PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันเสาร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2560

ประกายไฟ ไหม้ลามทุ่ง จาก”รถกระบะ”

ประกายไฟ ไหม้ลามทุ่ง จาก”รถกระบะ”

หากสรุปว่า การเคลื่อนไหวอันเนื่องแต่”รถกระบะ”หรือ”ปิกอัพ”ดำเนินไปอย่างมีลักษณะ “มวลชน”
นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะ”แย้ง”หรือไม่
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะ”แย้ง”หรือไม่
ยิ่งกว่านั้น นายจตุพร พรหมพันธุ์ และ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ จะ “แย้ง”หรือไม่
เพราะว่าการเคลื่อนไหว”กลุ่มรถกระบะ”มีความต่าง
1 ไม่ได้มีการชุมนุม ไม่ได้มีการตั้งเวทีและขึ้นปราศรัย และที่สำคัญ 1 คือ ไม่มี “ผู้นำ”
ไม่มี “พระเอก” ไม่มีตัวชูโรง “เรียกแขก”
แต่ถามว่าเป็น “ปฏิกิริยา” ที่มีเป้าหมายและดำเนินไปอย่างมีลักษณะ “รวมศูนย์” หรือไม่
ตอบได้เลยว่ามี นั่นก็คือ คำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 14/2560
ตอบได้เลยว่ามี นั่นก็คือ “มาตรา 44”

ต้องยอมรับว่า มาตรการจากคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 14/2560 อันเป็นไปตามอำนาจของ “มาตรา 44″นั้นเอง
เป็นตัว”จุดชนวน”
จากจุดเล็กๆในแบบ “ปัจเจก” แล้วก็ขยายกว้างออกไปเป็นความรู้สึก “ร่วม”
ปมเงื่อนก็คือ ความรู้สึกอึดอัด คับข้องใจ
เป็นความอึดอัดเพราะเห็นว่าเป็นคำสั่งซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงแห่ง”วิถีชีวิต”
บังเอิญ “รถกระบะ” สัมพันธ์กับ “ชาวบ้าน”
การส่งต่อในทางความคิด ความรู้สึกจึงดำเนินไปเหมือนกับเป็น
ประกายไฟน้อยๆ ไหม้ลามทุ่ง

ก็เห็นกันแล้วว่า ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในห้วงก่อนสงกรานต์นี้ดำเนินไปอย่างเป็นไปเอง
ไม่มีหัวหน้า ไม่มีผู้นำ
ไม่ได้เป็นการอัดฉีดทั้งในทางความคิด ทั้งในทางเงินทุนมาจากพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมือง
เป็นเรื่องของประชาชน เป็นเรื่องของชาวบ้าน
จึงเป็นการเคลื่อนไหว”มวลชน”อย่างทรงพลานุภาพเด่นชัด

ไม่มีความคิดเห็น: