เจ้าหน้าที่พบศพชาวโรฮิงยา 32 ราย ถูกฝังในแคมป์พักพิงกลางป่าชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา
วันนี้(1พ.ค.)เจ้าหน้าที่พบศพชาวโรฮิงยา กว่า 32 ศพ ในพื้นที่ หมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ต. ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งมีทั้งที่นอนเสียชีวิตและถูกฝังอยู่ในหลุมประมาณ 50 หลุม
โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานกำลังอยู่ระหว่างการหาสาเหตุของการเสียชีวิต ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะของการตั้งแคมป์ที่พักพิงชาวโรฮิงยาชั่วคราว อยู่ในป่าติดชายแดนไทย-มาเลเซีย
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการพบหลุมฝังศพจำนวนมาก ในพื้นที่ตำบลปาดังเบซาร์ ว่า เบื้องต้น ได้รับรายงานว่า ตำรวจภูธรภาค 8 ภาค 9 และทหาร นำกำลังเข้าตรวจค้นค่ายกักกันชาวโรฮิงยา
ซึ่งเป็นการขยายผลมาจากการจับกุมชาวโรฮิงยา ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2558 จากการตรวจสอบพบผู้เสียชีวิต 1 คน คนป่วย 1 คน และหลุมศพอีกประมาณ 32 หลุม ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ว่า มีผู้เสียชีวิตถูกฝังไว้จำนวนเท่าใด
ทั้งนี้ เชื่อว่า ชาวโรฮิงยาที่เหลือถูกนำตัวข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และจากการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินเบื้องต้น เชื่อว่าจะมีชาวเมียนมา ชาวมาเลเซีย และชาวไทย ร่วมขบวนการนำชาวโรฮิงยา ผ่านประเทศไทย ไปยังประเทศที่ 3
โดยขบวนการดังกล่าว จะนำชาวโรฮิงยา มาพักไว้บริเวณค่ายกักกันเข้าหัวช้าง ซึ่งมีลักษณะเป็นเพิงที่พักชั่วคราว อยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน และอาจเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ เพื่อทำให้ยากต่อการจับกุมของเจ้าหน้าที่ จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตประเทศไทย หรือ ประเทศมาเลเซีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น