บิ๊กตู่ ใช้ม.44 ตั้ง สนง.บริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ขึ้นตรงนายกฯ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๖๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับ มาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๖ แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐๐/๒๕๕๗ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และกฎหมาย ว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศกราช ั ๒๕๕๗ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “มาตรา ๖ สํานักนายกรัฐมนตรี มีอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการทั่วไปของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี รับผิดชอบการบริหารราชการทั่วไป เสนอแนะนโยบายและวางแผนการพัฒนา ด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และความมั่นคง และราชการเกี่ยวกับการงบประมาณ ระบบราชการ การบริหารงานบุคคล กฎหมายและการพัฒนากฎหมาย การติดตามและประเมินผลการปฏิบัติราชการ การส่งเสริมการลงทุน การบริหารจัดการทรัพยากรน้ํา การปฏิบัติภารกิจพิเศษและราชการอื่นตามที่มี กฎหมายกําหนดให้เป็นอํานาจหน้าที่ของสํานักนายกรัฐมนตรีหรือส่วนราชการที่สังกัดสํานักนายกรัฐมนตรี หรือที่มิได้อยู่ภายในอํานาจหน้าที่ของกระทรวงใดโดยเฉพาะ”
ข้อ ๒ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๑๔) ของมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๐๐/๒๕๕๗ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม และกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ “(๑๔) สํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ”
ข้อ ๓ ให้สํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นส่วนราชการที่อยู่ในบังคับบัญชา ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดยมีส่วนราชการ หน้าที่และอํานาจตามที่บัญญัติในกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และเป็นฝ่ายบูรณาการข้อมูลสารสนเทศ ฝ่ายแผนงาน โครงการ ฝ่ายงบประมาณบริหารจัดการ และฝ่ายติดตามและประเมินผลการบริหาร จัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อประโยชน์ในการกําหนดนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้งระบบ ในกรณีมีเหตุจําเป็นฉุกเฉิน ให้สํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติมีอํานาจจัดตั้ง ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราว และมีอํานาจในการขอเจ้าหน้าที่ในส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ มาปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความจําเป็นและเหมาะสม ให้มีผู้อํานวยการสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างในสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี
ข้อ ๔ ให้สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการ พลเรือน สํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณา เพื่อโอนหน่วยงานในระดับต่ำกว่ากรมจากส่วนราชการต่าง ๆ ไปเป็นของสํานักงานบริหารจัดการ ทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และกําหนดหรือปรับปรุงตําแหน่งข้าราชการ ตลอดจนจัดสรรอัตรากําลัง ให้สํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ําแห่งชาติให้เหมาะสมตามความจําเป็นแก่ภารกิจ
ข้อ ๕ ในระยะเริ่มแรก ให้สํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ําแห่งชาติประสานงานกับกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และให้ปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการดําเนินการของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติตามกฎหมายและคําสั่งที่เกี่ยวข้อง และให้ผู้อํานวยการสํานักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเป็นกรรมการ และเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ตามคําสั่งสํานักนายกรัฐมนตรี ที่ ๑๘๕/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติมจนกว่านายกรัฐมนตรีจะมีคําสั่งเป็นประการอื่น ข้อ ๖ ในกรณีที่เห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้
ข้อ ๗ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๒๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแหงชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น