PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เบื้องหลังประวิตรไปจีน ดีลเศรษฐกิจของสมคิด

 เบื้องหลังประวิตรไปจีน ดีลเศรษฐกิจของสมคิด


CC 192
สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ – แม้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะลงทุนตั้งโต๊ะแถลงข่าวทันทีที่ลงเครื่องกลับมาจากประเทศจีนว่า การเดินทางไปจีนของตนและคณะไม่ได้มีการพบปะกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจีนพร้อมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในช่วงเดียวกับที่ พล.อ.ประวิตรและคณะเดินทางไปถึง
แต่ดูเหมือนหลายฝ่ายก็ยังไม่เชื่อ
ก่อนหน้านั้น ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็ออกมาปฏิเสธแทน “พี่ป้อม” ซึ่งกำลังอยู่ในจีนว่า ไม่มีการพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แน่นอน
แต่ก็ยังเอาไม่อยู่กับความแรงของกระแสข่าวการพบกันและความเชื่อว่ามีการพบกันจริง
ทำไมกระแสข่าวนี้จึงถูกเชื่อว่าเป็นจริง
ประการหนึ่ง เป็นเพราะมี “สัญญาณปรองดอง” ระหว่าง คสช. กับขั้วทักษิณเกิดขึ้นมากมายและเด่นชัดจนรู้สึกได้นับตั้งแต่ คสช.ยึดอำนาจวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา โดยฝ่ายหนึ่งมอบ “ดอกไม้ที่ปลายปืน” ให้หลายดอก ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็มอบดอกไม้กลับไปให้หลายดอกเช่นกัน
สัญญาณปรองดองที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความเชื่อว่า ได้มีการพูดคุยตกลงกันในทางลับระหว่างสองฝ่ายแล้ว และน่าจะมีการพบปะกันระหว่างบุคคลสำคัญของสองฝ่ายในไม่ช้า ดังนั้น พลันที่ พล.อ.ประวิตร ไปจีนในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ในจีน ความเชื่อว่ามีการพบกันระหว่างทั้งสองคนจึงเกิดขึ้นทันที เพราะ พล.อ.ประวิตร คือ “พี่ใหญ่” ของ คสช. ขณะที่อีกฝ่ายก็พร้อมหน้าทั้งทักษิณและยิ่งลักษณ์ แถมยิ่งลักษณ์เลื่อนกลับไทยด้วย เหมือนรอประวิตร ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
ประการสอง แม้จะไม่เป็นประเด็นออกมาอย่างชัดแจ้ง แต่การที่คณะของ พล.อ.ประวิตร มี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร่วมคณะไปด้วย ก็ทำให้เกิดความเชื่อลึกๆแบบสนิทใจของคนจำนวนไม่น้อยว่ามีการพบปะกันจริง เพราะนายสมคิดคือลูกน้องเก่าของทักษิณ และสังคมส่วนหนึ่งก็เชื่อว่านายสมคิดยังเป็นคนของทักษิณและมีสัมพันธ์กับทักษิณอยู่ การร่วมคณะไปของนายสมคิดคือการเป็นตัวเชื่อม ทั้งที่ในความเป็นจริงนายสมคิดอาจตัดขาดจากทักษิณแบบไม่เผาผีมานานแล้ว แต่สังคมส่วนหนึ่งก็เลือกที่จะเชื่อว่าทั้งสองคนยังมีสัมพันธ์กันในทางลึก แม้แต่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบางคนก็เชื่อเช่นนั้น
ทั้งสองประการคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดความเชื่อว่ามีการพบกันจริง ซึ่งจะไปโทษสังคมก็ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่สังคมจับตามอง หากมีอะไรที่ทำให้สงสัยหรือเข้าเค้าก็ต้องเชื่อไว้ก่อน
นอกจากนี้ การปล่อยข่าวของบางฝ่ายก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่และน่าเชื่อยิ่งขึ้น บางฝ่ายที่ว่าคือ ฝ่ายที่ไม่ต้องการให้มีการ “ซูเอี๋ย” กันระหว่างสองฝ่าย แต่ต้องการให้ทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากันต่อไปและเปิดศึกกันอีกครั้ง
ยังดีที่ไม่มีการปล่อยข่าวว่า พล.อ.ประวิตร เคยลั่นไปยังประธาน สนช.ว่า ต้องไม่มีการถอดถอนสองอดีตประธานสภา เพราะถ้าถอดถอนจะยุ่งไปกันใหญ่ และคุยกันไม่รู้เรื่อง
หาไม่แล้ว ก็คงเชื่อกันทุกคนว่า พล.อ.ประวิตร ไปพบกับทักษิณจริง
ทว่า มีความจริงด้านลึกอย่างหนึ่งที่ไม่มีใครพูดเกี่ยวกับการเดินทางไปจีนครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นข้อพิสูจน์ทันทีว่าไม่ได้ไปเพื่อพบทักษิณ แต่เป็นการเดินทางไปเจรจาเรื่องเศรษฐกิจกับทางการจีน ทั้งเรื่องการซื้อข้าว ยางพารา และการสร้างทางรถไฟ
ความจริงก็คือ ดีลไปจีนครั้งนี้เป็นดีลของนายสมคิดที่ต้องการช่วย คสช.และรัฐบาลในปัญหาด้านเศรษฐกิจ ไม่ใช่ดีลการทหารหรือการเมืองของ พล.อ.ประวิตรแต่อย่างใด
โดยนายสมคิดได้ขอ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางไปจีนเพื่อสานต่อการเจรจาให้จีนซื้อข้าวและยางพารา และพูดคุยเรื่องโครงการก่อสร้างทางรถไฟจากอีสานตอนบนมายังระยอง เพื่อเชื่อมต่อกับลาวและจีน แต่นายสมคิดบอกว่าไปเองคนเดียวไม่ได้ เพราะไม่มีสถานะในรัฐบาล และเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าคณะ
นายสมคิดไม่เสนอ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯด้านเศรษฐกิจ เพราะมีความไม่ลงรอยกันและแข่งขันกัน
นี่เองที่ทำให้การไปจีนครั้งนี้ดูผิดปกติและถูกตั้งข้อสงสัยอีกประเด็น เพราะแทนที่จะมีรองนายกฯด้านเศรษฐกิจเป็นหัวหน้าคณะ แต่กลับมี พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าคณะ
หรือหากเลือก พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะ ก็คงไม่มีประเด็นการเมืองเกิดขึ้น
นายสมคิดพลาดตรงนี้เอง
ตั้งใจสร้างผลงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล แต่คิดหลายชั้นไปหน่อย เลยเป็นเรื่อง
ข่าวซีฟ // เบื้องหลังประวิตรไปจีน ดีลเศรษฐกิจของสมคิด
โดย – อาทิตย์ สิงหา
3 พฤศจิกายน 2557

ไม่มีความคิดเห็น: