PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

‘บิ๊กป้อม’ชี้ หากนายกฯไม่เสียสละยึดอำนาจ เราคงไม่อาจมีความสุขได้เลย ยันไทยศก.ดี

‘บิ๊กป้อม’ชี้ หากนายกฯไม่เสียสละยึดอำนาจ เราคงไม่อาจมีความสุขได้เลย ยันไทยศก.ดี

“ประวิตร” แจงการทำงานด้านความมั่นคง ชมนายกฯคือผู้เสียสละ ระบุแม้เข้ามาด้วยวิธีไม่ถูก แต่ความตั้งใจทำเพื่อประเทศเต็มเปี่ยม ในทางปฏิบัติพยายามทำ ปท.ให้เป็น ปชต.
วันที่ 23 พฤษภาคม เวลา 11.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวบรรยายหัวข้อ “การขับเคลื่อนและปฏิรูปประเทศไทยด้วยรากฐานความมั่นคง” ว่าทุกท่านคงเห็นแล้วว่างานด้านความมั่นคงที่ คสช.ได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมานั้นทำให้เกิดความสงบ และทำให้งานด้านอื่นๆ เดินไปได้ ตนคงไม่พูดว่าในห้วงที่ผ่านมาเรามีผลงานอย่างไร แต่จะพูดว่าต้องทำอย่างไรจึงจะเกิดความสงบอย่างแท้จริง และทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ถ้าประชาชนและต่างชาติเกิดความเชื่อมั่น เราก็สามารถทำทุกอย่างได้ ซึ่งความมั่นคงนี้รวมถึงภัยธรรมชาติด้วย ประชาชนต้องมีความปลอดภัย อยู่ดีกินดี มีที่อยู่อาศัย ไม่เกิดความเหลื่อมล้ำ บ้านเมืองเราจึงจะมีความมั่นคง นอกจากนี้ หน่วยงานด้านความมั่นคงต้องสร้างความสัมพันธ์กับมิตรประเทศโดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวชายแดน 4 ประเทศ ได้แก่ ลาว กัมพูชา เมียนมา และมาเลเซียด้วย ต้องมีการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดน การปฏิบัติงานร่วมกันตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมือง แรงงานด่างด้าว ฯลฯ
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ส่วนการรักษาความมั่นคงในประเทศ กลไกฝ่ายปกครองต้องดูแลประชาชนโดยทำงานร่วมกับ อปท. ผ่านศูนย์ดำรงธรรม นอกจากนี้ การบังคับใช้กฎหมายด้วยความยุติธรรม ไม่สร้างความเหลื่อมล้ำก็มีความสำคัญ เท่าที่ผ่านมาในห้วงเวลา 2 ปี ตนได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงทุกฝ่ายว่าเราต้องบูรณาการกันทุกฝ่ายให้ได้ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ และต่างชาติมั่นใจว่าเราปกครองประเทศโดยการทำให้ประชาชนเชื่อมั่น เขาจะได้มีความมั่นใจในการเข้ามาลงทุน ส่วนความมั่นคงในระดับประเทศ มีการร่วมมือกันทางทหาร เพื่อสร้างบรรยากาศในการพัฒนาเศรษฐกิจ มีการใช้ทูตทหาร ในการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกับประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดน เพื่อร่วมกันแก้ปัญหา เช่น ยาเสพติด การลักลอบเข้าเมือง ฯลฯ ทั้งนี้ เรายังมีการประชุมทางการทหารร่วมกันเพื่อประสานงานด้วย ดังนั้น ข้าราชการทางทหารไม่ได้มีหน้าที่ป้องกันอธิปไตยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มีหน้าที่สร้างความสัมพันธ์กับมิตรประเทศ เช่น การแลกเปลี่ยนทางการทหาร การฝึกร่วมกัน เป็นต้น
พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า ส่วนการปฏิรูปด้านความมั่นคง เราดำเนินการก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ด้วยการออกกฎหมาย ฯลฯ สำหรับประชาคมอาเซียน เรามีการประชุมร่วมกับผู้นำทางการทหารของอาเซียน ตนยืนยันว่าภาพความมั่นคงในอาเซียนนั้นค่อนข้างมีการบูรณาการกัน จากการประชุมเราเห็นตรงกันว่า ในอนาคตเราจะจับอาวุธมาสู้กันจนเกิดการล้มตายอีกไม่ได้ และที่ผ่านมาถือเป็นบทเรียนแห่งความล้มเหลว นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติจะต้องจัดทำแผนการดำเนินงาน โดยอันดับแรกจะเริ่มจากการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ถ้าเราจะทำให้เกิดความมั่นคง ประชาชนมั่นใจ เราจะต้องทำให้แนวชายแดนของเราเกิดการพูดคุย วางแผน วางระเบียบจนเกิดเป็นการไปมาหาสู่ร่วมกัน นี่คือความมั่นคงทางบก โดยต้องบูรณาการกับทุกหน่วยงานด้วย ต่อมาคือความมั่นคงทางทะเล ต้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ต้องมีกฎหมายมาดำเนินการในเรื่องความมั่นคงทางทะเลโดยร่วมมือกับเพื่อนบ้าน เป็นต้น
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า สำหรับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาความมั่นคงแห่งชาติได้มีการจัดทำแผนงานโครงการความมั่นคงและการพัฒนาใหม่ ระหว่างปี 58-60 และ ศอบต.จะต้องจัดทำแผนทำงานบูรณาการร่วมกับคนในพื้นที่ เราต้องการให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เห็นว่า รัฐบาลนี้ดูแลคนไทยไม่ว่าจะศาสนาใดให้อยู่ดีกินดี และลดความเหลื่อมล้ำ โดยเราจะขับเคลื่อน 3 ระดับ คือ ระดับนโยบาย คือนายกฯ ลงมาสู่ระดับปฏิบัติ ซึ่งคือรองนายกฯ และระดับปฏิบัติในพื้นที่ มี กอ.รมน. ศอบต. แม่ทัพภาค 4 เป็นผู้ขับเคลื่อนร่วมกับคนในพื้นที่ ทั้งนี้ ในระหว่าง 2 ปีที่ผ่านมา ยืนยันว่าทุกอย่างดำเนินการไปได้อย่างดี ไม่ได้หมายความว่าปัญหาหมดไป แต่ปัญหาลดลง 50-60% ส่วนเรื่องการข่าว เรามุ่งเน้นการบูรณาการด้านการข่าวเพื่อประสิทธิภาพ โดยเราให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะถ้าการข่าวไม่ดีเราก็ไม่สามารถที่จะทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นได้ แม้เราจะมีกำลังมาแค่ไหนแต่ไม่รู้ว่าข้าศึกเป็นใครก็ทำอะไรไม่ได้ เรื่องความขัดแย้งก็เช่นกัน การข่าวต้องลงไปดูว่าเราเกิดความขัดแย้งอะไรบ้าง และใครทำให้เกิด
“ขณะนี้เรายอมรับว่าประเทศของเราไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ในทางปฏิบัตินั้นเราพยายามทำให้เป็น ถ้าวันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตัดสินใจเข้ามาเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ วันนี้ก็ไม่รู้ว่าประเทศของเราจะเกิดอะไรขึ้น พวกเราต้องยอมรับว่านายกฯท่านเป็นผู้เสียสละ ถ้าท่านไม่เข้ามา เราจะไม่สามารถมีความสุขได้เลย ทั้งนี้ แม้ว่าพวกเรามาอย่างไม่ถูก แต่ความตั้งใจที่จะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้านั้นมีมากมายมหาศาล ตนไม่ได้อวยให้ฟัง แค่พูด มีคนบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี แต่ตนก็เห็นตัวเลขเขียวอยู่ และเขียวอยู่ประเทศเดียวด้วย” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ไม่มีความคิดเห็น: