เบื้องหลัง! มติตุลาการ 14 ต่อ 8 เสียงคืนตำแหน่งเลขาฯ สมช. “ถวิล”
เบื้องหลัง! มติตุลาการ 14 ต่อ 8 เสียงคืนตำแหน่งเลขาฯ สมช. “ถวิล เปลี่ยนศรี ” ชี้เพิกถอนคำสั่งโอนผู้ฟ้องคดีมีผลในทางนิตินัยเท่านั้น
ภายหลังศาลปกครองสูงสุดอ่านคำพิพากษาคดีที่นายถวิล เปลี่ยนศรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ( ก.พ.ค.) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จากการมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 152/2554 ลงวันที่ 7 ก.ย.54 ให้นายถวิลพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยศาลมีคำพิพากษาให้ผู้ฟ้องคดีได้กลับสู่ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษานั้น
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบรายละเอียดคดีดังกล่าวเพิ่มเติมจากสำเนาคำพิพากษาอุทธรณ์ ศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขดำที่ อ.992/2556 คดีหมายเลขแดงที อ.33/ 2557 ในส่วนความเห็นแย้งของคณะตุลาการศาลปกครองสูงสุดฝ่ายเสียงข้างน้อย 8 เสียง ที่ไม่เห็นพ้องด้วยกับมติของตุลาการศาลปกครองสูงสุดฝ่ายเสียงข้างมาก 14 เสียง
พบว่ารายชื่อคณะตุลาการในศาลปกครองสูงสุดฝ่ายเสียงข้างน้อย 8 ประกอบด้วยนายชาญชัย แสวงศักดิ์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุดและตุลาการเจ้าของสำนวน, นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด, นายวิษณุ วรัญญู ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด, นายนพดล เฮงเจริญ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด, นายวราวุธ ศิริยุทธ์วัฒนา ตุลาการศาลปกครองสูงสุด, นายสมรรถชัย วิศาลาภรณ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด, นายประวิตร บุญเทียม ตุลาการศาลปกครองสูงสุด และ นายสมชัย วัฒนการุน ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
ความเห็นแย้งของตุลาการเสียงข้างน้อย มีใจความตอนหนึ่งระบุถึงเหตุผลที่ไม่เห็นพ้องด้วยกับมติของที่ประชุมใหญ่ ตุลาการศาลปกครองสุงสุดฝ่ายเสียงข้างมากว่า เนื่องจากข้อเท็จจริงในคดีนี้ พบว่าภายหลังจากที่ได้มีการโอนผู้ฟ้องคดี ( นายถวิล เปลี่ยนศรี ) ให้พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติแล้วก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวมาเป็นพลตำรวจเอกวิเชียร พจน์โพธิ์ศรี และได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว จาก พลตำรวจเอก วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี มาเป็นพลโท ภราดร พัฒนถาบุตร ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่มิได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการพิพากษาคดีนี้ และได้เข้าดำรงตำแหน่งดังกล่าวโดยสุจริต โดยไม่มีผู้ใดนำคำสั่งแต่งตั้งพลโทภราดร พัฒนถาบุตร มาฟ้องคดีต่อศาลปกครองเพื่อขอให้เพิกถอน
ดังนั้น การที่ศาลปกครองพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งโอนผู้ฟ้องคดีโดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่คำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับ ก็ย่อมจะมีผลกระทบต่อการดำรงตำแหน่งดังกล่าวของ พลโทภราดร พัฒนถาบุตร และอาจมีผลกระทบต่อความต่อเนื่อง ของการปฏิบัติราชการของผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติตามภารกิจต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและจากรัฐบาลได้
ตุลาการเสียงข้างน้อยเห็นว่า การเพิกถอนคำสั่งโอนผู้ฟ้องคดีให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่คำสั่งโอนมีผลบังคับ ก็มีผลในทางนิตินัยเท่านั้น แต่มิได้มีผลในทางพฤตินัย เพราะในตามความเป็นจริง ไม่อาจย้อนเวลากลับไปหาอดีตได้อีกแล้ว
ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดฝ่ายเสียงข้างน้อย จึงไม่เห็นด้วยกับมติของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลลปกครองสูงสุด ฝ่ายเสียงข้างมาก ที่ให้เพิกถอนประกาศสำนักนายกฯ
นอกจากความเห็นแย้งดังกล่าวแล้ว ยังมีความเห็นแย้งเฉพาะตนประเด็นหนึ่งของนายวิษณุ วรัญญู ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด ที่เปิดเผยในสำนวนคำพิพากษา มีใจความตอนหนึ่งระบุว่าในชั้นพิจารณาของศาลปกครองชั้นต้น ผู้ฟ้องคดีมิได้นำเสนอประกาศสำนักนายก ลงวันที่ 30 กันยายน 2554 ต่อศาล จึงเป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้น หยิบยกขึ้นมาพิจารณาโดยพลการ เอกสารดังกล่าวเพิ่งมาปรากฏในสำนวนในชั้นพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด โดยศาลได้มีหมายเรียกให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1นำส่งเอกสารดังกล่าวต่อศาล และประการสำคัญ ผู้ฟ้องคดีมิได้มีคำขอท้ายฟ้องขอให้มีการเพิกถอนประกาศสำนักนายกฯ ลงวันที่ 30 กันยายน 2554 การที่ศาลปกครองชั้นต้น และศาลปกครองสูงสุด หยิบยกประกาศสำนักนายกฯ ฉบับดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาและมีคำพิพากษาเพิกถอน นายวิษณุ วรัญญู จึงไม่เห็นด้วย
เนื่องจาก “กรณีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 30 กันยายน 2554 ผู้ฟ้องคดีมิได้ระบุขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 30 กันยายน 2554 การที่ศาลปกครองชั้นต้น และศาลปกครองสูงสุด หยิบยกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ลงวันที่ 30 กันยายน 2554 ขึ้นมาพิจารณาร พิพากษาเพิกถอน จึงเป็นการพิพากษาเกินคำขอ"
“โดยที่ประเด็นเรื่องการพิพากษาเกินคำขอ เป็นข้อกฎหมายสำคัญ และเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย อันศาลปกครองสูงสุด หยิบยกขึ้นพิจารณาได้เอง แม้คู่กรณีจะมิได้กล่าวอ้างในอุทธรณ์ จึงเห็นด้วยที่ที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดไม่หยิบยกประเด็นนี้ ขึ้นพิจารณา"
นอกจากนี้ นายวิษณุ วรัญญู ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด แสดงความเห็นแย้งในคดีนี้ด้วยว่าควรมีคำสั่ง
"จำหน่ายคดีนี้ออกจากสารบบความ"
ภาพประกอบจาก webboard.serithai.net
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น