PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เมื่อทักษิณประกาศตัวเป็นศัตรูกับสถาบัน.. ก็จงฟัง พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ พูด

บทวิเคราะห์วันจันทร์ : เมื่อทักษิณประกาศตัวเป็นศัตรูกับสถาบัน.. ก็จงฟัง พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ พูด !
Cr:สำนักข่าวเจ้าพระยา

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2558 

ผมเขียนเรื่อง ทักษิณ ชินวัตร เคยพูดว่า “ตายเสียดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้” วันนี้ลางแพ้มาถึงแล้ว เขาจะทำอย่างไร

โดยทิ้งท้ายเป็นคำถามว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ เหมือนจะเป็นลางสังหรณ์ว่า ความพ่ายแพ้จักต้องตกเป็นของเขาค่อนข้างแน่

คำถามคือ หากทักษิณต้องแพ้และต้องตาย ทักษิณจะยอมตายอย่างง่ายดายอย่างนั้นหรือ โดยถือเอาคำที่ทักษิณเคยพูด “ตายเสียดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้” มาเป็นโจทย์

สัปดาห์ที่ผ่านมาทักษิณได้พูดเหมือนจะตอบว่า “ยอมตายดีกว่าอยู่อย่างผู้แพ้ จริง ๆ” เมื่อให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติโดยบิดเบือนความจริงในไทยเมื่อวันที่ 19 พ.ค.58

ถึงการยึดอำนาจของ คณะ คสช.เมื่อ 22 พ.ค.2557 ทั้ง ๆ ที่ก่อนเกิดการยึดอำนาจนั้น บ้านเมืองตกอยู่ในวิกฤติที่หมิ่นเหม่กับการต้องฆ่ากันเองของคนไทยสองกลุ่ม

แต่ทักษิณ บิดเบือนและใส่ร้ายไปถึงเบื้องสูงว่า “เกิดจากการสั่งการขององคมนตรีโดยวางแผนให้พระสุเทพออกมาแล้วให้ทหารเข้ามาช่วยโดยมีบางคนจากในวังมาช่วย”

คำพูดของทักษิณ ดังกล่าวไม่ต่างไปจากการประกาศตัวเป็นศัตรูกับคนไทยที่จงรักภักดีต่อสถาบัน และพร้อมที่จะ “แตกหัก” กับ รัฐบาลทหารของ คสช.

และเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช.ออกมาพูดถึงทักษิณในเวลาต่อมาว่า “จะพูดอะไรก็ให้พูดไป” และตบท้ายว่า “ถึงอย่างไรผมก็ชนะอยู่แล้ว”

ย่อมนำความเจ็บปวดหัวใจไปให้ทักษิณอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพราะคนอย่างทักษิณนั้นในอดีตมีแต่คนก้มหัวให้ และพร้อมรับใช้เพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่ง

แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่แยแส มิหนำซ้ำยังพูดถึงเป้าหมายสำคัญของทักษิณ ชินวัตรด้วยว่า “ผมวิเคราะห์มาแล้ว คนที่หมิ่นสถาบันฯอยู่ในขบวนการผู้ที่ต้องการมีอำนาจ

เพื่อมีผลประโยชน์ ซึ่งประเทศไทยมี 2 อย่างที่เขายังยึดอำนาจไม่ได้คือ ทหารและสถาบันฯ เขาต้องทำลาย ถ้าทำลายทั้ง 2 อย่างนี้ได้ ก็จะยึดประเทศไทยทั้งหมด

ไม่มีเพียงผู้นำประเทศเท่านั้นที่รู้ว่าทักษิณทักษิณมีเป้าหมายอย่างไร พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ก็ให้สัมภาษณ์ไทยรัฐฉบับ 25 พ.ค.2558

ในประเทศที่ยังมีการเคลื่อนไหวของขบวนการต่อต้าน คสช.ว่า “นายกฯมีความจริงใจกับประเทศชาติ สถาบัน ประชาชนมากที่สุด เป็นสิ่งที่ท่านพร้อมที่จะสละชีวิต

ทุกครั้งที่มีโอกาสพบนายกฯหรือคนใกล้ชิดจะพูดว่าท่านเหนื่อยจริง ๆ ไม่อยากมาอยู่ในจุดนี้ แต่สถานการณ์ในวันนั้นมันไม่ไหว ถึงต้องมาอยู่ในจุดนี้”

พล.ต.อภิรัชต์ ยอมรับว่า “ขณะนี้การเคลื่อนไหวใต้ดิน บอกได้เลยยังมีอยู่ แต่ว่าถ้าเคลื่อนไหวรุนแรงถึงขั้นรัฐบาลและนายกฯรับไม่ได้ก็ต้องดำเนินการ

ในฐานะทำงานด้านข่าวมาตลอด ตั้งแต่สภาความมั่นคงแห่งชาติ ข่าวกรองและที่สำคัญมีคนกลับใจมาบอก ทำให้รู้หมดทุกอย่างว่าอยู่ที่ไหน ขณะนี้เราเกาะติดอยู่”

และตอกย้ำว่า “เมื่อใดก็ตามมีม็อบขนาดใหญ่เคลื่อนไหว รับรองถึงตัวบงการแน่” และ อีกหนึ่งประโยคที่ผมอยากให้ผู้อ่านได้รับทราบก็คือ

พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวกับทีมการเมืองไทยรัฐ ตอนหนึ่งที่จากคำถามแม้จะมิใช่ประเด็นการเมือง แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงจุดยื่นในการทำงานได้อย่างแจ่มชัดคือ

“ผมฟังนายกฯเพียงคนเดียวและทำตามนายกฯสั่ง”


ไม่มีความคิดเห็น: