PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

คดีเกาะเต่ายังไม่จบ

พี่สาวเหยื่อคดีเกาะเต่าโพสต์เฟซบุ๊กระบุถูกข่มขู่ ตำหนิทางการไทยใช้ถ้อยคำทำร้ายความรู้สึก

เพรส แอสโซซิเอชั่น รายงานว่าลอรา วิทเธอร์ริดจ์ พี่สาวของฮันนาห์ วิทเธอร์ริจด์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษหนึ่งในสองคนซึ่งเสียชีวิตเพราะถูกฆาตกรรมที่เกาะเต่า ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัวตำหนิทางการไทยว่าไม่ใส่ใจความโศกเศร้าของครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำรวจและศาลใช้ถ้อยคำทำร้ายความรู้สึก ส่วนตัวเธอนั้นถูกข่มขู่เอาชีวิตและมีผู้พยายามเสนอเงินชดเชยเพื่อให้เรื่องเงียบ

ฮันนาห์ วัย 23 ปี และเดวิด มิลเลอร์ วัย 24 ปี เสียชีวิตที่เกาะเต่า ในเดือนกันยายน ปี 2557 ขณะที่ศาลชั้นต้นของไทยมีคำพิพากษาเมื่อปลายปีที่แล้วให้ประหารชีวิตนายซอ ลิน และไว เพียว จำเลยชาวเมียนมาฐานฆาตกรรมนักท่องเที่ยวทั้งสองคน 

ลอรา วิทเธอร์ริดจ์ พี่สาวของฮันนาห์ เขียนข้อความยาวทางหน้าเฟซบุ๊ก เมื่อวานนี้ (10 ม.ค.) หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของลุค มิลเลอร์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษคนล่าสุดซึ่งเสียชีวิตในสระว่ายน้ำของโรงแรมแห่งหนึ่งที่เกาะเต่า เมื่อไม่กี่วันก่อนว่า มีความจำเป็นที่จะต้องบอกกล่าวให้ผู้คนรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในไทย ประเทศที่ได้ชื่อว่า “สวยงามที่สุดในโลก” ทั้งที่จริงคนไทยบางส่วนเกลียดชาวตะวันตกและเห็นความสำคัญในชีวิตมนุษย์น้อยมาก 

“นับตั้งแต่ฮันนาห์เสียชีวิต ก็มีคนเสียชีวิตอย่างน่าสงสัยที่เกาะเต่าอีกหลายราย บางทีคุณอาจไม่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพวกเขา เพราะพวกเขาไม่ใช่คนอังกฤษทั้งหมด การเสียชีวิตของคนเหล่านี้อาจถูกปกปิด ด้วยการทำให้เป็นเหตุฆ่าตัวตาย และอุบัติเหตุ สิ่งนี้อาจเกิดกับฮันนาห์ หากเธอไม่ได้ถูกฆ่าตายอย่างโหดร้ายทารุณเสียก่อน" 

ลอราระบุว่า ระหว่างที่ครอบครัวพยายามติดตามคดีของน้องสาว ตนเองได้รับคำขู่เอาชีวิตจากคนไทยหลายครั้ง โดยมีผู้ส่งรูปของเธอที่โดนฉีกใบหน้าออกมาให้ พร้อมข้อความว่า "ฆาตกรทำงานเสร็จไปแค่ครึ่งเดียว" ทั้งยังมีการส่งภาพถ่ายจากที่เกิดเหตุที่น่าสยดสยองมาให้ ซึ่งทำให้เธอหวาดกลัวและฝันร้าย เธอยังเปิดเผยว่ามีคนไทยบางกลุ่มพยายามเสนอเงินชดเชยเพื่อให้ครอบครัวของเธอเลิกติดตามคดี แต่เธอรู้สึก "สะอิดสะเอียนอย่างยิ่ง" และบอกให้พวกเขาเอาเงินไปทิ้งเสีย

นอกจากนั้น ตลอดช่วงเวลาของการพิจารณาคดี ทั้งผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ศาลได้แสดงความเห็นที่ทำร้ายความรู้สึกของครอบครัววิทเธอร์ริดจ์เป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งถ้อยคำที่ว่า “ยังจะต้องวุ่นวายอะไรอีก? กลับบ้านไปเสีย ไปทำลูกใหม่อีกคนก็แล้วกัน อีก 30 วันเธอก็กลับมาเกิดใหม่แล้ว ชาติหน้าเธออาจจะโชคดีกว่านี้” ลอราบอกด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยส่วนใหญ่ทุจริต ทั้งยังหลอกให้ครอบครัวของเธอเข้าร่วมการแถลงข่าวโดยไม่เต็มใจ ทั้งที่ตอนแรกบอกว่าเป็นการเชิญไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม 

ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของน.ส. ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ เปิดเผยหลังรับทราบคำพิพากษาประหารชีวิตจำเลยชาวเมียนมาว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาครอบครัววิทเธอริดจ์ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างเหลือเชื่อ โดยการติดตามกระบวนการพิจารณาคดีในไทยเป็นความยากลำบากอย่างยิ่ง ครอบครัวต้องอดทนกับทั้งความเจ็บปวดและกับการได้รับข่าวสารที่สับสน ขณะนี้จึงขอเวลาไตร่ตรองผลการพิพากษาในครั้งนี้อย่างรอบคอบ และใคร่ครวญดูว่าทางครอบครัวจะมีแถลงการณ์ที่เหมาะสมอย่างไรต่อไป

ขณะที่ครอบครัวของนายเดวิด มิลเลอร์ เหยื่อผู้เสียชีวิตในคดีเดียวกับน.ส. ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ ออกแถลงการณ์ระบุว่าศาลได้ตัดสินอย่างยุติธรรม และตำรวจไทยได้สอบสวนเรื่องนี้อย่างรอบคอบและละเอียดถี่ถ้วน โดยมีหลักฐานท่วมท้นที่ใช้เอาผิดกับจำเลย ส่วนโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าการสอบสวนคดีดังกล่าว “ดำเนินไปอย่างโปร่งใสและเป็นไปตามมาตรฐานสากล”

อย่างไรก็ดี ชาวเมียนมาในนครย่างกุ้งได้ออกมาประท้วงคำพิพากษาของศาลไทย จนเป็นเหตุให้แผนกกงสุลของสถานทูตไทยที่ย่างกุ้ง ต้องปิดทำการเป็นเวลาหลายวัน #KohTaoMurders

ไม่มีความคิดเห็น: