PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

รอกำหนดโทษ 1 ปี #คดีกำแพงใจ 22 ฅนรักษ์บ้านเกิดจังหวัดเลย

รอกำหนดโทษ 1 ปี #คดีกำแพงใจ 22 ฅนรักษ์บ้านเกิดจังหวัดเลย
วันนี้(24 กรกฎาคม 2560) เพจเหมืองแร่เมืองเลย รายงานว่า เวลา 09.00 น. ที่ ศาลจังหวัดเลย มีคำพิพากษาให้ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดจังหวัดเลยทั้ง 22 คน มีความผิด ตาม พ.ร.บ.ทางหลวง ปี 2535 มาตรา 38, 39, 71 และ 72 แต่ให้รอกำหนดโทษ 1 ปี
คดีนี้เนื่องจากเมื่อปี 2556 ชาวบ้านร่วมกันก่อสร้าง “กำแพงใจ” ถึง 3 ครั้ง เพื่อแสดงออกถึงการคัดค้านการทำเหมืองแร่ทองคำ เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งน้ำลำธาร และวิถีชีวิตชุมชน ทั้งนี้การสร้างกำแพงใจเป็นมติร่วมกันของชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดทั้ง 6 หมู่บ้าน ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย เพื่อป้องกันรถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกิน 15 ตัน และรถบรรทุกสารเคมีอันตราย จนนำมาสู่การฟ้องโดยบริษัทและองค์การบริหารส่วนตำบลเขาหลวงฟ้องร้องในข้อหาร่วมกันสร้างสิ่งกีดขวางบนทางสาธารณะและผิวจราจรน่าจะเป็นอันตรายต่อยานพาหนะโดยไม่ได้รับอนุญาต ในระหว่างวันที่ 7 กันยายน 2556 - วันที่ 11 ตุลาคม 2556 รวม 22 คน
หลังศาลอ่านคำพิพากษา ส. รัตนมณี พลกล้า นักกฏหมายจากศูนย์ข้อมูลชุมชน ทนายความจำเลยในคดีกล่าวถึงเนื้อหาคำพิพากษาว่า "นั่นหมายความว่าไม่มีการลงโทษอะไร ไม่ได้เป็นการรอลงอาญา แต่หากภายใน 1 ปีนี้พบว่ามีการกระทำความผิด หรือถูกลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมในคดีอื่นๆ ความผิดในครั้งนี้จะถูกนำมาพิจารณาว่าจะมีบทลงโทษอย่างไร"
ก่อนหน้านี้ชาวบ้านเคยร่วมกันสร้างกำแพงใจ 3 ครั้ง แต่ก็ถูกทำลายทั้ง 3 ครั้ง ครั้งแรกสร้างขึ้นในวันที่ 7 กันยายน 2556 แต่ต่อมามีบุคคลที่ปิดบังใบหน้าพร้อมอาวุธครบมือเข้ามาทำลายกำแพงดังกล่าว
จากนั้น 22 กันยายน 2556 ชาวบ้านมีมติรวมกันก่อสร้างกำแพงใจขึ้นเป็นครั้งที่ 2 กระทั่ง 11 ตุลาคม 2556 มีพนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลเขาหลวงร่วมกันรื้อทำลายกำแพงใจของชาวบ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 100 นายให้การคุ้มกัน หลังจากนั้นชาวบ้านประชุมหารือกันสุดท้ายมีมติให้สร้างกำแพงใจครั้งที่ 3 ในวันเดียวกันนั้นเอง ก่อนที่กำแพงแห่งจะถูกทำลายลงเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 โดยฝีมือชายฉกรรจ์ 200 กว่านาย ปิดบังใบหน้า พร้อมอาวุธครบมือเข้ามาทำร้ายและกักขังชาวบ้าน จากนั้นทำลายกำแพงใจของชาวบ้าน เปิดทางให้นำรถบรรทุกพ่วงเข้าไปขนแร่จากเหมืองออกไปจากพื้นที่
โดยการสร้างกำแพงทั้ง 3 ครั้งนั้น นำมาซึ่งการฟ้องร้องดำเนินคดีกับกลุ่มชาวบ้านถึง 6 คดี เรียกค่าเสียหายกว่า 270 ล้านบาท
นอกจากคดีนี้แล้ว วันพรุ่งนี้ (25 กรกฎาคม 2560) ยังมีคดีเสรีภาพของกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดจังหวัดเลย อีกคดีหนึ่ง อัยการจังหวัดเลยจะมีคำสั่งฟ้อง/ไม่ฟ้อง แม่หญิง 7 คน
ในข้อหา ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นหรือของผู้อื่น จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น, เป็นผู้จัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้ได้รับแจ้งไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมงตามที่กฎหมายกำหนดและในวันที่ 13 มิถุนายน 2560 ตำรวจได้เพิ่มข้อหาต่อแม่หญิง 7 รายด้วยข้อหา ร่วมกันชุมนุมสาธารณะกีดขวางทางเข้าออกและรบกวนการปฏิบัติงานสถานที่ทำการหน่วยงานรัฐ
ขอบคุณภาพประกอบจากเพจเหมืองแร่เมืองเลย
อ่านรายละเอียดคดีแม่หญิง 7 คน เพิ่มเติมได้ที่ --->https://freedom.ilaw.or.th/case/797

ไม่มีความคิดเห็น: