PR

@@ในความเคลื่อนไหวของสถานการณ์ที่ปรากฎเป็น"ข่าว"และ"ไม่เป็นข่าว"พยายามสแกนย่นย่อมานำเสนอและเป็นไว้เป็นฐานข้อมูลสังเคราะห์สถานการณ์ ที่นี่ "ข่าวที่ไม่เป็นข่าว"

วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2560

‘ลุงตู่’เล่นเต็มตัวแล้ว

‘ลุงตู่’เล่นเต็มตัวแล้ว

“นี่แหละบรรยากาศเลือกตั้งมาแล้ว”
ในอารมณ์แบบที่ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.พูดติดตลก ภายหลังเปิดโอกาสให้นายประภัตร โพธสุธน แกนนำรุ่นเก๋าพรรคชาติไทยพัฒนา ปราศรัยย่อยระหว่างให้การต้อนรับคณะนายกฯ
ยุให้รัฐบาลอยู่ยาวอีก 8 ปี 10 ปี เลือกตั้งเร็วไม่ได้ประโยชน์เพราะวันนี้ยังทะเลาะกัน
ช็อตเด็ดอยู่ตรงที่นายประภัตรหยอกเอินเป็นนัย วันนี้ขอเพียงรัฐบาลแบ่งงบประมาณจากโครงการรถไฟความเร็วสูงมาช่วยชาวนา เพราะเมื่อปากท้องของประชาชนอยู่ได้ นายกฯจะอยู่ต่อก็ไม่ว่า
เรื่องของเรื่องถ้าเป็นช็อตรายวัน “นายกฯลุงตู่” คงหัวร้อนสวนควันปืนไปแล้ว กับแนวที่นักการเมืองพูดให้ชาวบ้านเข้าใจผิดเป็นเรื่องง่าย แต่การอธิบายให้เข้าใจถูกเป็นเรื่องยาก
เอาเรื่องข้าวกับรถไฟความเร็วสูงมาเหมารวมเป็นเรื่องเดียวกัน
แต่บังเอิญว่านี่เป็นฉากสำคัญ ประเดิมครั้งแรกที่ “นายกฯลุงตู่” ได้สัมผัสตรงกับนักการเมืองอาชีพ
จากที่ปิดประตูใส่หน้า ไว้เนื้อไว้ตัวมาตลอด 3 ปีนับจากวันยึดอำนาจ
ที่สำคัญประเมินจากอาการของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่แสดงความเป็นกันเอง ทักทาย
“ลูกท็อป” นายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรชายของนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ รวมถึงหยอกล้อกับนายกรวีร์ นายภราดร ปริศนานันทกุล เป็นเชิงตัดพ้อต่อว่า
ฝากไปถึงนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำรุ่นใหญ่พรรคชาติไทยพัฒนา
พูดจาภาษาดอกไม้กับเจ้าของพื้นที่ที่มาคอยต้อนรับนายกฯ
ในจังหวะต่อเนื่องกับที่จังหวัดอยุธยาก็มีการเปิดคิวให้นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีต รมช.คมนาคม นางสมทรง พันธุ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด พระนครศรีอยุธยา นักการเมืองเจ้าของพื้นที่ได้เข้าพูดจาสนทนาปราศรัยกับ “นายกฯลุงตู่”
ทั้งสุพรรณฯและอยุธยา ดูจากยุทธศาสตร์ก็ชัด พล.อ.ประยุทธ์และทีมรัฐบาลคสช.เริ่มเปิดพื้นที่ให้นักการเมืองเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมือง
เจาะช่องระบายแรงเสียดทาน ลดแรงกดดัน
ภายใต้เงื่อนไขสถานการณ์กระแสเร้าเลือกตั้งเริ่มดังขึ้นช่วงปลายทางโรดแม็ป ท้ายเทอมรัฐบาล
โดยในเบื้องต้นเริ่มผ่อนเงื่อนไขให้กับพวกไม่มีเงื่อนไขก่อน ตามสถานะของพรรคชาติไทยพัฒนาที่อยู่ตรงกลางไม่เลือกข้าง อีกทั้งสังเกตว่าเลือกคนรุ่นใหม่ที่แนวคิดเปิดกว้าง ไม่ยึดติดอยู่กับความแตกแยกทางการเมืองของคนรุ่นเก่า ตรงกับคอนเซปต์ยุคปฏิรูปตามแนวทาง คสช.
รุ่นลูกสลับมาลงสนามการเมืองแทนพ่อ
และนั่นก็อาจต่อเนื่องไปถึงดีลการเมืองในช็อตต่อไป กับ สถานะของรัฐบาลช่วงเปลี่ยนผ่านที่ “นายกฯลุงตู่” เป็นมือวางอันดับหนึ่งคุมเกมอำนาจยาว
เอาเป็นว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าหากทีมงานพรรคชาติไทยพัฒนาจะมีโควตาอยู่ในโพยรัฐบาลเพื่อการปฏิรูป ล้อข่าววงใน พล.อ.ประยุทธ์จ่อตัดสินใจปรับ ครม.
ลดโควตาทหาร เพิ่มพื้นที่ให้ภาคส่วนต่างๆรวมถึงนักการเมืองเข้าร่วม
ชาติไทยพัฒนานำร่องมาแล้ว แนวโน้มน่าจะตามด้วยค่ายขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมถึงนักการเมืองที่มีคุณสมบัติเข้าสเปกรัฐบาลเพื่อการปฏิรูป ไม่ผูกติดกับขั้วขัดแย้ง
ปล่อยประชาธิปัตย์ เพื่อไทย กิน “องุ่นเปรี้ยว” ไป
ในมุมที่เสียงเรียกร้องให้เลือกตั้งก็จะเบาลง ตามสภาพความเป็นจริงแบบที่นักการเมืองจอมเก๋าลายครามอย่างนายประภัตรยุให้รัฐบาล “ลุงตู่” อยู่ต่อไป ถ้าเลือกตั้งก็วุ่นวาย เพราะยังทะเลาะ กันไม่เลิก
ตรงนี้สะท้อนถึง “ความเก๋า” มือวางยุทธศาสตร์การเมืองของทีม คสช.
เดินแต้มการเมือง วางหมากการตลาดให้ “นายกฯลุงตู่” ได้อย่างกลมกลืน ตรงกับบุคลิกของเจ้าตัวที่มีต้นทุนความเป็นคนน่ารัก ถึงโกรธก็เกลียดไม่ค่อยลง
โดยเฉพาะคุณลักษณะพิเศษ เล่นได้ทุกบทบาทอย่างเป็นธรรมชาติ
แบบที่เดินตลาด กินข้าวแกง ชิมขนมครก ฟังลำตัด ร้องลิเก ฯลฯ
เล่นบทเป็นนักการเมืองเต็มตัวไปแล้ว.
ทีมข่าวการเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: