พันธมิตรไม่รู้รึ พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องใคร!
ศาลฎีกาฯยกฟ้อง นายสมชาย/ พล.อ.ชวลิต /พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณพล.ต.ท.สุชาติสลายม็อบพันธมิตรชี้ไม่มีเจตนาให้สูญเสีย
หลังฟังคำพิพากษายกฟ้องแล้ว
นายสมชายเดินทางกลับออกทางชั้น2
ไม่ได้ออกทางประตูหน้า
เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับมวลชน
ที่ตะโกนว่า”ฆาตกร”ตลอดเวลา
นายสมชายเดินทางกลับออกทางชั้น2
ไม่ได้ออกทางประตูหน้า
เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับมวลชน
ที่ตะโกนว่า”ฆาตกร”ตลอดเวลา
(คลิป)นิสัยเขาเป็นแบบนี้
หน้าศาลมีเหตุวุ่นวาย เมื่อพันธมิตรบางคน
เข้าไปนั่งฟังในศาลไม่ได้
โวยวายว่าทำไม ตร.กลุ่มนี้จะเข้าไปได้
หน้าศาลมีเหตุวุ่นวาย เมื่อพันธมิตรบางคน
เข้าไปนั่งฟังในศาลไม่ได้
โวยวายว่าทำไม ตร.กลุ่มนี้จะเข้าไปได้
หลังศาลตัดสิน พันธมิตร บางส่วนที่มาฟังผลต่างแสดงความเห็นและความรู้สึก
อ่านเพิ่มได้จากข่าวจากมติชน
///
ศาลฎีกาฯยกฟ้อง”สมชาย-บิ๊กจิ๋ว-พัชรวาท-สุชาติ”สลายม็อบพันธมิตร ชี้ไม่มีเจตนาให้สูญเสีย
คดีนี้โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2558 กล่าวหาว่าจำเลยทั้ง4คน ประกอบด้วย จำเลยที่1 ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จำเลยที่2 ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี (ดูแลงานด้านความมั่นคง) จำเลยที่3ขณะดำรงตำแหน่งผบ.ตร. และจำเลยที่4ขณะดำรงตำแหน่งผบช.น. ร่วมกันสลายการชุมนุมและไม่ดำเนินการระงับยับยั้งเป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตาย อันเป็นความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ,83
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธ
ศาลเริ่มไต่สวนพยานหลักฐานนัดแรก เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2559 โดยอนุญาตให้คู่ความทั้งสองฝ่ายนำพยานเข้าไต่สวนทั้งหมดรวม 47 ปาก ซึ่งเป็นพยานฝ่ายโจทก์15ปาก ฝ่ายจำเลยทั้งสี่32 ปาก ใช้เวลาไต่สวน 21 นัด คดีเสร็จการไต่สวนเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560
ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าในเหตุการณ์ช่วงเช้าของวันที่7ตุลาคม 2551 จำเลยทั้งสี่ร่วมกันสั่งการให้มีการเปิดทางเข้ารัฐสภาเพื่อให้คณะรัฐมนตรีเข้าไปแถลงนโยบายต่อรัฐสภา อันเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 176 บัญญัติไว้ การที่ผู้ชุมนุมปิดล้อมรัฐสภาโดยปิดล้อมประตูเข้าออกไว้ทุกด้าน ถือว่าเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ และมิได้เป็นการชุมนุมที่ได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของแผนรักษาความสงบ(กรกฎ/48)โดยใช้มาตรการควบคุมฝูงชนจากเบาไปหาหนักแล้วเท่าที่จะทำได้ในสถานการณ์ขณะนั้น พยานหลักฐานโจทก์รับฟังไม่ได้ว่า จำเลยทั้งสี่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังฟังคำพิพากษายกฟ้องแล้ว นายสมชายเดินทางกลับออกทางชั้น2 ไม่ได้ออกทางประตูหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับมวลชน ที่ตะโกนว่า”ฆาตกร”ตลอดเวลา
โดยนายสมชาย กล่าวสั้นๆว่า ยินดี ขอบคุณ ซาบซึ้งใจที่สถาบันตุลาการเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ ทุกอย่างเป็นไปตามที่ศาลวินิจฉัยมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น