PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560

จุดสำคัญกว่าการเลือกตั้ง

ก็ตกไป จะทำอย่างไรก็ต้องพิจารณากัน อาจต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว

ตามความชัดเจนในเบื้องต้นที่ระบุโดยคนระดับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย รัฐบาล คสช. ตอบคำถามนักข่าวกรณีหากพ้น 90 วันตามกำหนดรัฐธรรมนูญยังไม่มีการประกาศบังคับใช้ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์

สรุปว่าไม่มีทางตัน หากเกิดปัญหาทางเทคนิคกับรัฐธรรมนูญใหม่

ล่าสุด มีการประสานทางลึก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.ได้แจ้งต่อที่ประชุม คสช. และจะมีการแจ้ง ครม. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า จะมีการปรับแก้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เรื่องเงื่อนเวลา 90 วัน ในการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ

เปิดช่องให้มีการปรับแก้ไขได้ จากเดิมที่ต้องตกไป

เป็นอะไรที่ต่อเนื่อง ตามเค้าโครงเรื่องที่เจ้าตัวนายวิษณุได้เกริ่นไว้ล่วงหน้าแล้ว กับปมปัจจัย “ตัวแปร” ที่อาจทำให้โรดแม็ปเลือกตั้งต้องเปลี่ยนไป

และสังเกตนายวิษณุจะออกตัวตลอดว่า เป็นเรื่องไม่เหมาะที่จะเอามาพูดกัน

นั่นหมายถึงบางเงื่อนไขก็อยู่นอกเหนือการเมือง

แต่เรื่องของเรื่อง มันเป็นฟอร์มบังคับของ พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะผู้รับผิดชอบสัญญาประชาคมที่ประกาศให้รับรู้กันทั่วโลก

ยังไงก็ต้องยืนยันประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งตามโรดแม็ป

ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้จะไม่อยู่ในโหมดประชาธิปไตย กำหนดเลือกตั้งยังไม่ชัด แต่รัฐบาลทหาร คสช.ก็ยังมีจุด
ขายที่งัดออกมาแลกกับการซื้อเวลาต่อไป

แม้จะเป็นมุกเก่าๆแต่ก็เป็นอะไรที่เห็นกันด้วยตา

แบบที่นักลงทุนเชื่อมั่นได้ในเสถียรภาพทางการเมือง สถานการณ์ด้านความมั่นคง ไม่มีม็อบป่วนเมือง ประชาชนทำมาหากิน ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ไม่เหมือนช่วงการเมืองวิกฤติ ม็อบปิดถนน มีระเบิด ยิงกันรายวัน ไร้ความปลอดภัย
เทียบกับรัฐบาลประชาธิปไตยหลังเลือกตั้งรอบต่อไปที่ยังรับประกันไม่ได้ว่า ประเทศไทยจะไม่กลับมาวุ่นวาย จากเหตุที่ขั้วขัดแย้งยังไม่ยอมเลิกรา
ขณะเดียวกัน ถ้าอดทนรอเกมยาวๆ
ตามความจริงใจของผู้นำรัฐบาลทหารที่พยายามให้เห็นถึงความคืบหน้าตามสัญญาที่ดีลไว้
จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้เวลาในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่
ร่าง “โมเดล” ด้วยลายมือตัวเอง พร้อมตั้งคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศในระยะที่ 2 ในการเดินหน้ายุทธศาสตร์ปฏิรูปและปรองดองให้จับต้องเนื้องานได้
ล่าสุดก็มีการปล่อยพิมพ์เขียวกฎหมายปรองดองฉบับของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่มีนายเสรี สุวรรณภานนท์ เป็นประธาน ชงแนวทางปลดล็อกเงื่อนไขขัดแย้ง
เปิดโอกาสให้คนหนีคดีกลับมาต่อสู้คดี สามารถประกันตัวได้
คดีการเมืองตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 ถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 หากมามอบตัวยอมรับผิดให้พักคดีไว้แบบมีเงื่อนไขห้ามยุ่งการเมือง ส่วนคดีอาญาร้ายแรงให้ศาลดำเนินคดีต่อไป รวมถึงกรณีบุกสนามบิน สถานที่ราชการ ก่อการร้ายที่ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ถือเป็นคดีไม่ร้ายแรง
อานิสงส์ส่งผลบุญถึงหัวโจกทุกขั้วทุกสี
อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่หนีคดีอยู่ต่างประเทศ
นายสนธิ ลิ้มทองกุล และแกนนำม็อบพันธมิตรฯ ที่ติดชนักคดีบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง รวมทั้งทำเนียบรัฐบาล
ไปยัน “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำม็อบ กปปส. ที่เจอคดีกบฏ นำม็อบปิดเมืองชัตดาวน์กรุงเทพฯ
หรือล่าสุดศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาจำคุกนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. และพวกรวม 4 คน เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน คดีชุมนุมล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550
พวกลุ้นติดคุก ชูจั๊กแร้เชียร์ในใจเต็มที่อยู่แล้ว.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: