PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ผบทบ. เตือน อย่าตกใจ ตั้ง คปป. เชื่อเป็นเจตนาดีของกมธ.ยกร่างฯ

ผบทบ. เตือน อย่าตกใจ ตั้ง คปป. เชื่อเป็นเจตนาดีของกมธ.ยกร่างฯ แจง 2 พรรคใหญ่ต้าน ร่าง รธน. ให้เป็นหน้าที่ของ สปช.ที่จะพิจารณา ขอบคุณ สปช.ผ่านงบฯ 59 ระบุงบฯกองทัพบก ส่วนใหญ่เป็นเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง ส่วนการปรับเปลี่ยนยุทธโธปกรณ์ เพื่อให้มีศักยภาพทัดเทียบนานาประเทศในประชาคมอาเซียน น่าเกรงขาม
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมว.กลาโหม และ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึง กรณี 2 พรรคการเมืองใหญ่ออกมาคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญ ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)นั้น ว่า เป็นเรื่องของสปช.ที่จะต้องใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาเรื่องนี้ว่าจะเหมาะสมอย่างไร ส่วนตนเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพที่เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล ไม่สามารถชี้นำก้าวล่วงได้ แต่คิดว่าคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญพยายามที่จะนำปัญหาเดิมที่มีอยู่ว่าจะทำอย่างไรต่อไปให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติมากที่สุด แต่แนวความคิดและเหตุผลอาจจะต้องดูรายละเอียดกันอีกครั้ง ขอให้สปช.และส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ส่วนตนก็จะติดตามดูเช่นกัน
ส่วนที่นักการเมืองพยายามเรียกร้องให้ คสช.เปิดกว้างในการแสดงความคิดเห็นนั้น พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ก็คงพยายามที่จะให้โอกาสอยู่แล้ว และจะดูต่อไปว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะให้ประชาชนรับรู้มากยิ่งขึ้น แต่วิธีการจะดำเนินการอย่างไร ถ้าดูแล้วไม่มีปัญหาเรื่องการก่อความไม่เรียบร้อย ก็คงจะพิจารณาและให้ดำเนินการต่อไป ตนอยากจะสนับสนุนแต่ก็คงต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ในหลักการการสร้างความรับรู้เป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ได้เน้นย้ำเสมอ และปัจจุบันอยากให้ประชาชนส่วนต่างๆ รับรู้และความเข้าใจในเรื่องต่างๆ รวมถึงเรื่องนี้ด้วย
ต่อข้อถามว่ามีหลายฝ่ายเห็นว่าการมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปรองดองและการปฎิรูปแห่งชาติ (คปป.) เป็นอำนาจที่ซ้ำซ้อน พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า คณะกรรมาธิการยกร่างฯได้ให้ความเห็นแล้วว่าร่างตรงนี้ทำมาเพื่ออะไร บางทีอาจตกใจกันเกินไป แต่ก็เป็นเรื่องความคิดเห็น ซึ่งเราก็ต้องพยายามฟัง ตนเห็นว่าบางครั้งก็ไม่ฟังเหตุผลกัน เมื่อมีการคิดก็พูดออกมา ที่ผ่านมาเราเปิดโอกาสให้หลายส่วนเข้ามาชี้แจงในรายการต่างๆ ของคสช. ขอให้รับฟังกันตรงกัน ถ้ารับไม่ได้ก็เป็นเรื่องการพิจารณาของสปช.ต่อไป
เมื่อถามว่า การลตั้ง คปป.ถือว่าเป็นเจตนาดีของผู้ร่างใช่หรือไม่ พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเช่นนั้น อย่าไปมองว่าจะแฝงอำนาจเพียงอย่างเดียว เพราะบางครั้งเป็นเรื่องที่จะทำอย่างไรให้ประเทศเดินหน้าพัฒนาทุกด้าน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ สปช.จะพิจารณากันอีกครั้ง ซึ่งก็ต้องทำความเข้าใจกันต่อไป
รมช.กลาโหม กล่าวถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ผ่านวาระ 3 ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2559 วงเงิน 2.72 ล้านล้านบาทว่า ในส่วนของกองทัพบกไม่น่าจะมีอะไร ทาง สนช.มีการปรับบ้างเล็กน้อย แต่เป็นที่น่ายินดีว่าโดยภาพรวมก็ได้รับงบประมาณเพิ่มเติมมาเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้งบประมาณส่วนใหญ่ของกองทัพบกเป็นงบประมาณด้านกำลังพล เพราะจะต้องดูแลค่าใช้จ่ายให้กำลังพล ทั้งเรื่องเงินเดือน และเบี้ยเลี้ยงต่างๆ ประมาณเกือบ 60% ส่วนเรื่องภารกิจและงานพัฒนาอื่นๆ ทางกองทัพบกจะต้องจัดสรรงบประมาณโดยการปรับเปลี่ยนยุทโธปกรณ์ต่างๆ อาจมีบ้าง แต่ไม่มากนัก เราพยายามคงสภาพเพื่อให้ศักยภาพกองทัพบกไม่ลดน้อยลงในสายตาของมิตรประเทศ บางครั้งประชาชนอาจะไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเสริมสร้างยุทโธปกรณ์บางอย่าง ขอชี้แจงว่าทุกอย่างล้วนมีความจำเป็นในศักยภาพ ซึ่งไม่จำเป็นต้องไปทำการรบ แต่เรากำลังก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ดังนั้นศักยภาพและสิ่งต่างๆ ต้องเกื้อกูลการดำรงอยู่ด้วยกัน มีความทัดเทียมกัน
“ขณะนี้มิตรประเทศหลายประเทศ มีความก้าวหน้าในส่วนนี้มาก แต่ของไทยถือว่ายังอยู่ในระดับที่ดี ไม่ว่าจะกองทัพใดก็ต้องพยายาม ขอให้ประชาชนสบายใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามความเหมาะสมและความจำเป็น ไม่มีใครอยากนำงบประมาณไปใช้สุรุ่ยสุร่ายหรือจับจ่ายใช้สอยในทางที่ไม่เหมาะสม ทุกคนมีความระมัดระวังและระลึกเสมอว่าจะต้องทำให้ประเทศอยู่ในภาพลักษณ์ที่ดีมีความน่าเกรงขามในระดับที่เป็นที่ยอมรับ มีการพัฒนาด้านต่างๆ เป็นสากลทุกเรื่องตามนโยบายนายกรัฐมนตรี แม้ว่าอาจจะถูกปรับลดบางหมวด แต่ก็ต้องขอบคุณสนช. และคณะกรรมาธิการที่พิจารณาเรื่องนี้ด้วยความรอบคอบ กองทัพบกสามารถดำเนินการได้ตามงบประมาณที่ได้รับ”

ไม่มีความคิดเห็น: