PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

โอ๊คโพส คดียิ่งลักษณ์


19 กุมภาพันธ์ 2558 เป็นวันที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องนายกปูเรื่องจำนำข้าว ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับไปไม่ถึง 1เดือนก่อนหน้านี้ แค่ช่วงเวลา 3วันตั้งแต่วันที่ 20 ถึง23มกราคม 2558 มีเหตุการณ์กลับไปกลับมา หากจะเปรียบเทียบกับคำโบราณที่ว่า "จากหน้ามือเป็นหลังมือ" ยังถือว่าน้อยเกินไป เราลองมาอ่านข่าวทบทวนกันดูครับ
เมื่อวันที่ 20มกราคม ที่ผ่านมา นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้แถลงข่าวว่า คณะทำงาน ร่วม ป.ป.ช.และอัยการสูงสุด ได้ประชุมร่วมกันเป็นนัดสุดท้ายแล้ว และได้เห็นพ้องต้องกันว่า จะดำเนินการส่งฟ้องคดีอาญาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ตามข่าวนี้ http://www.thairath.co.th/content/476023
ถัดมาอีกสองวัน วันที่ 22มกราคม ไทยรัฐออนไลน์พาดหัวข่าวว่า "จำนำข้าวยังไม่สรุป อัยการ หักป.ป.ช.อย่ามโน"
โดยมีเนื้อข่าวว่า นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วมของอัยการและ ป.ป.ช. กล่าวว่า "ตนไม่ทราบเรื่องการประชุมวันที่20มกราคม ที่อ้างว่าคณะทำงานร่วมฯมีมติให้ส่งฟ้องเรื่องดังกล่าว อีกทั้งคดีดังกล่าวยังไม่มีการสรุปเรื่อง และยังมีมีกระบวนการต่างๆอีกมาก แถมยังปิดท้ายว่า จะไม่สอบถามเรื่องนี้กับทาง ป.ป.ช." เพราะเมื่อ ป.ป.ช.เป็นคนให้ข่าว(ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงของตน) ป.ป.ช.ก็ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง
ตามข่าวนี้ http://www.thairath.co.th/content/476335
ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น 23มกราคม เหตุการณ์กลับตาลปัตรอีกครั้ง เพราะเพิ่งผ่านไปเพียงคืนเดียว สำนักงานอัยการสูงสุดกลับออกแถลงการณ์ ที่สอดคล้องกับที่ป.ป.ช.พูดมาก่อนหน้า แต่ขัดแย้งกับคำให้สัมภาษณ์ของ รองอัยการฯที่เป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วมฯโดยสิ้นเชิง โดยในแถลงการณ์ได้อ้างว่า เมื่อวันที่ 20มกราคม คณะทำงานร่วมฯได้มีมติให้นำเรียน อสส.เพื่อส่งฟ้องคดีนี้แล้ว
ตามข่าวนี้http://www.komchadluek.net/mobi…/detail/20150123/200021.html
- ถ้าเพียง 3วัน สำนักงานอัยการสูงสุด และ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรหลัก ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมของไทย พลิกกลับไปกลับมาได้ 3ตลบขนาดนี้
- ถ้า ป.ป.ช.ซึ่งเปรียบเสมือน "กระดุมเม็ดแรก ในกระบวนการยุติธรรม" ที่จะต้องกลัดให้ถูกต้อง เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานให้กับองค์กร หรือหน่วยงานอื่น ในการรับเรื่องไปพิจารณาคดีอย่างเที่ยงธรรม แต่กลับกลัดแบบเบี้ยวไปเบี้ยวมา ออกมาให้สัมภาษณ์ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง ที่หัวหน้าคณะทำงานฯ ได้ให้ไว้โดยสิ้นเชิง
- ถ้าคำพูดของผู้หลักผู้ใหญ่ของประเทศ ในระดับรองอัยการสูงสุด ซึ่งได้ถูกแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะทำงานฯ ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ และยังถูกหักล้างจากแถลงการณ์ของหน่วยงานของตนเอง กลับไปกลับมาแบบนี้ได้
แล้วประชาชนไทยทั้งประเทศ จะไว้ใจกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบได้อย่างไร ..?
อย่าเอาแต่ไปฟังคนที่พูดว่า "คนทำผิดจะต้องถูกลงโทษ"เพียงอย่างเดียว ควรดูว่ากระบวนการทั้งหมด ในการพิจารณาว่าใครถูกหรือผิด โดยเฉพาะ "กระดุมเม็ดแรก" นั้น ได้มีการกลัดอย่างถูกต้อง ตรงไปตรงมาหรือไม่ ถ้ารู้ว่ามันบิดเบี้ยวแต่ไม่แก้ไข หรือใช้มันในการทำลายล้างผู้อื่น โดยที่คิดว่าคงไม่มีใครรู้เท่าทัน คำว่า"ปรองดอง"ที่คณะรัฐประหารอ้างเป็นเหตุผลสำคัญในการยึดอำนาจ ก็อาจไม่มีวันสำเร็จลุล่วงไปได้
อย่าลืมว่าคนไทยมักจะเชียร์ "มวยรอง" และร้อยทั้งร้อย มักจะช่วยเหลือผู้ที่ถูกกลั่นแกล้ง และเห็นอกเห็นใจผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมเสมอ
ได้โปรดพิจารณา สิ่งผมได้พูดถึงในโพสต์ที่แล้วด้วยครับ
"การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ ความยุติธรรมจะต้องมาก่อน"


ไม่มีความคิดเห็น: