PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2558

สะพัดเด้ง ผบ.ตร.

สะพัดเด้ง “สมยศ” พ้น ผบ.ตร.เจองัดข้อ-บีบขอโควตานายพล?

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม






    
        กระแสเด้ง “ผบ.ตร.” ดูจะเป็นสูตรสำเร็จทุกครั้งที่เกิดขึ้นในช่วงการแต่งตั้งโยกย้าย หากผู้มีอำนาจต้องการเก้าอี้แล้วไม่ได้รับการสนองตอบตามที่ต้องการ เมื่อปรากฏข่าวลือดังกล่าวออกมา “ผบ.ตร.” ไม่ว่าจะคนไหนก็ย่อมต้องอยากจะรักษาเก้าอี้เอาไว้ เพราะยังไม่เคยเห็นมีใครแข็งขืน ชนิดแน่จริงก็ย้ายสิไม่ยอมหรอกแม้แต่รายเดียว ส่วนใหญ่แข็งขนาดไหนโดนไม้นี้เข้าไปก็อ่อนเป็นขี้ผึ้งทุกราย
       
       ช่างเป็นห้วงจังหวะเหมาะเจาะสอดรับกับสถานการณ์ “รอยร้าว” คุกรุ่นภายใน “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เวลานี้ กับข่าวลือที่กำลังสะพัดถึงเก้าอี้ “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)” ของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เกิดอาการสั่นคลอน
       
        ถึงขนาดว่ากันว่า ตลอดเดือนเมษายนนี้ให้จับตาห้ามกะพริบ อาจมีรายการฟ้าผ่า! “กรมปทุมวัน”
       
       กระแสร้อนบนเก้าอี้ “ผบ.ตร.” ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแบบฉับพลันทันด่วน แต่เริ่มส่งสัญญาณกันมาเป็นระยะ ตั้งแต่ช่วงการแต่งตั้ง “รักษาการ ผบช.ก.” ซึ่งมีความพยายามจะให้ “บิ๊กหมู” พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รอง ผบช.ก. เข้ารับหน้าที่ “รักษาการ ผบช.ก.” แต่ พล.ต.อ.สมยศ เลือกที่จะประวิงเวลาการแต่งตั้ง “บิ๊กหมู” ให้รักษาการ โดยเลือกที่จะใช้บริการเพื่อนร่วมรุ่น นรต.31 “บิ๊กตุ้ย” พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อทำบัญชีแต่งตั้งระดับ “รอง ผบก.-สว.” ประจำปีให้เสร็จสิ้นเสียก่อน ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจจากบางฝ่ายปะทุขึ้น
       
       อุณหภูมิความร้อนระอุยิ่งเพิ่มหนักข้อไปอีก เมื่อเกิดศึก “วัดพลัง” กัน ระหว่าง พล.ต.อ.สมยศ กับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ผ่านตัวหนังสือบันทึกข้อความ กรณี พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์สุเมธ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) ถูกคำสั่งช่วยราชการ ศปก.ตร. หลังจากทหารเข้าไปตรวจค้นบ่อนพนันเตาปูน
       
       ในฐานะ ผบช.น. พล.ต.ท.ศรีวราห์ ตั้งกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว และมีข้อสรุปยุติการสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีความผิด เพราะไม่พบการเล่นพนันบ่อนเตาปูน จึงทำเรื่องเสนอ พล.ต.อ.สมยศ ขอให้ยกเลิกคำสั่งช่วยราชการ พล.ต.ต.ก่อเกียรติ พร้อมทั้งอ้างความเสียหายของทางราชการ หากไม่กลับมาปฏิบัติหน้า แต่ในฐานะ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ ทำหนังสือแจ้งกลับไป ปฏิเสธส่งตัวกลับ
       
       และตอกย้ำว่า หากเกรงจะเกิดความเสียหายของทางราชการ ก็ให้แต่งตั้งคนอื่นมารับตำแหน่งหรือรับหน้าที่แทน
       
       ยิ่งทำให้ความขัดแย้งภายใน “สีกากี” ถูกตอกลิ่มรอยร้าวเพิ่มขึ้น และตรงจุดนี้ก็ถูกหยิบยกไปเป็นข้ออ้างหนึ่ง ที่กำลังสั่นเก้าอี้ “ผบ.ตร.” ซึ่งดูเหมือน พล.ต.อ.สมยศก็รับรู้ถึงแรงบีบดังกล่าว จนมีข่าวในทำนองเจ้าตัวก็ไปบอกกับพรรคพวกใกล้ชิดว่า ในเดือนเมษายนนี้อาจจะถูกโยกย้ายพ้นจากเก้าอี้ “ผบ.ตร.”
       
