข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ออกจดหมายเปิดผนึกถึงผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อคัดค้านการเชิญนายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มาร่วมแก้ปัญหาความขัดแย้งในประเทศ ว่า ตนอ่านจากข่าว ถึงข้อห่วงใยการดึงเลขาฯยูเอ็นเข้ามา ตนคิดว่าคงเกิดจากความไม่เข้าใจ อาจจะไม่ได้รับทราบข้อมูลที่ชัดเจน จึงอยากฝากว่า สิ่งที่ตนตั้งใจคือประเทศไทยเกิดความวุ่นวาย ความรุนแรงจากการประท้วง มีการใช้อาวุธ และวิธีการต่างๆ อันก่อให้เกิดความแตกแยก ถ้าเกิดสงครามกลางเมืองขึ้น ท้ายที่สุดยูเอ็นก็จะต้องเข้ามาอยู่ดี ฉะนั้นสิ่งที่ตนได้ทำหนังสือถึงเลขาฯยูเอ็น เนื่องจากท่านมีแถลงการณ์ประณามการทำร้ายประชาชน โดยเฉพาะเด็ก และแสดงความเอื้ออาทรอยากเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ตนจึงตอบรับแถลงการณ์ฉบับนั้น เพราะยูเอ็นมีประสบการณ์ถึงความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นนานาประเทศ จึงได้ขอให้มาช่วยเป็นคนกลางในการพูดคุยกับฝ่ายต่างๆ เพราะตนไม่ต้องการเห็นคนไทยแตกแยก และมีความรักประเทศ และการที่ตนดำเนินการดังกล่าว เพราะเป็นประธานที่ปรึกษาศรส. ได้ติดตามสถานการณ์ความวุ่นวายในประเทศเป็นเวลา 4 เดือน
"ผมเข้าใจฝ่ายที่แสดงความห่วงใย แต่ท่านจะมีความรู้ในแง่ความขัดแย้งต่างๆ ดีเท่ากับผมหรือไม่ ท่านต้องถามตัวเอง และในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.) ผมจะประชุมผู้บริหารของกระทรวง ว่าแต่ละฝ่ายมีความคิดเห็นอย่างไร เนื่องจากจดหมายเปิดผนึกได้ทำถึงผู้บริหารกระทรวง แต่ในฐานะที่ผมเป็นผู้บริหารสูงสุดในกระทรวงการต่างประเทศ การตัดสินใจเรื่องต่างๆ ผมต้องรับผิดชอบ เพราะผมตั้งใจจะนำประเทศให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรม โดยไม่ต้องสูญเสียอะไร พวกที่คิดหนักคือพวกที่กลัว กลัวความจริงจะปรากฏ กลัวบัน คีมุน จะมาล้วงความลับตัวเองหรืออย่างไร ทำไมเราต้องปิดบังโลก แล้วให้ยูเอ็นเข้าไปทีหลัง อย่างประเทศยูเครน ซีเรีย ทำไมไม่รู้จักเอาเขามาใช้ก่อน ต้องรอให้เด็กตีกันแล้วครูออกมาห้ามหรือ อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าปลายเดือนนี้ประเทศจะสงบ อาจจะเป็นเพราะการที่ตนเชิญเลขาฯยูเอ็นเข้ามาก็ได้ เพราะมีคนกลัวความจริงเปิดเผย เลยตัดสินใจเลิกชุมนุม เพราะบางคนกลัวฝรั่งคิดว่าฝรั่งเป็นพ่อ แต่อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่กลัวเพราะบอกไว้ว่ายูเอ็นไม่ใช่พ่อ"
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางเลขาฯยูเอ็น ยังไม่ได้ให้การตอบรับมา เนื่องจากติดภารกิจอยู่ที่แอฟริกา และตนจะขอรอคำตอบก่อน ถ้าเลขาฯยูเอ็นพร้อมเข้ามา ตนก็ต้องจัดรายการให้ว่าแล้วจะพบใครบ้าง อาจจะเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. กกต. เพราะวันนี้มีกระบวนการใช้องค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรมที่พยายามไม่ให้ความเป็นธรรม โดยการพูดคุยนั้นไม่ได้เจาะจงเนื้อหาสาระ แต่กระบวนการที่เกิดขึ้นขณะนี้เราก็ต้องเอาความจริงพูดให้ฟัง แต่ถ้าเลขาฯยูเอ็นไม่มีประสบการณ์ก็จะบอกเราว่าไม่มีประสบการณ์ ในการแนะนำ
ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าผู้บริหารของกระทรวงการต่างประเทศแสดงความไม่เห็นด้วยในการเชิญเลขาฯยูเอ็น จะมีการพิจารณาการเชิญใหม่หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนตัดสินใจทำหนังสือเชิญ ในฐานะรัฐมนตรี เหมือนครั้งที่ตนทำเรื่องประสาทพระวิหาร แม้ผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศไม่เห็นด้วย แต่เมื่อตัดสินใจไปแล้ว ทั้งการเปิดเผยข้อเท็จจริง และถ่ายทอดสดการอ่านคำพิพากษา คนไทยจึงได้รู้ความจริง ซึ่งรัฐบาลก่อนไม่เคยคิดทำ บังเอิญโชคดีที่ตัดสินใจถูกเลยแก้ไขปัญหาประสาทพระวิหารได้สำเร็จ ทั้งนี้ไม่ใช่การที่ใครบางคนสะกิดสะเกาขึ้นมาแล้วความคิดของคนนั้นจะถูกเสมอไป แต่เมื่อถึงจุดสุดท้ายที่ต้องตัดสินใจ คนที่ตัดสินใจก็อาจจะโชคดี เหมือนคดีประสาทพระวิหารก็เป็นได้
"เราล้าหลังมามาก และไม่ได้เป็นผู้นำอาเซียนอีกต่อไป โครงการรถไฟความเร็วสูงศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ให้ผ่าน ความเชื่อมั่นต่างชาติก็ถดถอย เราก็ต้องรับกรรมพร้อมกัน วันนี้ประเทศไทยต้องเปิดเผย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด มันไม่ใช่ของพวกเราคนใดคนหนึ่ง เราต้องรับผิดชอบร่วมกัน คนเราต้องรักชาติด้วยความจริงใจ ไม่ใช่รักจนน้ำลายหก"


ไม่มีความคิดเห็น: