23 มี.ค. 58 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ว่า ได้มีการหารือถึงมาตรการป้องกันและปราบปรามเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เนื่องจากที่ผ่านมาทางสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (อียู) ประเมินว่าสินค้าประมงไทยเข้าข่ายเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เตือนเรามา 10 ปีแล้ว ทั้งการรายงานต่อไอยูยู ที่ขณะนี้เราได้รับใบเหลืองในเรื่องนี้ และการลดระดับการปราบปรามการค้ามนุษย์ให้อยู่ในระดับเทียร์สาม เพื่อทำให้เป็นไปตามหลักสากล ทั้งในเรื่องของการออกกฎหมายและการกำชับเจ้าหน้าที่ ป้องกันไม่ให้มีเรื่องของการค้ามนุษย์หรือแรงงานเถื่อน ที่ผ่านมาเรากำหนดมาตรการและยุทธศาสตร์ในการป้องกันและปราบปรามเรื่องต่างๆ เหล่านี้ ที่มีผลกระทบต่อประเทศ และแจ้งให้นายกฯรับทราบ เพื่อประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือประชาชน ต้องช่วยกันทำให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยและลูกเรือประมงไทยที่ตกค้างที่ประเทศอินโดนีเซียว่าได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลในเรื่องนี้แล้ว เดิมทีตนจะเดินทางไปด้วยตัวเอง แต่ผู้นำอินโดนีเซียยังติดภารกิจ จึงเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน จากนั้นจะเดินทางไปพบเพื่อตกลงเรื่องความมั่นคงทางทะเลและการประมง เพื่อให้เกิดความชัดเจน และทั้งสองประเทศทำงานร่วมกันได้
เมื่อถามกรณีที่ทางสหรัฐฯ ประเมินให้ไทยอยู่ในประเทศเทียร์สามนั้น มีการนำเรื่องการเมืองของไทยเข้ามาเกี่ยวข้องกับการพิจารณาหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องการเมืองตนไม่ทราบ แต่สหรัฐฯ เขาเตือนไทยมากว่า 10 ปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งบอกว่าจะลดระดับประเทศไทย มันเป็นเรื่องเก่า ซึ่งยอมรับว่ากังวลอยู่กับเรื่องไอยูยูที่ให้เวลาเรา 180 วันในการแก้ปัญหา ซึ่งจะมีผลกระทบทำให้เราไม่สามารถส่งออกอาหารทะเลได้ และประเทศจะเกิดความเสียหายอย่างมหาศาล โดยเฉพาะเรื่องรายได้จากตรงนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น