       หากจะมีการสั่งเด้ง “พล.ต.อ.สมยศ” พ้นเก้าอี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในยุครัฐบาลทหาร เพราะก่อนหน้านี้เกิดความขัดแย้งกันในกระทรวงคุณหมอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็มีคำสั่งให้ “นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์” พ้นจากเก้าอี้ “ปลัดกระทรวงสาธารณสุข” ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ถ้าจะมีข้าราชการระดับ ซี 11อีกคนไปช่วยราชการสำนักนายกฯ ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้
       
       เพราะจะว่าไปหากพิจารณา “ผลงาน” กันจริงๆ ก็ต้องยอมรับว่า พล.ต.อ.สมยศ ยังไม่มีอะไรโดดเด่น เป็นชิ้นเป็นอันให้สังคมนึกถึงได้ เหมือนอย่างคำพูดที่ดังกว่าผลงานที่ว่า “ใหญ่แค่ไหนก็จับ” ลำพังจะยึดเอาการทลายคดีเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. เป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ต่างก็รับรู้ว่าเบื้องลึก เบื้องหลัง คืออะไร ผบ.สมยศ มีบทบาทแค่ไหน อย่างไร
       
       ในทางตรงกันข้าม เรื่องการ “ปฏิรูปตำรวจ” ที่สังคมคาดหวังจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในยุค พล.ต.อ.สมยศ ซึ่งไม่มีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาครอบงำ แต่กลับไม่มีอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรม การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ใช้เวลาเป็นปีๆ ดูจะถูกมองว่าเป็นการ “ซื้อเวลา” แบบไม่มีความจริงใจ แบบยังห่วงอำนาจกันอยู่
       
        อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.สมยศจะพ้นจากเก้าอี้ “ผบ.ตร.” ตามข่าวลือ ข่าวร้อน หรือไม่ หรือจะเป็นแค่เพียงข่าวลวง ข่าวมั่ว ข่าวหลอก คงต้องวัดใจ “นายกฯประยุทธ์” ตัดสินใจ 
       
       แต่กระนั้นข่าวที่เกิดขึ้นก็ดูจะเข้าทางให้บางกลุ่มมีอำนาจในการ”ต่อรอง” ในการแต่งตั้งโยกย้าย “นายพล” นอกฤดู ทดแทนตำแหน่งว่าง “ล็อตสอง” ระดับ “รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) - ผู้บังคับการ (ผบก.)” ทั่วประเทศ ยศ “พล.ต.ต.” ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกเดือนข้างหน้า
       
        ยิ่งเช็dรายชื่อเด็กในคาถาขั้วอำนาจ ฟาร์มโชคชัย ดูเหมือนเด็กในคาถายังได้เก้าอี้ระดับ “ผบก.” เกรดเอไม่ครบ หาก “ผบ.สมยศ” ไม่ยอมแบ่งบันเก้าอี้ระดับเกรดเอเพิ่มให้ ม้าก็จะล้นคอกโชคชัย และพี่ใหญ่บิ๊กบราเธอร์ ก็จะเสียรางวัด เสียงเครดิตในสายตาลูกน้อง
       
       ดังนั้น ครั้งนี้เลยต้องวัดใจ หากกระแสข่าวลือที่เกิดขึ้น วัตถุประสงค์จริงๆ คือเพื่อบีบเพิ่มสัดส่วนเก้าอี้ในการแต่งตั้ง “รอง ผบช.-ผบก.” พล.ต.อ.สมยศจะกล้าขัดขืนหรือไม่ อย่างไร
       
       แต่ถ้าไม่เกี่ยวกับการแต่งตั้งเป็นเรื่อง “ผลงาน” ไม่มีจริงๆ ตำรวจที่ชื่อ “สมยศ” ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากนายเก่า อย่าง “มนตรี พงษ์พานิช” อดีตนักการเมืองชื่อดัง เชื่อว่า “บิ๊กอ๊อด” น่าจะรู้ว่าจะทำอะไรถึงจะได้อยู่ต่อไปบนเก้าอี้ “ผบ.ตร.” จนเกษียณ 

ไม่มีความคิดเห็น: